‘ธรรมนัส’ กดปุ่มเปิด ‘เกษตรพากิน พาเที่ยว @ลานคนเมือง’ รวมของดีทั่วไทยให้คนกรุง-นักท่องเที่ยว ชิม-ช้อป

‘ธรรมนัส’ กดปุ่มเปิด ‘เกษตรพากิน พาเที่ยว @ลานคนเมือง’ รวมของดีทั่วไทยให้คนกรุง-นักท่องเที่ยว ชิม-ช้อป ตามแนวคิดสร้างมูลค่าเพิ่มเกษตรไทย แม่ค้าปลื้มคนแน่นลานกทม.

เมื่อเวลา 18.00 น. วันที่ 26 มิถุนายน ร้อยเอกธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นประธานพิธีเปิดงาน‘เกษตรพากิน พาเที่ยว @ลานคนเมือง’ ณ ลานคนเมือง ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร พร้อมกับ นายอรรถกร ศิริลัทธยากร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ นายประยูร อินสกุล ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดยมี พญ.วันทนีย์ วัฒนะ ปลัดกรุงเทพมหานคร (กทม.) ร่วมงาน

ร้อยเอก ธรรมนัส กล่าวว่า วันนี้ถือว่าเป็นวันที่สำคัญของพี่น้องคนเมือง คือ พี่น้องชาวกรุงเทพมหานคร และสถานที่จัดงานแห่งนี้เป็นสถานที่สำคัญ ที่แสดงอัตลักษณ์ของคนเมือง และทางครอบครัว กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ขอขอบคุณทางกรุงเทพมหานครที่เอื้อเฟื้อสถานที่ในการจัดงานครั้งนี้

Advertisement

“ตอนบ่าย 2 ของวันนี้ ผมติดภารกิจอยู่ที่จังหวัดสงขลา ไปเปิดโครงการสำคัญในการเข้าร่วมมาตรฐาน EUDR ซึ่งถือว่าเป็นมาตรการสากลในการทำเกษตรที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ภาคการเกษตรในเรื่องของยางพารา มีการประมูลราคาน้ำยางพาราที่เป็นน้ำยางเข้าสู่มาตรการ EUDR มีการประมูลยางก้นถ้วย ซึ่งวันนี้เป็นวันประวัติศาสตร์ที่มีการจับตาราคาจากการประมูลราคายางซึ่งราคาดีดตัวขึ้นกิโลกรัมมากกว่าเดิม ถึง 12 บาทต่อกิโลกรัม ในรอบประวัติศาสตร์ ดังนั้นสิ่งเราจะทำกัน ณ วันนี้ ผมรีบเดินทางมาพร้อมกับคณะผู้บริหารหลายๆ ท่าน รีบแถลงข่าวโครงการดีๆ กับพี่น้องเกษตรกรทำนา โครงการ ‘ปุ๋ยคนละครึ่ง’ ร่วมกับพี่น้องชาวเกษตรกรในปีการผลิตปี 2567 จนถึงปี 2568 และรีบมาที่นี้” ร้อยเอกธรรมนัส กล่าว

Advertisement

ร้อยเอกธรรมนัส กล่าวอีกว่า การจัดงานมหกรรมยิ่งใหญ่ของครอบครัวพี่น้องชาวกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ‘เกษตรพากิน พาเที่ยว ณ ลานคนเมือง’ ตามที่ท่านนายกรัฐมนตรี นายเศรษฐา ทวีสิน ได้แถลงต่อรัฐสภาเมื่อเดือนกันยายน ปี 2566 ครั้งได้เริ่มเข้ามาบริหารบ้านเมืองว่า งานเกษตรถือว่า เป็นภาคสำคัญ เราจะนำแนวทางตลาดนํา นวัตกรรมเสริม เพื่อเพิ่มรายได้ให้เกษตรกร 3 เท่าในกรอบระยะเวลา 4 ปี ดังนั้นในเรื่องของนวัตกรรมถือว่าเป็นเรื่องสำคัญ ที่เราจะผลักดันให้การเกษตรของเรานั้น ที่สามารถทำให้พี่น้องชาวเกษตรกรลดต้นทุนการผลิต ลดเวลาการผลิต และเพิ่มผลผลิตให้มีคุณภาพซึ่งถือว่าเป็นเรื่องสำคัญ ฉะนั้นท่านนายกรัฐมนตรีถึงให้ความสำคัญกับนวัตกรรมต้องเสริมถึงจะสามารถเพิ่มรายได้ให้กับพี่น้องเกษตรกรคนไทยเกือบ 30 ล้านกว่าชีวิต

