สถานีคิดเลขที่ 12 : ศึกชิงนายกปทุมฯ

แม้การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดในเดือนมิถุนายนจะมี 3 แห่ง

จังหวัดนครสวรรค์ และจังหวัดอ่างทอง วันที่ 23 มิถุนายน และจังหวัดปทุมธานี วันที่ 30 มิถุนายน

แต่ดูเหมือนว่าสนามการแข่งขันที่เรียกว่าเดือดจะอยู่ที่ปทุมธานี

แม้ในศึกชิงเก้าอี้นายก อบจ.ปทุมธานี จะมีผู้สมัครรับเลือกตั้ง 4 คน

Advertisement

แต่ดูเหมือนว่า คู่ประชันสำคัญที่ตกเป็นข่าวมาตั้งแต่แรกหนีไม่พ้น นายชาญ พวงเพ็ชร์ หมายเลข 1 และ พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง หมายเลข 3

การประชันกันระหว่าง 2 บิ๊กแห่งเมืองปทุมธานีครั้งนี้มีมาตั้งแต่ก่อนการเปิดรับสมัคร

เมื่อ พล.ต.ท.คำรณวิทย์ใช้วิธีลาออกจากนายก อบจ.ปทุมฯ ก่อนจะหมดวาระ และมีการเลือกตั้งใหม่ ความเคลื่อนไหวของนายชาญก็เปล่งประกายออกมาพร้อมๆ กับความคึกคักของพรรคเพื่อไทย

Advertisement

ไม่เพียงความคึกคักจะเกิดขึ้นที่พรรคเพื่อไทยเท่านั้น หากแต่ยังโยงใยไปถึง นายทักษิณ ชินวัตร อีกด้วย

ไม่เพียงแต่นายทักษิณ หากแต่สนามชิงชัยระดับท้องถิ่นนี้ ในตอนแรกๆ ยังมีข่าวว่าพรรคก้าวไกลซึ่งกวาด ส.ส.ปทุมธานีก็สนใจจะลงชิงด้วย

เพียงแต่ในภายหลัง พรรคก้าวไกล ขอไม่ส่งผู้สมัครระบุเหตุผลว่าไม่พร้อม

ความเดือดจึงอยู่ที่นายชาญ กับ พล.ต.ท.คำรณวิทย์

เมื่อผู้ลงชิงชัยมีชื่อเสียง พรรคการเมืองที่ลงมาสนับสนุนเป็นแกนนำรัฐบาล แถมยังมีนายทักษิณออกมาเคลื่อนไหวด้วย

ศึกเลือกตั้งนายก อบจ.ปทุมธานีจึงเข้มข้น

แว่วว่า งานนี้มีการเฉือนคมกันหลากหลายวิธีการ

วันสมัครรับเลือกตั้งก็มีการชิงหมายเลข นายชาญได้หมายเลข 1 อยู่แล้ว แต่มีการคาดหมายว่า พล.ต.ท.คำรณวิทย์ อยากได้เบอร์ 2 เพราะเป็นมงคลชีวิต จึงมีความคิดที่จะสกัด

แต่จริงๆ แล้ว พล.ต.ท.คำรณวิทย์ไปได้เลขเด็ดคือหมายเลข 3 จึงไม่สนใจหมายเลข 2 ทำให้วันแรก พล.ต.ท.คำรณวิทย์ไม่ไปสมัคร และเลือกที่จะไปสมัครในวันที่ 2 เพื่อให้ได้หมายเลข 3 ตามประสงค์

ความเดือดเพิ่มอุณหภูมิ เมื่อนายทักษิณไปเป็นประธานงานบวชของลูกชายนายกเบี้ยว ที่ปทุมธานี เมื่อวันที่ 8 มิถุนายน

เหตุการณ์ในวันนั้นกลายเป็นประเด็นที่มีผู้ยื่นร้องเรียนกล่าวหาว่ามีการกระทำผิดกฎหมายเลือกตั้ง

โทษทัณฑ์จากข้อกล่าวหานอกจากมุ่งเป้าไปที่ผู้สมัครแล้วยังพาดพิงไปถึงพรรคการเมืองที่สนับสนุนด้วย

การต่อสู้ระหว่าง นายชาญ กับ พล.ต.ท.คำรณวิทย์ จึงร้อนแรงขึ้นเรื่อยๆ

และมีเรื่องที่น่าสนใจหลากหลายมิติ

ในมิติของคะแนนเสียง คะแนนเสียงเดิมเมื่อการเลือกตั้งนายก อบจ.ปทุมฯ

ครั้งที่แล้ว พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ได้ 2.5 แสนคะแนน ขณะที่นายชาญ ได้ 2.2 แสนคะแนน

น่าสนใจว่า คะแนนความนิยม พล.ต.ท.คำรณวิทย์ และนายชาญ จะยังคงเดิมหรือเพิ่มขึ้นแค่ไหน

ขณะเดียวกัน ความนิยมของผู้สมัครรับเลือกตั้งอีก 2 คนที่เหลือจะแบ่งคะแนนความนิยมไปได้หรือเปล่า

ขณะที่มิติของคดีความที่มีการร้องเรียนทิ้งเอาไว้นั้น ผลจากการร้องเรียนจะมีผลออกมาเช่นไร

เช่นเดียวกับมิติของความผูกพันระหว่าง พล.ต.ท.คำรณวิทย์ กับ นายทักษิณ

ต้องไปดูว่าสุดท้ายแล้ว รอยปริร้าวจากการเลือกตั้งท้องถิ่นจะขยายกว้าง หรือจะได้รับสมานกลับคืนหลังผลการเลือกตั้งออกมา

ทุกประการล้วนเป็นสิ่งที่น่าติดตาม

เพราะแม้จะเป็นการเลือกตั้งระดับท้องถิ่น แต่ดูเหมือนจะส่งผลถึงการเมืองระดับชาติด้วย

นฤตย์ เสกธีระ
[email protected]

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image