ทนายเหยื่อผู้เสียหายหุ้น STARK กังวล ‘อัสสเดช’ นั่งผจก.ตลท.คนใหม่ พัวพันดีลอยท์ ด้านตลท.ปัดไม่เกี่ยวข้อง

ทนายเหยื่อผู้เสียหายหุ้น STARK กังวล ‘อัสสเดช คงสิริ’ ได้รับแต่งตั้งเป็นผจก.ตลท.คนใหม่ พัวพันดีลอยท์ ขณะที่ตลท.แจง ‘อัสสเดช’ ไม่เกี่ยวพันปม STARK

เมื่อวันที่ 17 มิถุนายน ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย(ตลท.) ชี้แจงกรณีที่มีข่าวเรื่องคุณสมบัติของนายอัสสเดช คงสิริ ว่าที่กรรมการและผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์ฯ คนที่ 14 ที่จะเริ่มงานในวันที่ 1 สิงหาคม 2567 (เข้ารับตำแหน่ง 19 กันยายน 2567) โดยระบุว่า นายอัสสเดช ทำงานที่บริษัท ดีลอยท์ ทู้ช โธมัทสุ ไชยยศ ที่ปรึกษา จำกัด เป็นคนละบริษัทกับ บริษัท ดีลอยท์ ทู้ช โธมัทสุ ไชยยศ สอบบัญชี จำกัด ที่เคยผู้สอบบัญชีที่เคยสอบบัญชี STARK นอกจากนี้นายอัสสเดช ได้เริ่มงานที่ ดีลอยท์ ทู้ช โธมัทสุ ไชยยศ ที่ปรึกษา เมื่อเดือนมิถุนายน 2565 ขณะที่ผู้สอบบัญชีของ STARK ในปี 2565 คือ บริษัท ไพรซ์วอเทอร์เฮาส์คูเปอส์ เอบีเอเอส จำกัด หรือ PWC

ด้านการถือหุ้นของนายอัสสเดช ไม่ใช่การลงทุนหรือถือครองหุ้นส่วนตัว เนื่องจากปกติ authorized director จะได้รับโอนหุ้นหลังแต่งตั้ง และเมื่อลาออกก็จะโอนออกให้ Partner คนอื่นตาม protocol ของบริษัท

อัสสเดช คงสิริ ว่าที่กรรมการและผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์ฯ

ที่ประชุมคณะกรรมการตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้พิจารณาเรื่องคุณสมบัติหลังจากผ่านกระบวนการสรรหาและพิจารณาคัดเลือกอย่างถี่ถ้วนและมีมติเป็นเอกฉันท์เลือกนายอัสสเดช คงสิริ ให้ดำรงตำแหน่งกรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์ฯ คนที่ 14

Advertisement
ณัฐวุฒิ รุ่งวงษ์ ประธานบริษัทหลักทรัพย์ที่ปรึกษาการลงทุน ต้นธารคอร์ปอเรชั่น 1

ขณะที่ดร.ณัฐวุฒิ รุ่งวงษ์ ประธานบริษัทหลักทรัพย์ที่ปรึกษาการลงทุน ต้นธารคอร์ปอเรชั่น 1 โพสต์เฟซบุ๊ก ระบุว่า นายอัสสเดช คงสิริ ผู้จัดการตลท.คนใหม่ เป็นคนเก่ง คนดี แต่ความขัดแย้งทางผลประโยชน์ก็ต้องเคลียร์ให้ขาด

1.นายอัสสเดช คงสิริ ไม่ได้เป็นเพียงพนักงานบริษัท ดีลอยท์ ทู้ช โธมัทสุ ไชยยศ ที่ปรึกษา จำกัด เท่านั้น แต่กรมพัฒนาธุรกิจการค้าแจ้งว่า นายอัสสเดชเป็นผู้ถือหุ้นอยู่ 15.7894% ในบริษัท ดีลอยท์ ทู้ช โธมัทสุ ไชยยศ โฮลดิ้ง จำกัด อีกด้วย (ดูเอกสารหมายเลขที่ 1)

