คลัง ศึกษาฟื้น LTF-Thai ESG เรียกความเชื่อมั่นตลาดทุนระยะยาว
เมื่อวันที่ 18 มิถุนายน ที่กระทรวงการคลัง นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ขณะนี้กระทรวงการคลังอยู่ระหว่างเตรียมมาตรการเรียกความเชื่อมั่นนักลงทุนในระยะยาว อาทิ การดำเนินกองทุนรวมหุ้นระยะยาว (Long Term Equity Fund: LTF) และกองทุนรวมไทยเพื่อความยั่งยืน (Thai ESG)
นายจุลพันธ์กล่าวว่า อย่างไรก็ตาม กระทรวงการคลังไม่ได้พิจารณาออกมาตรการดูแลตลาดทุนเพราะการแกว่งตัวของหุ้นในระยะสั้น เนื่องจากขณะนี้ดัชนีหุ้นไทยก็กลับมาเป็นบวกแล้ว หลังจากหลุด 1,300 จุด ซึ่งเกิดจากปัจจัยความเชื่อมั่นที่มีผลในระยะสั้น ไม่ได้กระทบปัจจัยพื้นฐานใดๆ และเมื่อมีข่าว ศาลอาญาอนุญาตให้ประกันตัว นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี จำเลยในคดีมาตรา 112 และ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ออกมา หุ้นก็กลับมาเป็นบวกเล็กน้อย
นายจุลพันธ์กล่าวว่า ในฐานะที่เป็นรัฐบาล ต้องดูโครงสร้างระยะยาว และกลไกที่จะมีการเข้าไปเติมในตลาดทุน โดยกลไก 2 กองทุนดังกล่าว ก็เป็นอีกหนึ่งแนวทางที่จะเลือกใช้กองทุนใดกองทุนหนึ่ง ซึ่งทั้ง 2 กองทุนมีลักษณะเช่นเดียวกัน โดย LTF นั้น ขณะนี้กำลังศึกษารายละเอียดอยู่ โดยจะมีการทบทวนระยะเวลาการถือครองให้สั้นลงกว่า 10 ปี เพราะระยะยาวไม่ได้สร้างแรงจูงใจ แต่ยังไม่ได้สรุปว่าจะต้องถือครองอายุกี่ปี และมองเรื่องการจัดเก็บรายได้ที่คุ้มค่าที่จะลงไปยังตลาดทุน
นายจุลพันธ์กล่าวว่า ส่วน Thai ESG จะมีการโฟกัสเรื่องความยั่งยืน ซึ่งตรงกับนโยบายของรัฐบาล เพราะฉะนั้น กระทรวงการคลังมีแนวคิดจะไปดูว่ากลุ่มธุรกิจเพื่อสภาพแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล (ESG) ที่อยู่ในกองทุนนั้นครอบคลุมหรือยัง และจะวางกรอบอย่างไร เนื่องจากการดำเนินการ Thai ESG ครั้งที่ผ่านมาระยะเวลาค่อนข้างสั้น หลายคนเข้าไม่ทัน กระทรวงการคลังจึงต้องการวางกลไกให้เหมาะสม ส่วนการหารือร่วมกับสภาตลาดทุนไทยนั้น ยังไม่ได้กำหนดระยะเวลา
“เราอยากขยายกรอบครอบคลุมกลุ่ม ESG ให้กว้างขึ้น เพราะครั้งที่แล้วยังมีข้อจำกัด ส่วน LTF นั้น เป็นกองทุนที่ไม่ได้เจาะจงกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง ก็ต้องดูระดับนโยบายว่าจะใช้กองทุนใด ทั้งนี้ ยังไม่สามารถระบุกรอบเวลาได้ แต่จะดำเนินการให้เร็วที่สุด” นายจุลพันธ์กล่าว