นิสสัน คิกส์ อี-พาวเวอร์ เติมสปอร์ตหรู ชู ‘สตาร์ อีดิชั่น’

ในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อเปลี่ยนผ่านเทคโนโลยีรถยนต์สันดาปภายในไปสู้เทคโนโลยีรถยนต์ไฟฟ้า หรืออีวี

แม้ว่าค่ายรถยนต์จากจีนจะกรีฑาทัพยกพลขึ้นบกที่เมืองไทย ระดมรถรุ่นใหม่ หั่นราคาลง เป็นอานิสงส์จากการทำเอฟทีเอระหว่างไทยกับจีน ทำให้ลดต้นทุนภาษีไปได้มาก เมื่อเกิดสถานการณ์กำลังผลิตล้นจากเมืองจีน จึงไหลบ่ามาสู่เมืองไทย มาสร้างฐานการผลิตโรงงานหลายแห่ง ด้วยจุดแข็งด้านต้นทุนการผลิตต่ำ

แต่ในขณะที่ปัจจัยรองรับการใช้งานรถอีวียังไม่ดีพอ แบตเตอรี่ยังมีแนวโน้มดีขึ้นกว่าเดิมในเร็ววันนี้ แถมมีปัญหาเรื่องการประกันภัยเบี้ยสูง และราคาขายต่อยังไม่มีใครคาดเดาได้ว่าจะร่วงไปถึงจุดไหน ลูกค้ายังลังเล

ดังนั้น ค่ายรถยนต์ญี่ปุ่นจึงพลิกตำรารับมือ ต่างก็พยายามหาเทคโนโลยีที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ลดคาร์บอน ที่สำคัญประหยัดพลังงาน ออกมาสู้

ทำให้ค่ายญี่ปุ่นหลายค่าย เดินหน้าพัฒนาเทคโนโลยีไฮบริด เอามานำเสนอก่อนถึงยุคของอีวีอย่างเต็มรูปแบบ มียอดขายคึกคักไปทั่วโลก

แต่สำหรับค่ายนิสสัน ได้ปรับกลยุทธ์ไม่เดินตามค่ายอื่น แต่พัฒนาเทคโนโลยี อี-พาวเวอร์ มาใส่ใน นิสสัน คิกส์ อี-พาวเวอร์ ใช้เครื่องยนต์ขนาดเล็ก 1,200 ซีซี ไปปั่นไฟใช้เป็นพลังงานในการขับเคลื่อน จึงทำให้การขับขี่นุ่มนวล แต่ทรงพลังไม่ต่างจากรถไฟฟ้า โดยจะมีเสียงเครื่องยนต์ปั่นไฟให้ได้ยินทุกครั้งที่ทำงาน

นิสสัน คิกส์ อี-พาวเวอร์ เป็นรถยนต์คอมแพคเอสยูวี ผู้ขับขี่ไม่ต้องเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้รถ แต่ขับขี่เสมือนรถยนต์ไฟฟ้า 100% เต็มรูปแบบ โดยไม่ต้องพึ่งพาการชาร์จไฟฟ้าสู่แบตเตอรี่จากภายนอก แถมมีพละกำลังเพิ่มขึ้น อัตราเร่งดีขึ้น เป็นจุดเด่นของรถไฟฟ้า ตอบโจทย์คนรุ่นใหม่ใส่ใจสิ่งแวดล้อม

ล่าสุด นิสสัน คิกส์ อี-พาวเวอร์ เดินหน้าไปอีกขั้น แนะนำรุ่นพิเศษ สตาร์ อีดิชั่น (STAR EDITION) 300 คัน เพิ่มการตกแต่งพิเศษ เติมความสปอร์ตหรูรอบคัน ด้วยชุดตกแต่ง 10 รายการ ทั้งภายนอก ภายใน ตั้งแต่กระจังหน้าตัววี คิ้วกันชนหน้าสีดำ กระจกมองข้างสีเงิน สติ๊กเกอร์สัญลักษณ์ STAR EDITION ที่ตัวถังรถด้านข้าง สัญลักษณ์ STAR EDITION ด้านหลัง พนักพิงศีรษะคู่หน้า และคิ้วบันไดสเตนเลส ชุดตกแต่งรอบปุ่มควบคุมชุดปรับอากาศสีดำ ชุดพรมพร้อมผ้ายางปูพื้น และอุปกรณ์ชาร์จไฟแบบไร้สาย

เมื่อเป็นรถยนต์ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า ทำให้นิสสัน คิกส์ อี-พาวเวอร์ ให้อัตราเร่งมาแบบทันใจ แรงบิดสูงสุดถึง 280 นิวตันเมตร (Nm) แบตเตอรี่แบบลิเธียมไอออนขนาด 2.06 กิโลวัตต์-ชั่วโมง (kWh) ให้ประสิทธิภาพและกำลังมากขึ้น

มาพร้อมเครื่องยนต์เบนซิน 3 สูบ ขนาด 1.2 ลิตร DOHC เพื่อใช้ในการสร้างกระแสไฟฟ้า มีเทคโนโลยีคันเร่งอัจฉริยะ อี-เพดัล สเต็ป (e-Pedal Step) สามารถเร่งและชะลอความเร็วได้ในคันเร่งเดียว ทำให้นิสสันกล้าเคลมอัตราสิ้นเปลืองเฉลี่ย 26.3 กม./ลิตร

ติดตั้งเทคโนโลยีความปลอดภัยรอบคัน 360 ดีกรี เซฟตี้ ชีลด์ (Degree Safety Shield) มีอุปกรณ์เพื่อความสะดวกสบาย นิสสัน คอนเนคต์ (NissanConnect) เชื่อมต่อสมาร์ทโฟนได้ทั้ง แอนดรอยด์ ออโต้ และแอปเปิล คาร์เพลย์

ราคาจำหน่ายเริ่มต้นที่ รุ่น E 779,900 บาท รุ่น V 849,900 บาท รุ่น VL พร้อม Wireless Charger 920,000 บาท และรุ่น AUTECH พร้อม Wireless Charger 980,000 บาท สำหรับรุ่น STAR EDITION ราคาเพิ่มจากรุ่น VL พร้อม Wireless Charger 19,900 บาท

ภาพรวมเป็นรถที่นุ่มนวล มีอุปกรณ์สะดวกสบาย แถมประหยัดพลังงาน เป็นอีกตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับคนทำงาน ใช้รถต่อเนื่อง เดินทางทั้งในเมืองและต่างจังหวัด แต่แนะนำให้ไปทดลองขับก่อนว่าถูกจริตกับบุคลิกของรถเทคโนโลยี อี-พาวเวอร์ แค่ไหน

เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่