สถานีคิดเลขที่ 12 : ได้กลับ-ก่อนลาออก

สถานีคิดเลขที่ 12 : ได้กลับ-ก่อนลาออก

องค์กรตำรวจนั้น ได้ชื่อว่าเป็นองค์กรที่ไม่มีความเป็นเอกภาพ เต็มไปด้วยความเปราะบาง มีความระส่ำระสายเกิดขึ้นตลอดเวลา นายตำรวจระดับผู้ใหญ่ ขัดแย้งแตกแยกกันบ่อยๆ

กรณีปัญหาระหว่าง พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล หรือบิ๊กต่อ กับ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล หรือบิ๊กโจ๊ก ถือว่าเป็นคู่ขัดแย้งระดับตำนานของวงการสีกากีไปแล้ว

เพราะมีเรื่องงัดข้อกันมายาวนานและโจ่งแจ้ง บางช่วงทำท่าจะเย็นลง แต่สุดท้ายก็กลับไปร้อนระอุอีก ไม่จบได้อย่างง่ายๆ

แต่มาล่าสุด กรณีความขัดแย้งนี้ได้มาถึงจุดเปลี่ยนแปลง เหมือนจะเป็นทางออกเป็นทางลงให้กับคู่กรณี เมื่อมีบทสรุปจากคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงและข้อกฎหมาย ที่มีนายฉัตรชัย พรหมเลิศ เป็นประธาน ส่งมาถึงนายกฯ

โดย นายวิษณุ เครืองาม ที่ปรึกษาของนายกฯ เป็นผู้นั่งแถลงเอง คงเพื่อความรอบคอบ และเพื่อให้คู่กรณีรับฟังอย่างสงบ

จุดสำคัญคือ กระบวนการดำเนินคดีกับบิ๊กต่อและบิ๊กโจ๊ก ให้ดำเนินต่อไป ว่ากันไปตามพยานหลักฐาน แต่ในชั้นนี้เห็นว่า ให้ยุติคำสั่งที่ให้มาปฏิบัติราชการสำนักนายกฯ

ให้ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์กลับไปทำหน้าที่ ผบ.ตร.ดังเดิม ส่วน พล.ต.อ.สุรเชษฐ์นั้น มีคำสั่งให้กลับไปสำนักงานตำรวจแห่งชาติแล้ว ตั้งแต่วันที่ 18 เมษายน เพียงแต่ถัดจากนั้น มีการตั้งกรรมการสอบวินัยและมีคำสั่งให้ออกจากราชการไว้ก่อน ซึ่งอยู่ระหว่างการร้องขอความเป็นธรรมและโต้แย้งกันอยู่

จากคำแถลงล่าสุดของนายวิษณุ จะนำไปสู่การคลี่คลายเช่นไร ต้องเฝ้ารอกันชนิดห้ามกะพริบตา

ถ้าย้อนดูต้นสายปลายเหตุของกรณีนี้ คงจำกันได้ เมื่อนายกฯเศรษฐา ทวีสิน ในฐานะประธาน ก.ตร. ประชุมแต่งตั้ง พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ ขึ้นเป็น ผบ.ตร. เมื่อปลายเดือนกันยายน 2566

หลังจากนั้นไม่กี่วัน มีภาพบิ๊กต่อกับบิ๊กโจ๊ก ยืนโอบเอวกันอย่างชื่นมื่น เพื่อแสดงถึงการคลี่คลายความขัดแย้งของนายตำรวจทั้งสอง

เบื้องหลังมาจากคำสั่งของนายกฯเศรษฐา ที่ต้องการให้ทั้งคู่หันหน้าเข้าหากัน อย่าก่อความขัดแย้งแตกแยก จนทำให้ประชาชนเอือมระอา และหมดหวังในองค์กรผู้พิทักษ์สันติราษฎร์

แต่หลังจากนั้นอีก 5-6 เดือน อุณหภูมิในสำนักปทุมวันก็ร้อนระอุเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

จนเมื่อวันที่ 20 มีนาคม 2567 นายกฯเศรษฐามีคำสั่งเด้งทั้ง พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ และ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ให้มาปฏิบัติราชการที่สำนักนายกรัฐมนตรี

พร้อมกับให้ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รักษาการ ผบ.ตร.

เรื่องดำเนินต่อมา จนได้บทสรุปที่ให้ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์กลับมาทำหน้าที่ ผบ.ตร. พร้อมกับไปต่อสู้คดีต่างๆ ตามกระบวนการต่อไป ส่วน พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ได้ส่งกลับมาก่อนแล้ว เพียงแต่โดนคำสั่งให้ออกจากราชการ

ถัดจากนี้น่าสนใจว่า จะมีทางออกอื่นให้ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์อีกหรือไม่

แต่การที่นายกฯเศรษฐามอบให้ระดับ ดร.วิษณุลงมาดูเรื่องนี้แล้ว คงมีทางลงให้กับทุกฝ่าย น่าจะทำให้ความร้อนแรงคลี่คลายไปได้

โดยเฉพาะกรณี พล.ต.อ.ต่อศักดิ์นั้น มีข่าวสะพัดมาตลอดว่า คงได้กลับมาเป็น ผบ.ตร. แต่จะแสดงสปิริตลาออกจากราชการ เพื่อไปต่อสู้คดีต่างๆ โดยไม่ใช่ในฐานะผู้นำตำรวจ

ตอนจบของหนังชีวิต 2 บิ๊กคู่รักคู่แค้นนี้ จะเป็นเช่นไรแฮปปี้ ไม่แฮปปี้ จบสวย หรือไม่สวย ต้องคอยติดตามกันต่อไป

สุริวงค์ เอื้อปฏิภาน

เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่