บทนำ : กม.สุราก้าวหน้า

สภาผู้แทนราษฎรได้ลงมติรับหลักการร่างพระราชบัญญัติภาษีสรรพสามิตหรือ พ.ร.บ.สุราก้าวหน้า ในวาระ 1 เมื่อคืนวันที่ 8 มิถุนายน ด้วยคะแนนเสียงเห็นด้วย 178 เสียง ไม่เห็นด้วย 138 เสียง งดออกเสียง 15 เสียง สาระสำคัญ คือ ปลดล็อกให้มีการผลิตสุรา ผลิตคราฟต์เบียร์ได้ โดยกำหนดให้ผู้ที่ผลิตสุราเพื่อการบริโภคไม่ต้องขอใบอนุญาตและไม่มีความผิด ไม่กำหนดหลักเกณฑ์คุณสมบัติการขอใบอนุญาต เช่น ทุนขั้นต่ำในการจดทะเบียน เปิดทางผู้ประกอบการรายย่อย, ไม่กำหนดหลักเกณฑ์กำลังการผลิต กำลังแรงม้า ฯลฯ

นายเท่าพิภพ ลิ้มจิตรกร ส.ส.กทม. พรรคก้าวไกล ผู้เสนอกฎหมาย อภิปรายว่าตนเองอยากจะรู้ว่า เหตุใดคนตัวเล็กจึงทำเหล้าเบียร์ขายไม่ได้ ร่างกฎหมายนี้เป็นแค่การทลายหลักเกณฑ์ที่ผูกขาดหรือเอื้อนายทุนเท่านั้น ปริมาณเบียร์ที่ผลิตคงไม่ทำให้สัดส่วนการตลาดเพิ่มสูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ หลังการลงมติ พรรคก้าวไกลได้แถลงว่า หากร่าง พ.ร.บ.สุราก้าวหน้าใช้เป็นกฎหมายจริงจะมีประโยชน์ดังนี้ 1.ของถูกจะกลายเป็นของแพง ด้วยการแปรรูปสินค้าเกษตรให้มีมูลค่าสูงขึ้น 2.มีธุรกิจเกิดขึ้นใหม่ และมีเม็ดเงินเข้าสู่เศรษฐกิจชุมชนไม่น้อยกว่า 3 หมื่นล้านบาท 3.เปิดโอกาสการท่องเที่ยวท้องถิ่น เพราะมีสินค้าชุมชนเกิดขึ้นทำให้เกิดอัตลักษณ์ 4.มีภูมิปัญญาท้องถิ่นที่เป็นจุดขายให้กับประเทศได้ 5.ลดการนำเข้าเหล้าเบียร์จากต่างประเทศ และส่งออกได้ด้วย ทำให้เกิดดุลการค้ากลับมา 3 พันล้านบาทต่อปี 6.อำนาจต่อรองราคาพืชผลทางการเกษตร และ 7.เกิดอุตสาหกรรมต่างๆ เช่น การนำกากไปทำอาหารสัตว์ หรือทำก๊าซชีวภาพเพื่อใช้ในครัวเรือน

ต้องจับตาดูต่อไปว่า ในวาระ 2 และ 3 พรรครัฐบาลจะมีท่าทีอย่างไร จะสนับสนุนหรือคว่ำทิ้งไป เนื่องจากเป็นกฎหมายของฝ่ายค้าน และรัฐบาลมีท่าทีไม่เห็นด้วยมาตลอด แม้ว่าภาคประชาชนพยายามผลักดันมาตลอด ในเรื่องนี้ รัฐบาลน่าจะหาทางสดับตรับฟังความคิดเห็นของประชาชนหลายๆ กลุ่ม และใช้กฎหมายฉบับนี้เป็นทางออก ในการเปิดโอกาสให้ประชาชนได้ใช้ผลิตผล ใช้ภูมิปัญญาที่ตกทอดมาจากบรรพบุรุษเพื่อให้เหล้าเบียร์จากภูมิปัญญาของประชาชน เป็นอีกตัวเลือกหนึ่งสำหรับประชาชนคนไทย

เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่