“ตลาดต่างชาติ ก็ไม่ต้องพูดถึง การบูรณาการระหว่างกระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ และ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เราพร้อมเปิดตลาดที่พร้อมต่อสู้กับตลาดต่างประเทศ อย่างตลาดในเรื่องของโคกระบือ ที่ในรอบศตวรรษเราไม่เคยเปิดตลาด แต่เราได้ไปเปิดตลาดที่ประเทศซาอุดิอาระเบีย ซึ่งไทยเรามีแผนที่จะเซ็น MOU กับทางรัฐบาลของประเทศซาอุดิอาระเบียที่ต้องเลื่อนไปก่อน แต่ทางรัฐบาลประเทศเขาอนุญาตให้ประเทศไทยเราทำการส่งออกด้านปศุสัตว์กับทางเขา เน้น โค-กระบือ-แพะ-แกะ ถือว่าเป็นข่าวดีสำหรับประเทศไทย และในวันนี้ เกษตรพากิน พาเที่ยว ณ ลานคนเมือง เราต้องการที่จะเปิดตลาดภายในประเทศ สนับสนุนให้พี่น้องคนในกรุงเทพฯ เห็นของดีจากแต่ละท้องถิ่น รู้จักอัตลักษณ์ของแต่ละท้องถิ่น ในฐานะที่เราเป็นคนไทย รู้สึกภาคภูมิใจที่ได้เกิดเป็นคนไทย” ร้อยเอกธรรมนัส กล่าว

ร้อยเอกธรรมนัส กล่าวว่า ของดีแต่ละท้องถิ่นที่ทั่วโลกต่างให้ความสนใจ เรามีสิ่งที่เราพิสูจน์ให้เห็นว่าซอฟต์พาวเวอร์เป็นตัวสำคัญ เป็นจุดเด่นในการขาย เราปฏิเสธไม่ได้ว่าภาคการเกษตรถือว่าเป็นภาคสำคัญ ที่เราจะสานต่อไปยังภาคส่วนสำคัญอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นภาคอุตสาหกรรม มีอุตสาหกรรมไหนบ้างที่ไม่พึ่งภาคการเกษตร หรือแม้แต่ภาคการท่องเที่ยว ก็จำเป็นต้องพึ่งภาคการเกษตร คนต่างชาติแขกบ้านแขกเรือนมาประเทศไทย ก็อยากจะชิมของดีบ้านเรา อยากจะรู้ว่ามีมะม่วงที่ไหนอร่อยที่สุด อยากจะรู้ว่าผัดไทที่ไหนอร่อยที่สุด ดังนั้นวันนี้จึงเป็นวันสำคัญที่เราจะน้อมนำภาพลักษณ์ในการส่งเสริม การกิน การเที่ยว และตลาดภายในประเทศถือว่า เป็นตลาดใหญ่

“ผมต้องขอขอบคุณพี่น้องกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ พี่น้องชาวเกษตรกรที่ร่วมกันจัดงาน เพื่อคนในเมืองลองมาชิมของดี ของท้องถิ่น เรามีเกษตรแปลงใหญ่ มีของดีแต่ละท้องถิ่นทั่วไทย มาให้พี่น้องได้ชิม ได้จับจ่ายใช้สอย ถึงแม้ว่าฝนจะตก ทุเรียนก็ขายหมดไปหลายกิโลแล้ว ผมเชื่อว่า หลังจากที่ผมเปิดงาน พี่น้องชาวกรุงเทพฯ จะเข้ามาจับจ่ายใช้สอยกันมากขึ้น” ร้อยเอกธรรมนัส กล่าว

ร้อยเอกธรรมนัส กล่าวภายหลังอีกว่า หลังจากที่จัดงานเกษตรพากิน พาเที่ยว ที่กรุงเทพมหานครสำเร็จแล้ว ทางกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ มีแผนที่จะจัดต่างจังหวัดในแต่ละภาค เพื่อเป็นการส่งเสริมการตลาดบริโภคสินค้าเกษตรภายในประเทศต่อไป และในพื้นที่ต่างจังหวัดที่ทางกระทรวงเกษตรและสหกรณ์เตรียมวางแผนไว้ในการจัดงานครั้งต่อไป จะเป็นที่ภาคใต้ และขอเชิญชวนพี่น้องชาวเกษตรกรที่ท่านคิดว่า ผลิตภัณฑ์ของท่านมีดี และพร้อมเผยแพร่ให้คนทั่วไปรู้จักมากขึ้น เข้าร่วมโครงการกับการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เพื่อพร้อมเป็นส่วนหนึ่งภายในการจัดงานครั้งหน้าต่อไป

