พิษศก.ทรุด อสังหาซึมยาว แช่แข็งที่ดินเปล่าขายไม่ออก ‘ภูเก็ต’ พุ่งไร่ละ 40-100 ล้าน

พิษศก.ทรุด อสังหาซึมยาว แช่แข็งที่ดินเปล่าขายไม่ออก ภูเก็ตพุ่งไร่ละ 40-100 ล้าน

วันที่ 26 มิถุนายน 2567 นายณัฏฐา คหาปนะ กรรมการผู้จัดการบริษัท ไนท์แฟรงค์ ชาร์เตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า การซื้อขายที่ดินเปล่าพื้นที่กรุงเทพฯและหัวเมืองใหญ่ช่วง 5 เดือนตั้งแต่เดือนมกราคม-พฤษภาคม 2567ยังไม่มีปิดดีลการซื้อขายเกิดขึ้น เป็นไปตามภาวะเศรษฐกิจ ตลาดอสังหาริมทรัพย์ที่ยังซบเซา แม้มีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านภาคธุรกิจอสังหริมทรัพย์เมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา แต่ยังไม่ตรงจุดพอเป็นแรงส่งต่อตลาดให้กลับมาพื้นตัวได้ในปีนี้ ยังมีปัญหากำลังซื้อที่ถูกปฎิเสธสินเชื่อจากสถาบันการเงินสูงถึง 50-60% จึงทำให้ผู้ประกอบการชะลอการซื้อที่ดินพัฒนาโครงการใหม่ๆ ยกเว้นราคาที่ดินถูกหรืออยู่ทำเลมีศักยภาพจริงๆ ตอนนี้ภาพที่เห็นจึงมีแต่เจ้าของที่ดินนำที่ดินมาประกาศขายหรือเช่า ส่วนหนึ่งลดภาระภาษีและค่าใช้จ่ายต่างๆ ส่วนใหญ่เป็นแปลงเล็ก ขณะที่แปลงใหญ่ยังปิดดีลการขายไม่ได้ เพราะมีมูลค่าสูง เช่น ย่านแจ้งวัฒนะ ติดสถานีรถไฟฟ้าสายสีชมพู และอีกแปลงติดถนนวิภาวดี-รังสิต แต่ที่ยังพอไปได้ คือ ธุรกิจแวร์เฮาส์ และการซื้อขายที่ดินในนิคมอุตสาหกรรม

นายณัฏฐากล่าวว่า สำหรับสถานการณ์ตลาดอสังหาริมทรัพย์ในพื้นที่ภูเก็ตในปี 2567 ถือว่าเลยช่วงโบนัสหรือจุดพีคของตลาดมาแล้ว หลังจากปี 2566 มีผู้ประกอบการจากกรุงเทพฯและในพื้นที่ได้มีการลงทุนพัฒนาโครงการไปจำนวนมาก ทำให้ตลาดในปีนี้เป็นการเข้าสู่ภาวะปกติ เป็นช่วงที่ทุกบริษัทต้องเร่งสร้างยอดขายและรายได้ ขณะที่การซื้อขายที่ดินยังมีออกสู่ตลาดต่อเนื่อง ส่วนใหญ่เป็นแปลงเล็กและราคาก็ปรับตัวสูงขึ้นทุกปี แต่การซื้อขาย ยังไม่หวือหวาเหมือนก่อนหน้านี้

Advertisement

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากการสำรวจราคาซื้อขายที่ดินในพื้นที่ภูเก็ต พบว่ามีหลายแปลงที่ปิดป้ายให้เช่าระยะยาว และประกาศขาย โดยตั้งราคาขายตั้งแต่ 40-100 ล้านบาทต่อไร่ เช่น ติดถนนบายบาสภูเก็ต เนื้อที่ประมาณ 11 ไร่ พร้อมสิ่งปลูกสร้าง ตั้งราคาขายอยู่ที่ 800 ล้านบาทหรือไร่ละ 70-80 ล้านบาท อีกแปลงอยู่ในเมืองภูเก็ต ขนาดพื้นที่ 565 ตารางวา ตั้งราคาขาย 100 ล้านบาท เป็นต้น

นายฐนัญพงษ์ สุขสมศักดิ์ ผู้อำนวยการกองประเมินราคาทรัพย์สิน กรมธนารักษ์ กล่าวว่า ขณะนี้กรมอยู่ระหว่างรวบรวมข้อมูลการซื้อขายที่ดินทั่วประเทศจากกรมที่ดิน ในเบื้องต้นราคาซื้อขายขณะนี้มีการเปลี่ยนแปลงโดยเฉลี่ย 2% แต่มีบางจังหวัดที่เป็นหัวเมืองหลักราคาปรับสูงขึ้นถึง 10% แต่ยังไม่เกิน 15% ดังนั้นในปี 2568 น่าจะยังใช้กรอบราคาประเมินเดิมของปี 2566-2569 ในการคิดฐานภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง โดยราคาประเมินสูงสุด 1 ล้านบาทต่อตารางวา ยังคงอยู่ที่ถนนวิทยุช่วงพระรามที่ 4-เพลินจิต,ถนนเพลินจิตช่วงราชดำริ-ทางพิเศษเฉลิมมหานคร, ถนนสีลมช่วงพระรามที่ 4-นราธิวาสราชนครินทร์,ถนนพระรามที่ 1 ช่วงราชดำริ-พญาไท อย่างไรก็ตามกรมรอสรุปข้อมูลอีกครั้งเดือนกันยายนนี้

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image