ส.ส.ก้าวไกล ซัด ‘ชัยวัฒน์’ รำไม่ดีโทษปี่โทษกลอง แซะแนวคิดแบบนี้ ‘ไฟป่า’ ถึงแก้ไม่ได้สักที ท้าเปิดหลักฐานให้ชัด คนการเมืองจุดไฟ ถามรัฐบาลยอมรับได้หรือ จนท.ระดับบริหารแนวคิดแบบนี้
เมื่อวันที่ 19 เมษายน นายภัทรพงษ์ ลีลาภัทร์ ส.ส.เชียงใหม่ พรรคก้าวไกล ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่ นายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร ผู้อำนวยการสำนักอุทยานแห่งชาติ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ออกมาแสดงความเห็นว่าไฟป่า จ.เชียงใหม่ เกิดจากคนการเมืองว่า อคติทางการเมืองแบบทำให้แก้ไขปัญหาไฟป่าได้สักที จากการที่ได้ฟังสัมภาษณ์คิดว่าการระบุว่าสร้างสถานการณ์เพื่อเอาชนะทางการเมืองนั้นไม่ถูกต้องเท่าไหร่
“ถึงขั้นเอาแผนที่เขตเลือกตั้ง ส.ส.มาแบ่งสีชัดเจนเลยว่าเป็นสีส้มชัดๆ และทำแผนผังระบุว่าไฟป่าเกิดขึ้นสูงมากในช่วงที่นักการเมืองระดับบิ๊กลงพื้นที่ แล้วก็พูดถึงว่าไม่ได้จะตำหนิ แต่แค่เตือนสติว่าวันหนึ่งฝ่ายค้านก็ต้องมาเป็นรัฐบาล อย่าทำแบบนี้ จะไปกระทบกับป่าของผม สัตว์ป่าของผม ผมว่าอันนี้มันตลกมาก เพราะเป็นการชี้แจงที่สะท้อนให้เห็นเลยว่าทำไมเราถึงแก้ปัญหานี้ไม่ได้สักที” นายภัทรพงษ์กล่าว
นายภัทรพงษ์กล่าวว่า เป็นการกล่าวหาที่ร้ายแรงมาก ใช้แต่ความรู้สึกและความอคติล้วนๆ โดยไม่มีข้อเท็จจริง ไม่ต่างอะไรจากรำไม่ดีโทษปี่โทษกลอง คุมไฟป่าไม่ได้แล้วโทษพรรคการเมือง
นายภัทรพงษ์กล่าวต่อว่า พรรคก้าวไกลเราตั้งทีมก้าวไกลสู้ไฟป่าเพื่อสนับสนุนการทำงานของหน่วยงานราชการที่ของบไป 1,709 ล้านบาท แต่ได้แค่ 50 ล้านบาทเท่านั้น ถ้านายชัยวัฒน์ได้ไปดูการเตรียมการรับมือ จะเห็นชัดเจนว่าก่อนเริ่มต้นแก้ปัญหาไฟป่าหน่วยงานต่างๆ แทบไม่มีอุปกรณ์ที่จำเป็นในการดับไฟ ทั้งโดรนตรวจจับความร้อน เครื่องเป่าลม นอกจากนี้ ยังต้องควักกระเป๋าซ่อมกันเอง ถ้านายชัยวัฒน์ไปดูข้อมูลจะรู้ว่าทำไมปัญหามันลุกลามขนาดนี้
“ถ้าบอกว่าเกิดขึ้นในปีนี้ ลองไปดูข้อมูลปี 2566 ก็ได้ จำนวนจุดความร้อนรายวันระบุชัดเจนอยู่แล้วว่ามันสูงขึ้นช่วงเดือนมีนาคมเหมือนกัน จากคำพูดที่เป็นเจ้าหน้าที่ระดับผู้อำนวยการ (ผอ.) แบบนี้ ผมอยากจะขอถามกลับไปทางรัฐบาลว่าแนวคิดแบบนี้เป็นที่ยอมรับได้หรือไม่ พรรคฝ่ายค้านมาจุดไฟไล่รัฐบาล ผมว่าแนวคิดนี้ควรเลิกไปได้แล้ว เพราะถ้าคิดแบบนี้จริง ยุบฝ่ายค้านไปเลยดีกว่า จะได้ไม่เกิดไฟป่า
