จีระชัย ไกลกังวาร นายกเทศมนตรีเมืองวารินชำราบ นักบริหารท้องถิ่นผู้ฟังเสียงประชาชน เมืองที่ใหญ่เป็นอันดับ 2 ของจังหวัด และเป็นเมืองที่มีความสำคัญทางด้านเศรษฐกิจอย่างมากในจังหวัดอุบลราชธานี โดยมีนักบริหารท้องถิ่นที่ได้รับความไว้วางใจจากคนในพื้นที่ยาวนานถึง 7 สมัย จีระชัย ไกลกังวาร นายกเทศมนตรีเมืองวารินชำราบ ที่เปลี่ยนเมืองให้น่าอยู่ภายใต้แนวทาง ‘คนรู้ปัญหาที่แท้จริง คือคนในพื้นที่’
เขาย้อนให้ฟังถึงการก้าวเข้ามาอาสาทำงานให้พี่น้องชาวตำบลวารินชำราบด้วยความมุ่งมั่นว่า “การบริหารบ้านเมืองนั้น สิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือ ต้องทำให้พี่น้องประชาชนมีความสุข จึงมีแนวนโยบายทำให้เมืองวารินชำราบเป็นเมืองน่าอยู่ โครงสร้างพื้นฐานสมบูรณ์ สิ่งแวดล้อมดี มีสถานที่พักผ่อนหย่อนใจให้พี่น้องประชาชนได้เที่ยวเล่นหรือออกกำลังกาย ตลอดจนโรงเรียนที่ได้มาตรฐานเพื่อให้ผู้ปกครองมีความมั่นใจที่จะส่งบุตรหลานเข้ามาศึกษาเล่าเรียน”
พัฒนาศักยภาพเด็กไทยด้วยการศึกษา
หนึ่งในนโยบายที่จีระชัยให้ความสำคัญเป็นอันดับต้นๆ ก็คือการศึกษา ที่นี่มีโรงเรียน 3 แห่งสังกัดกองการศึกษา เทศบาลเมืองวารินชำราบ เริ่มจากโรงเรียนเทศบาลวารินวิชาชาติ เป็นโรงเรียนขนาดใหญ่มีเด็กนักเรียนกว่า 1,800 คน เปิดสอนตั้งแต่อนุบาลจนถึงมัธยมต้น โดยเป็นโรงเรียนขยายโอกาสที่เน้นในเรื่องวิชาการ มีห้องเรียนพิเศษโปรแกรม Science Math English Program และห้องปฎิบัติการทางภาษา มีคุณครูชาวต่างประเทศมาสอนภาษาอังกฤษ ภาษาจีน 
มีทั้งห้องปฎิบัติการคอมพิวเตอร์และเทคโนโลยีเพื่อส่งเสริมทักษะการทำงานในโลกปัจจุบัน เช่น สอนเขียนโค้ดดิ้งบังคับหุ่นยนต์ และห้องเรียนอัจฉริยะ
เคยคว้ารางวัลรองชนะเลิศอันดับ 1 ระดับประเทศ จากการประกวดการแสดงทางวิทยาศาสตร์ (Science show) ชั้นประถมศึกษา จัดโดยอุทยานวิทยาศาสตร์พระจอมเกล้า ณ หว้ากอ จังหวัดประจวบคีรีขันธ์
โรงเรียนแห่งที่สองคือ โรงเรียนเทศบาลบ้านสุขสำราญ ได้ชื่อว่าเป็นโรงเรียนแห่งความสุข อยู่ติดกับวัดผาสุกติการาม วัดที่ให้การส่งเสริมประเพณีแห่เทียนพรรษาจังหวัดอุบลราชธานี โดยจัดทำขบวนต้นเทียนพรรษาเข้าร่วมประกวดทุกปี คว้าแชมป์ก็หลายครั้ง นักเรียนที่นี่จะมีความชอบทางด้านนาฎศิลป์ มีดนตรีไทย ดนตรีสากล และการฟ้อนต่างๆ ตามประเพณีชาวอีสาน
โรงเรียนเทศบาลบ้านหนองตาโผ่นมิตรภาพที่ 5 เน้นในเรื่องส่งเสริมอาชีพ เช่น สอนตัดผม จัดดอกไม้ การโรงแรม งานช่างต่างๆ ตามที่เด็กๆ สนใจ สนับสนุนเต็มที่เช่นกัน เมื่อจบออกไปก็ไปศึกษาต่อสายอาชีพได้
