ครม.เคาะมาตรการภาษีกระตุ้นเที่ยวเมืองรองช่วงโลว์ซีซั่น สัมมนาหักรายจ่าย 2 เท่า ค่าทัวร์-รร. หัก 15,000

ครม.เคาะมาตรการภาษีกระตุ้นเที่ยวเมืองรองช่วงโลว์ซีซั่น สัมมนาหักรายจ่าย 2 เท่า ค่าทัวร์-รร. หัก 15,000 ชี้แม้รัฐเสียรายได้ 1,500 ล้าน แต่ได้กลับมาคุ้มกว่า

เมื่อเวลา 12.20 น.วันที่ 4 มิถุนายน ที่ทำเนียบรัฐบาล นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี แถลงผลการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า ครม.เห็นชอบมาตรการภาษีและอนุมัติหลักการร่างกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับมาตรการภาษีเพื่อสนับสนุนการท่องเที่ยวภายในประเทศ และเพื่อกำหนดการใช้สิทธิประโยชน์ทางภาษีอากรแก่บุคคลธรรมดา ห้างหุ้นส่วนนิติบุคคล สำหรับการท่องเที่ยวและการจัดอบรมสัมมนาในจังหวัดท่องเที่ยวเมืองรอง และจังหวัดท่องเที่ยวอื่นๆ ภายในประเทศช่วงโลว์ซีซั่น ตั้งแต่เดือน พ.ค.-พ.ย. ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ และส่งให้คณะกรรมการกฤษฎีกาพิจารณาเพื่อเป็นเรื่องเร่งด่วน

ซึ่งอย่างที่เราทราบกันดีว่าก่อนที่งบประมาณจะถูกนำออกมาเมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา ทางรัฐบาลให้ความสำคัญกับเรื่องการท่องเที่ยวค่อนข้างเยอะ และซึ่งเป็นเรื่องที่รัฐบาลใช้ในการผลักดันเศรษฐกิจต่อไป ซึ่งเมื่อวันที่ 3 มิ.ย.ที่ผ่านมา ตนได้ประชุมกับส่วนที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยวเมืองรอง โดยมีการประสานงานการจัดงานเฟสติวัลต่างๆ ในเมืองรองโดยเฉพาะช่วงเดือนโลว์ซีซั่น ซึ่งในที่ประชุมได้มีการแจ้งรัฐมนตรีหลายท่าน ที่เป็น ส.ส.ในพื้นที่ ว่าหากในจังหวัดมีเรื่องดีๆ อะไรก็ให้ประสานมายังกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เพื่อโปรโมตและสนับสนุนกระตุ้นเศรษฐกิจ ทั้งนี้ เมื่อเรามีมาตรการภาษีตรงนี้ออกไปกระทรวงการคลังได้ประเมินว่า จะสูญเสียรายได้ประมาณ 1,500 ล้านบาท ซึ่งเรามั่นใจหากรัฐบาลช่วยอย่างเต็มที่ในเรื่องการท่องเที่ยวเมืองรองตรงนี้จะสามารถได้เงินมามากกว่า 1,500 ล้านบาท

นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รมช.คลัง เปิดเผยว่า การออกมาตรการทางภาษีกระตุ้นการสร้างเม็ดเงินจากการท่องเที่ยวในเมืองรองช่วงโลว์ซีซั่น รวม 2 มาตรการ ดังนี้

Advertisement

1.มาตรการภาษีกระตุ้นสัมมนาในประเทศ (สำหรับนิติบุคคล) โดยนิติบุคคลสามารถนำรายจ่ายค่าห้องสัมมนา ค่าห้องพัก ค่าขนส่ง หรือรายจ่ายอื่นที่เกี่ยวข้องในการอบรมสัมมนาภายในประเทศ ที่จัดขึ้นให้แก่ลูกจ้าง หรือค่าบริการของผู้ประกอบธุรกิจนำเที่ยว เพื่อการอบรมสัมมนาดังกล่าว ตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคม-30 พฤศจิกายน 2567 หักเป็นรายจ่ายในการคำนวณภาษีเงินได้นิติบุคคล ดังนี้

1.1 หักรายจ่ายได้ 2 เท่า สำหรับการอบรมสัมมนาที่จัดใน “จังหวัดท่องเที่ยวรอง” หรือในเขตพื้นที่ท่องเที่ยวอื่นใดที่อธิบดีกรมสรรพากรประกาศกำหนด

1.2 หักรายจ่ายได้ 1.5 เท่า สำหรับการอบรมสัมมนาที่จัดในท้องที่อื่น นอกจากท้องที่ตามข้อ 1.1

Advertisement

1.3 ในกรณีที่การสัมมนาเกิดขึ้นในท้องที่ตามข้อ 1.1 และข้อ 1.2 ต่อเนื่องกัน ให้หักรายจ่ายที่สามารถแยกได้ว่าเกิดขึ้นในท้องที่ใดตามข้อ 1.1 หรือข้อ 1.2 และถ้าแยกไม่ได้ให้หัก 1.5 เท่าของรายจ่ายตามที่จ่ายจริง

2.มาตรการภาษีกระตุ้นท่องเที่ยวเมืองรอง (สำหรับบุคคลธรรมดา) บุคคลธรรมดาสามารถนำค่าบริการที่จ่ายให้แก่ผู้ประกอบธุรกิจนำเที่ยว หรือที่ได้จ่ายเป็นค่าที่พักในโรงแรม ค่าที่พักโฮมสเตย์ไทย หรือค่าที่พักในสถานที่พักที่ไม่เป็นโรงแรม สำหรับการเดินทางท่องเที่ยวใน “จังหวัดท่องเที่ยวรอง” ได้ตามที่จ่ายจริง ไม่เกิน 15,000 บาท หักเป็นค่าใช้จ่ายในการคำนวณภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคม-30 พฤศจิกายน 2567 ซึ่งเป็นช่วงนอกฤดูท่องเที่ยว (โลว์ซีซั่น)

ทั้ง 2 มาตรการต้องมีใบกำกับภาษีแบบเต็มรูปแบบ ตามมาตรา 86/4 แห่งประมวลรัษฎากร ในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์ผ่านระบบใบกำกับภาษีอิเล็กทรอนิกส์ และใบรับอิเล็กทรอนิกส์ (e-Tax Invoice & e-Receipt) ซึ่งทั้ง 2 มาตรการนี้จะตอบโจทย์ 2 อย่างพร้อมๆ กัน นั่นคือ กระตุ้นการท่องเที่ยวเมืองรอง และกระตุ้นการท่องเที่ยวช่วงโลว์ซีซั่น

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image