Advertisement

การถือหุ้น 15.7894% ถือว่ามาก และสำคัญไหม? หากเทียบกับการเปิดเผยข้อมูลผู้ถือหุ้นใหญ่ของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยในเวลานี้ว่า เพียงแต่ถือเกิน 0.5% ก็ต้องรายงานให้สาธารณชนรับรู้ ก็ย่อมนับว่า “มากและสำคัญมาก”

2.ซึ่งบริษัท ดีลอยท์ ทู้ช โธมัทสุ ไชยยศ โฮลดิ้ง จำกัด ที่นายอัสสเดช ถือหุ้นใหญ่อยู่ 15.7894%นั้น กรมพัฒนาธุรกิจการค้าแจ้งว่า ได้เข้าไปถือหุ้นใหญ่ในบริษัท ดีลอยท์ ทู้ช โธมัทสุ ไชยยศ จำกัด ในสัดส่วน 49.0005% (ดูเอกสารหมายเลข 2)

บริษัท ดีลอยท์ ทู้ช โธมัทสุ ไชยยศ จำกัด นี่เองที่นายอัสสเดช ทำงานในตำแหน่ง Lead Partner for Financial Advisory โดยทำงานในด้านการเป็นที่ปรึกษา และตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยชี้แจง ว่า ไม่ใช่บริษัท ดีลอยท์ ทู้ช โธมัทสุ ไชยยศ สอบบัญชี จำกัด ที่เป็นผู้ตรวจสอบบัญชีของ STARK

3.อย่างไรก็ตามกรมพัฒนาธุรกิจการค้าแจ้งว่า บริษัท ดีลอยท์ ทู้ช โธมัทสุ ไชยยศ จำกัด ได้เข้าไปถือหุ้นใหญ่ในสัดส่วน 99.9995%ในบริษัท ดีลอยท์ ทู้ช โธมัทสุ ไชยยศ สอบบัญชี จำกัด (ดูเอกสารหมายเลข3)

ข้อมูลที่กรมทะเบียนการค้าแจ้งไว้นี้ เป็นข้อมูล ณ วันที่ 29 กันยายน 2566 อันเป็นช่วงเวลาก่อนที่ตลาดหลักทรัพย์จะประกาศรับสมัครคัดเลือกผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยคนใหม่ ในวันที่ 21 มีนาคม 2567 และก่อนที่คณะกรรมการตลาดหลักทรัพย์ฯจะมีมติเลือกนายอัสสเดชเป็นผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์ฯคนใหม่ เมื่อวันที่ 14 มิถุนายน 2567

ข้อพิจารณาจึงมีอยู่ว่า

ประการที่ 1 นายอัสสเดช ยังคงถือครองหุ้นดังกล่าวมาจนถึงวันสมัครเป็นผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์ และหรือวันที่คณะกรรมการตลาดหลักทรัพย์ฯมีมติเลือกให้เป็นผู้จัดการฯอยู่หรือไม่ หรือได้ขาย หรือโอนออกไปก่อนแล้ว

ประการที่ 2 หากนายอัสสเดช ยังคงถือครองหุ้นดังกล่าวมาจนถึงวันสมัครเป็นผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์ และหรือวันที่คณะกรรมการตลาดหลักทรัพย์ฯมีมติเลือกให้เป็นผู้จัดการฯ ก่อนจะเข้าดำรงตำแหน่งทำหน้าที่ผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์ฯในวันที่ 1 สิงหาคม นี้ ยังจะถือครองอยู่ต่อไปหรือไม่ หรือจะขาย/โอนออกไป