ด้านนายประยูร อินสกุล ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวเสริมว่า กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ขับเคลื่อนนโยบาย “ตลาด นวัตกรรมเสริม เพิ่มรายได้” ของรัฐบาล ผลักดันให้เกิดสินค้าเกษตร มูลค่าสูง เพื่อให้เกษตรกรมีรายได้เพิ่มขึ้น 3 เท่าภายในระยะเวลา 4 ปี ผ่านกลไกความร่วมมือระหว่างภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาชน โดยส่งเสริมให้เกษตรกรและสถาบันเกษตรกรยกระดับผลิตภาพ การผลิตและสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับสินค้าเกษตรและผลิตภัณฑ์ ส่งเสริมการใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรม ควบคู่ไปกับการใช้ทรัพยากร อย่างมีคุณค่าและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม สร้างความเชื่อมั่น และภาพลักษณ์ที่ดีให้กับสินค้าเกษตร และผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้อง ตลอดห่วงโซ่การผลิต ส่งเสริมการตลาดทั้งแบบออนไลน์ และออฟไลน์อย่างกว้างขวาง เพื่อทำให้เกิดการซื้อขายอย่างต่อเนื่อง สร้างรายได้ที่มั่นคงและยั่งยืนให้แก่เกษตรกร

เพื่อสร้างโอกาสและเพิ่มช่องทางการจำหน่ายสินค้าให้กับเกษตรกร และสถาบันเกษตรกร ได้แก่ กลุ่มเกษตรแปลงใหญ่ วิสาหกิจชุมชน Smart Farmer, Young Smart Farmer กลุ่มแม่บ้านเกษตรกรและสหกรณ์ ที่เป็นผู้ผลิตสินค้าเกษตรปลอดภัย เกษตรอินทรีย์ และสินค้า อัตลักษณ์ที่ได้รับการรับรองมาตรฐาน ให้สามารถกระจายผลผลิต จากพื้นที่สู่ตลาดที่หลากหลายทั้งในรูปแบบออฟไลน์และออนไลน์ นอกจากนั้นภายในงานยังมีการจับคู่ธุรกิจ การสาธิตทางการเกษตร และอาหาร บริการขนส่งสินค้าที่จำหน่ายภายในงาน โดยมีหน่วยงานร่วมนำสินค้ามาจำหน่าย 3 กระทรวง จำนวน 132 ร้านค้า 2 บริษัทขนส่ง รวมทั้งได้รับความร่วมมือและการอำนวยความสะดวกเป็นอย่างดี จากกรุงเทพมหานคร กระทรวงเกษตรและสหกรณ์มีความคาดหวังว่า การจัดงานในครั้งนี้จะเป็นการสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับสินค้าเกษตรคุณภาพสูงของไทยให้เป็นที่รู้จัก และยอมรับในตลาดทั้งในประเทศ และต่างประเทศ ส่งผลดีต่อภาคการเกษตรไทยในภาพรวมต่อไป

โดยภายหลังเสร็จสิ้นพิธีเปิดงาน ร้อยเอกธรรมนัส และคณะร่วมเดินชมบูธโซนสินค้าและโซนนิทรรศการเพื่อสร้างขวัญกำลังใจให้กับพี่น้องชาวเกษตรกรไทยต่อไป

ทั้งนี้งาน ‘เกษตรพากิน พาเที่ยว @ลานคนเมือง’ จัดขึ้นระหว่างวันที่ 26 – 30 มิถุนายน 2567 เวลา 10.00 – 21.00 น. ที่ ลานคนเมือง ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร เสาชิงช้า เขตพระนคร เดินทางสะดวกด้วยรถไฟฟ้าใต้ดินสายสีน้ำเงิน สถานี สามยอด (BL30) ทางออกที่ 3 บริเวณงานจัดตรงข้ามกับวัดสุทัศนเทพวราราม ติดกับบริเวณที่ตั้งเสาชิงช้า เข้างานฟรี! ไม่เสียค่าใช้จ่าย

ผู้สื่อข่าวได้สอบถาม นางสมใจ ผู้ประกอบการขายอาหารปรุงสำเร็จ ระบุว่า ยอดขายค่อนข้างดี สินค้าที่เตรียมมาจำหน่ายเกือบหมด และบางรายงานหมดตั้งแต่ช่วงบ่าย แม้ทั้งวัน(26 มิถุนายน) ฝนตกเกือบทั้งวันถึงค่ำ แต่ก็ยังมีประชาชนและนักท่องเที่ยวเข้ามาชมงาน และหาซื้ออาหารเพื่อรับประทาน คาดว่าวันที่เหลือจะได้รับความสนใจจากประชาชนและนักท่องเที่ยวที่มาท่องเที่ยวบริเวณใกล้เคียง และข่าวสารที่ออกไปวันแรก น่าจะทำให้ประชาชนสนใจมาช้อปชิมอีกมาก

 

 

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image