สถานีคิดเลขที่ 12 : ซึมต่อหรือสดใส?

การเมืองไทยก้าวเข้าไปในโซนมึนๆ ที่ก่อให้เกิดการคาดคะเนไปต่างๆ นานา

กลายเป็นบรรยากาศของความไม่แน่นอนขึ้นมา

เรื่องที่เกิดขึ้น ไม่ใช่อุบัติเหตุ แต่เกิดขึ้นตามเหตุ ก็คือ กฎกติกาในบ้านเมืองของเรา เปิดช่องทางให้การเมืองเดินไปในทิศทางที่วุ่นๆ นี้

อย่างการเลือก ส.ว. ที่มีกฎกติกาแปลกๆ ทุกวันนี้ไปไหนก็ตาม ยังไม่เลิกถามกันว่า ไปเอาต้นแบบมาจากไหนกัน

Advertisement

คำตอบจะคล้ายๆ กันว่า ไม่เคยเห็นที่ไหน แต่ก็คงจะต้องถามกันต่อไป

อีกวันสองวัน คงเห็นหน้าเห็นตาของว่าที่ ส.ว.ทั้ง 200 คน หลังจากการเลือกในรอบสุดท้ายในวันที่ 26 มิถุนายนผ่านไป

ต้องมารอดูว่า ใครจะผ่านระบบเลือกตั้งสุดพิเศษนี้ เข้าไปเป็นสมาชิกสภาสูงชุดใหม่บ้าง และจะเข้าไปมีบทบาทอย่างไร

Advertisement

สำหรับ ส.ว.ชุดใหม่นี้ มีบทบาทหน้าที่ตามที่รัฐธรรมนูญกำหนด เป็นส่วนหนึ่งของอำนาจนิติบัญญัติ ทำหน้าที่พิจารณากฎหมายที่ผ่านสภาผู้แทนฯ มาแล้ว

อีกเรื่อง คือ การสรรหา การรับรองผู้เหมาะสมไปทำหน้าที่ในองค์กรตามรัฐธรรมนูญ หรือแต่งตั้งองค์กรอิสระต่างๆ

กฎหมายสำคัญ ที่เห็นๆ กันอยู่ตอนนี้ก็คือ ร่าง พ.ร.บ.งบประมาณ 2568 ที่กำลังพิจารณาในชั้นกรรมาธิการของสภาผู้แทนฯ

และแน่นอน อีกงานที่รอ ส.ว.ชุดใหม่อยู่ คือ การแก้ไข หรือการยกร่างรัฐธรรมนูญ ที่วุฒิสภาชุดที่หมดวาระไป ยอมให้แก้เพียงเรื่องการกลับมาใช้บัตร 2 ใบ สำหรับ ส.ส.เขตและปาร์ตี้ลิสต์ นอกนั้นตีตกหมด

แม้สภาผู้แทนฯ ส่งเสียงยืนยัน ต้องการให้แก้ และหลายพรรค เห็นว่า ควรยกร่างใหม่ทั้งฉบับด้วยซ้ำ

รอบนี้ การแก้ไขรัฐธรรมนูญ หรือยกร่างรัฐธรรมนูญใหม่ จะสำเร็จหรือใหม่ ขึ้นอยู่กับ 200 ส.ว.ที่จะเข้ามา

อย่างที่ทราบกันทั่วไปว่า คณะผู้ยกร่างรัฐธรรมนูญ 2560 ตั้งใจทำให้รัฐธรรมนูญฉบับนี้แก้ไขได้ยากมากๆ ให้สมกับที่เสียเวลา เสียงบประมาณจากภาษีประชาชน ยกร่างรัฐธรรมนูญขึ้นมาถึง 2 ฉบับ

ระหว่างปี 2562-2566 สภาผู้แทนฯ เสียเวลาไปมาก กับการอ้อนวอน ขอร้องให้ ส.ว. มาช่วยยกมือแก้ไขรัฐธรรมนูญ

สุดท้ายผ่านได้แค่เรื่องบัตรเลือกตั้ง 2 ใบ หลังจากใช้ระบบบัตรใบเดียว ทูอินวันได้ทั้ง ส.ส.เขตและปาร์ตี้ลิสต์ ทำให้เกิดความยุ่งยากหลังการเลือกตั้ง 2562

ถ้าไม่แก้ การเลือกตั้ง 2566 ที่ผ่านมา คงจะวุ่นวายกว่านี้มาก

น่าเสียดายที่ ระเบียบเลือก ส.ว.ของ กกต.รอบนี้ ไม่ได้เปิดโอกาสให้ผู้สมัคร ส.ว. ได้แสดงทรรศนะทางการเมืองมากนัก ผู้สมัครทุกคนระวังตัวแจ พยายามทำตัวให้เงียบมากที่สุด ตลอดเดือนมิถุนายน ที่มีการเลือก 3 รอบ

หลังจากทราบผล หรือผ่านขั้นตอนที่ กกต.รับรองผลการเลือก ส.ว.เชื่อว่า น่าจะได้ฟังเสียงของ ส.ว.มากขึ้นว่า ในฐานะที่เป็นผู้แทนปวงชน ทั้ง 200 ส.ว. มีมุมมองอย่างไรต่อการเมือง ต้องการเข้ามาปรับเปลี่ยนอะไรบ้าง

จะทำงานให้กับบ้านเมืองกันอย่างไร หรือยืนยันจะสืบทอดเจตนารมณ์ของ ส.ว.ชุดเดิม ก็ว่ากันไป

บรรยากาศมึนๆ งงๆ ของบ้านเมืองเรา จะมีมากขึ้น หรืออยู่ในระดับเดิมๆ หรือจะสว่างสดใสมากขึ้น

น่าจะได้เห็นกันเร็วๆ นี้

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image