ผมขอแจ้งให้ประชาชนทราบโดยทั่วกันเลยว่า ทุกวันนี้กระทรวงการคลังของนายกรัฐมนตรียังจัดทำเกณฑ์ประกาศในการให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM2.5) ยังไม่เสร็จเลย นี่จะพ้นเดือน เม.ย.แล้ว ต้องรอปัญหาให้หมดไปก่อนถึงจะทำเสร็จหรือไม่” นายภัทรพงษ์กล่าว
นายภัทรพงษ์กล่าวว่า ผู้นำที่ดีควรเห็นปัญหาแล้วหาทางแก้ ไม่ใช่อ้างแต่ทางตัน เลิกโทษนักการเมือง เพราะตนก็เป็นประชาชนเหมือนกัน ต้องใช้ปอดสูดฝุ่นเหมือนทุกคน
เมื่อถามว่า จะทำอย่างไรต่อ นายภัทรพงษ์กล่าวว่า เราควรใช้ช่องทางกรรมาธิการ (กมธ.) สภาผู้แทนราษฎรให้เกิดประโยชน์ แต่ช่วงนี้ยังปิดสมัย ดังนั้น ควรจะมีพื้นที่เป็นวงเปิดให้กรมอุทยานฯได้มีโอกาสพูดคุยกับฝ่ายรัฐบาลและฝ่ายค้านเพื่อทำความเข้าใจให้ชัดเจนว่าทำไมระดับ ผอ.ถึงมีความคิดแบบนี้
“คุณเคยเข้าพื้นที่ไปดูไฟป่าก่อนที่จะเจอปัญหาหรือไม่ ได้ดูไหมว่ามีอุปกรณ์เพียงพอหรือเปล่า เคยรู้ข้อมูลพวกนี้หรือเปล่า ก่อนจะมาโทษว่าเป็นเพราะนักการเมือง” นายภัทรพงษ์กล่าว
เมื่อถามว่า ยืนยันว่าฝ่ายการเมืองไม่ได้จุดใช่หรือไม่ นายภัทรพงษ์ยืนยันว่า ไม่ได้จุด ไม่มีนักการเมืองคนไหนจะไปจุดไฟให้เกิดไฟป่าแบบนี้ แน่นอนว่าสาเหตุเกิดจากคน แต่การที่มากล่าวอ้างว่าต้องการชนะทางการเมือง ตนคิดว่าเป็นข้อกล่าวอ้างที่รุนแรงมาก และขอให้นายชัยวัฒน์เอาหลักฐานออกมาเปิดให้ประชาชนดู ถ้าไม่มีหลักฐานแล้วมาพูดลอยๆ ไม่ต่างจากการเอาอคติ ความรู้สึกส่วนตัวมาพูดในหมวกของ ผอ.หน่วยงานของรัฐ ให้ประชาชนรับทราบข้อมูลที่ผิด
เมื่อถามว่า จะชวนมาลงพื้นที่หรือไม่ นายภัทรพงษ์ตอบว่า ไม่ต้องชวนหรอก เพราะถ้าโพสต์แบบนี้ คงไม่เคยลงพื้นที่อยู่แล้ว อยากให้เขาเห็นปัญหาเอง ถ้าอยากลงพื้นที่จริงทุกหน่วยงานก็พร้อมให้ข้อมูลอยู่แล้ว ตนคิดว่าเจ้าหน้าที่ระดับหน้างานไม่มีใครคิดว่ามาจากนักการเมือง
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- สมคิด เตือนชัยวัฒน์ระวังคำพูด กล่าวหานักการเมืองต้นเหตุไฟป่า ฝาก ‘พัชรวาท’ ดูแลลูกน้อง
- ก้าวไกล ซัดชัยวัฒน์ กล่าวหาร้ายแรง นักการเมืองเอี่ยวเผาป่า เตือนเลิกเถอะ ผูกขาดความรักป่า