“งบประมาณสนับสนุนการเรียนการสอนและอื่นๆ ที่จำเป็นของทั้ง 3 โรงเรียนนั้น ส่วนหนึ่งโรงเรียนได้รับจากรัฐบาลอยู่แล้ว แต่ส่วนไหนที่ยังคงขาด เทศบาลพร้อมช่วยทันที เป็นไปตามนโยบายของผู้บริหารเทศบาลที่มุ่งเน้นในเรื่องพัฒนาการศึกษา เพราะการลงทุนกับลูกหลานเป็นสิ่งที่คุ้มค่าที่สุด การศึกษาจะอยู่กับเขาไปตลอดชีวิต ได้นำความรู้ที่ได้รับไปสร้างโอกาสสร้างอาชีพเพื่อเลี้ยงดูครอบครัวต่อไป”
ย่านค้าขายไม่มีวันหลับไหล
ตลาดวารินชำราบที่ถูกยกระดับให้เป็นตลาดสดน่าซื้อ ด้วยสินค้ามีหลากหลาย พืชผักผลไม้ เนื้อสัตว์ ของป่าตามฤดูกาล ครบทุกอย่าง เรียกว่าเป็นศูนย์รวมของสินค้าเพื่อประกอบอาหารทุกชนิด และยังเป็นแหล่งค้าขายสินค้าเกษตรของชาวบ้านต่างอำเภอ บรรยากาศคึกคักแบบค้าขายกัน 24 ชั่วโมง แบ่งเป็นตลาดเช้าตรู่ ตลาดช่วงสาย ตลาดบ่าย ตลาดเย็น และตลาดหัวค่ำไปจนถึงตลาดโต้รุ่ง ทำให้มีสินค้าหมุนเวียนอยู่ตลอดเวลา
“เพราะที่นี่เป็นแหล่งกระจายสินค้าทั้งอาหารสด พืชผักจากสวนเกษตรกร สินค้าจากต่างตำบลก็มีเยอะ เทศบาลจึงต้องมีการตรวจสอบคุณภาพสินค้าที่จำหน่ายอย่างสม่ำเสมอ โดยเฉพาะอาหารทะเล ต้องตรวจหาสารปนเปื้อนเดือนละ 2 ครั้ง ส่วนอาหารสดทั่วไปก็อยู่ในการควบคุมของกองสาธารณสุขของเทศบาล มีการดูแลอย่างใกล้ชิด”
ชุมชนต้นแบบ Zero Waste
1 ใน 28 ชุมชนของเทศบาลเมืองวารินชำราบที่มีความโดดเด่นด้านรักษ์โลก ได้รับรางวัลมากมาย จากจุดเริ่มต้นศูนย์การเรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียงก็คือ ชุมชนชลประทาน จากโจทย์ต้องการสร้างความเข้มแข็งให้ชุมชน ด้วยการให้ชุมชนพึ่งพาตนเองในเบื้องต้น มีจิตอาสาช่วยกันดูแลสิ่งแวดล้อม โดยเทศบาลจะทำหน้าที่สนับสนุนและส่งเสริม
ปัจจุบันที่นี่เป็นชุมชนต้นแบบภายใต้โครงการชุมชนปลอดขยะ Zero Waste บริหารจัดการขยะโดยคัดแยกขยะเปียกนำไปทำเป็นปุ๋ยหมัก จากนั้นจึงนำขยะที่เหลือมารีไซเคิลทำเป็นสิ่งของเครื่องใช้ต่างๆ อาทิ ถังขยะลดโลกร้อน ไม้กวาดจากขวดพลาสติก เสื่อจากถุงพลาสติก ผ้ากันเปื้อนจากป้ายไวนิล เตาชีวมวลจากหม้อหุงข้าวที่ไม่ใช้แล้ว เป็นต้น ซึ่งช่วยลดปริมาณขยะในชุมชนที่จะต้องนำไปกำจัดต่อไป
เมืองน่าอยู่จากโครงสร้างพื้นฐานสมบูรณ์
“โครงสร้างพื้นฐานต่างๆ ในเทศบาลเมืองวารินชำราบ ทั้งถนนหนทาง ไฟฟ้า ประปา ถือว่ามีครบสมบูรณ์ 100% ที่เหลือเป็นขั้นตอนการบำรุงรักษา ต้องมีการซ่อมแซมตามอายุใช้งาน ถือว่าเมืองเราพร้อมทุกด้านในเวลานี้ แต่การจะเป็นเมืองน่าอยู่ที่แท้จริง ต้องมีความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของพี่น้องประชาชน มีการติดตั้งกล้อง CCTV เช่นเดียวกับทุกท้องถิ่น มีศูนย์เฝ้าระวัง เวลาเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ตำรวจจะมาขอดูที่ศูนย์ควบคุมกล้องฯ ได้ทันที”