การที่คณะกรรมการตลาดหลักทรัพย์ได้มีมติเลือกนายอัสสเดช โดยระบุเหตุผลว่าเป็นบุคคลผู้มีความเหมาะสมด้วยประสบการณ์ ความสามารถ และมีเสียงขานรับว่าเป็นคนเก่ง มีความตั้งใจดี นับว่าเป็นเหตุผลอันเหมาะควร และย่อมน่ายินดีที่ตลาดหุ้นไทย ซึ่งกำลังตกต่ำย่ำแย่ในเวลานี้จะได้คนเก่ง คนดี มีความรู้ ความสามารถมาเป็นผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์คนใหม่

แต่ก็ต้องตระหนักในเรื่องธรรมาภิบาล ความโปร่งใส ความขัดแย้งกันทางผลประโยชน์ (Conflict of Interests) อันเป็นวาระสำคัญอันยิ่งยวดที่กำลังทุบทำลายความเชื่อมั่นตลาดทุนไทยหดหาย ตลาดหุ้นไทยตกต่ำสวนกระแสตลาดหุ้นโลกในเวลานี้เช่นเดียวกัน

ยกเว้นแต่ว่าตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย รัฐบาล สาธารณชนจะเห็นว่าเรื่องนี้ไม่ได้เป็นปัญหาใดๆเลย นั่นก็เป็นอีกกรณี

ดร.ณัฐวุฒิ ยังโพสต์ด้วยว่า รายการเจาะลึกทั่วไทยอินไซด์ไทยแลนด์ เช้าวันนี้ (17 มิถุนายน) ได้รายงานข่าวข้อหัว “ผจก.ตลาดหุ้นคนใหม่..สายล่อฟ้า?” โดยได้สัมภาษณ์นายจิณณะ แย้มอ่วม ทนายความผู้เสียหายหุ้นและหุ้นกู้ STARK กรณีคณะกรรมการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ได้มีมติแต่งตั้งให้นายอัสสเดช คงสิริ เป็นผู้จัดการ ตลท.คนใหม่นั้น สร้างความกังวลให้กับเหยื่อผู้เสียหาย STARK เพราะทราบว่านายอัสสเดช เป็นกรรมการบริษัทในเครือดีลอยท์ และเป็นผู้ถือหุ้นในบริษัทโฮลดิ้งที่ไปถือหุ้นในบริษัทดีลอยท์ตรวจสอบบัญชี ซึ่งเคยเป็นบริษัทตรวจสอบบัญชีให้กับ STARK

การที่นายอัสสเดชเป็นกรรมการบริษัทในเครือดีลอยท์ และเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่บริษัทโฮลดิ้งที่ไปถือหุ้นในบริษัทดีลอยท์ตรวจสอบบัญชี ในขณะที่บรรดาผู้เสียหายกำลังฟ้องร้องดำเนินคดีต่อทั้งบริษัท STARK และดีลอยท์ตรวจสอบบัญชีนั้น ผู้เสียหายกังวลเรื่องนี้ เพราะเห็นชัดว่านายอัสสเดชก็คงมีอำนาจในการสั่งการบางอย่าง ในขณะที่เมื่อมาดำรงตำแหน่งเป็นผู้จัดการ ตลท.คนใหม่ ทางตลาดหลักทรัพย์ฯก็มีพันธกิจร่วมกับ ก.ล.ต.ให้เกิดความโปร่งใสในตลาดทุน

“ดังนั้นแม้ว่าไม่มีข้อห้ามของตลาดหลักทรัพย์ในเรื่องนี้ แต่ผู้เสียหายก็มีความกังวลว่ามีความไม่เหมาะสม เราก็อาจจะมีการแอคชั่นต่อไป” ทนายความของผู้เสียหายSTARK กล่าวให้สัมภาษณ์

(ดูคลิปข่าวนาทีที่ 29 เป็นต้นไป

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
บอร์ดเคาะแล้ว อัสสเดช คงสิริ นั่งผู้จัดการตลท.คนที่ 14 ชี้พร้อมรับความเปลี่ยนแปลง

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image