นายกเทศมนตรีเมืองวารินชำราบบอกว่า เนื่องจากเป็นเมืองที่ประสบปัญหาอุทกภัยทุกปี จึงได้สั่งการให้หน่วยป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยทำงาน 24 ชั่วโมง โดยเฉพาะในช่วงที่มีสถานการณ์น้ำท่วมหนัก เจ้าหน้าที่จะออกไปดูแลพี่น้องประชาชนอย่างใกล้ชิด มีการจัดฝึกอบรมอาสาสมัครป้องกันภัยสำหรับพลเรือนเพื่อให้เป็นกำลังเสริมอีกทางหนึ่ง ดูแลคนในครอบครัวและชุมชนในเบื้องต้นได้
“เนื่องจากน้ำท่วมทุกปี ขณะที่เทศบาลเมืองวารินชำราบมี 28 ชุมชน เวลาเกิดอุทกภัยจะส่งผลกระทบไม่ต่ำกว่าครึ่งเมือง เป็นชุมชนที่อยู่ติดลุ่มน้ำมูล ทุกปีจะต้องซ้อมใหญ่เพื่อเตรียมพร้อมอพยพผู้คนออกจากพื้นที่หากเกิดน้ำท่วมหนัก จะมีการเฝ้าระวังต่างๆ เหล่านี้ มีการจัดตั้งศูนย์เฉพาะกิจช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย และสถานีช่วยเหลือผู้ประสบภัยทางน้ำ”
นอกจากการลงมือทำงานอย่างจริงจังจนได้รับความไว้วางใจจากพี่น้องชาววารินชำราบ ดำรงตำแหน่งนายกเทศมนตรีติดต่อกันถึง 7 สมัยแล้ว แน่นอนว่าตลอดระยะเวลาทำงานที่ผ่านมา เขาต้องเผชิญกับปัญหาต่างๆ
“ตราบใดที่เป็นเทศบาล ก็ต้องมีปัญหาให้แก้ไขตลอด จากการทำงานทำให้เรามีประสบการณ์ว่า หากได้รับทราบถึงปัญหาที่แท้จริง จะสามารถแก้ไขได้ทุกปัญหา ทำให้ไม่เป็นกังวลในสิ่งเหล่านี้เลย อีกอย่างคือปัญหาของพี่น้องประชาชนบางเรื่องไปคิดแทนเขาไม่ได้ ใช้สำนวนให้เห็นภาพคือ เกาไม่ถูกที่คัน ต้องถามเขาว่า มีปัญหาแล้วต้องการได้รับการช่วยเหลืออย่างไร ประชาชนก็รู้สึกดีแล้ว”
“ภูมิใจและดีใจ เพราะได้เห็นความเป็นอยู่ของพี่น้องประชาชนตั้งแต่เข้ารับตำแหน่งช่วงแรกๆ จนถึงปัจจุบันก็ได้เห็นการเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้นอย่างมาก รวมถึงสภาพบ้านเมืองต่างๆ ซึ่งส่วนหนึ่งมาจากการได้รับความร่วมมือจากสภาเทศบาลทั้งผู้บริหารและเจ้าหน้าที่ แต่ที่สำคัญคือได้รับความร่วมมืออย่างดีจากพี่น้องประชาชน ทำให้ปัญหาต่างๆ แก้ไขได้ด้วยความเข้าใจอย่างถูกต้อง”
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
วัชชพล ปริสุทธิ์กุล นักบริหารท้องถิ่นคนรุ่นใหม่ของเทศบาลเมืองสะเดา จังหวัดสงขลา
‘เทพพร จำปานวน’ นักบริหารท้องถิ่นผู้คว้ารางวัลบริหารจัดการดีเด่น ‘น้ำประปาดื่มได้’
ประเสริฐ วงษ์ศรี นายกเทศมนตรีตำบลทับมา คนเบื้องหลัง ‘ทับมาเมืองน่าอยู่’
