กสทช.ตรวจพบ สายสัญญาณโทรคมนาคม ฝังดิน ลอบข้ามฝั่งประเทศเพื่อนบ้าน

สำนักงาน กสทช. ร่วมเจ้าหน้าที่หน่วยงานต่างๆ ตรวจเข้มพื้นที่แนวตะเข็บชายแดน ลงพื้นที่ จ. ตาก รอบสอง ติดตามลักลอบลากสายสัญญาณโทรคมนาคมข้ามฝั่งประเทศเพื่อนบ้าน เตือนประกอบกิจการโดยไม่ได้รับอนุญาตต้องโทษหนัก

เมื่อวันที่ 28 มิถุนายน 2567 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากที่พล.ต.ต.สัมฤทธิ์ เอมกมล ผบก.ภ.ตาก และนายไตรรัตน์ วิริยะศิริกุล รองเลขาธิการกสทช.และรักษาราชการกสทช. พันตำรวจตรีจิตติพนธ์ ผลพฤกษา ผบก.สอท.4 และพันตำรวจเอกพิทยากร เพชรรัตน์ ผกก.สภ.แม่สอด ได้ระดมกำลังเจ้าหน้าที่กสทช.ตำรวจภูธรแม่สอด ทหารหน่วยเฉพาะกิจราชมนู อ.แม่สอด ฝ่ายปกครองอ.แม่สอด ตำรวจตระเวนชายแดน กองร้อยตชด.346 อ.แม่สอด และเจ้าหน้าที่การไฟฟ้าภูมิภาคแม่สอด รวมกำลังทั้งหมดกว่า 100 นาย ออกปฏิบัติการกวาดล้างปราบปรามเครือข่ายส่งสัญญาณอินเทอร์เน็ตตามแนวชายแดนไทยเมียนมา

ทั้งหมด 6 จุดในพื้นที่อ.แม่สอด อ.แม่ระมาด และอำเภอพบพระ เพื่อเข้าไปตัดสายสัญญาณอินเตอร์เน็ต และตรวจยึดอุปกรณ์ต่างๆ ตามจุดต่างๆ และพบรูปแบบการลักลอบใช้สัญญาณโทรคมนาคมผิดกฎหมายบริเวณแนวตะเข็บชายแดน จ.ตาก นอกจากการลากสายเคเบิลขึ้นเรือข้ามแม่น้ำ ยังพบเสาส่งสัญญาณโทรศัพท์เคลื่อนที่ใน อ.แม่สอด และ อ.แม่ระมาด หันออกไปยังฝั่งตรงข้ามไทยในพื้นที่ชเวโก๊กโก และหวันหยา ฝั่งประเทศเมียนมา ตรงข้าม อ.แม่สอด

ซึ่งเป็นจุดแรกที่เคยลงพื้นที่สุ่มตรวจ ขณะนี้ได้ระงับสัญญาณในพื้นที่แล้วทุกจุด รวมทั้งการตั้งสถานีวิทยุคมนาคม เพื่อส่งสัญญาณอินเทอร์เน็ตโดยไม่ได้รับอนุญาต ส่วนที่อ.พบพระไปตรวจพบกล่องส่งสัญญาณลากสายใต้ดินไปยังแม่น้ำเมย ข้ามไปยังบ่อนกาสิโน ฝั่งประเทศเมียนมา

Advertisement

ซึ่งในช่วงที่เจ้าหน้าที่ไปถึง ผู้กระทำผิดรีบตัดสายส่งออกไป แม้นว่า เจ้าหน้าที่ได้ค้นหา และขุดดินริมฝั่งแม่น้ำเมย พบสายส่งบางจุดจึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน ซึ่งจะมีการดำเนินคดีกับชาวบ้านที่ให้เช่าที่ดินนำสายส่งสัญญาณไปฝั่งเมียนมา

นายไตรรัตน์ กล่าวว่า ขณะนี้สามารถควบคุมการหันเสาส่งสัญญาณโทรศัพท์เคลื่อนที่ไปยังประเทศเพื่อนบ้านได้แล้ว ทั้ง 7 พื้นที่ คือ (1) อ.แม่สอด จ.ตาก (2) อ.แม่สาย จ.เชียงใหม่ (3) อ.เชียงของ จ.เชียงใหม่ (4) อ.เชียงแสน จ.เชียงราย (5) อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว (6) อ.โป่งน้ำร้อน จ.จันทบุรี และ (7) อ.เมือง จ.ระนอง โดยปัจจุบันทุกพื้นที่ที่มีการหันเสาออกนอกประเทศไทยได้มีการระงับสัญญาณรวมแล้ว 366 สถานีฐาน ซึ่งมีทั้งการดำเนินการระงับสัญญาณ ปรับทิศทางสายอากาศ ลดกำลังส่ง และรื้อสายอากาศ

อย่างไรก็ดีเพื่อเป็นการขานรับนโยบายรัฐบาลที่ต้องการเร่งกวาดล้างอาชญากรรมทางเทคโนโลยี สำนักงาน กสทช. ได้กำหนดพื้นที่เพิ่มเติมตามมาตรการระงับการให้บริการโทรคมนาคมบริเวณชายแดนที่มีความเสี่ยง ในอีก 4 อำเภอ 3 จังหวัด ได้แก่ อ.แม่ระมาด อ.พบพระ จ.ตาก อ.กาบเชิง จ.สุรินทร์ และอ.บ้านกรวด จ.บุรีรัมย์

Advertisement

“ตอนนี้เรื่องเสา และสายเราจัดการได้แล้ว แต่ที่เป็นห่วงคือการใช้อินเทอร์เน็ตดาวเทียมความเร็วสูงที่มีการลักลอบนำเข้ามาโดยไม่ได้รับอนุญาตโดยเชื่อมต่อกับดาวเทียม เป็นการใช้เทคโนโลยีที่อาจนำไปใช้ในการกระทำผิด และส่งผลกระทบต่อระบบเศรษฐกิจ สังคม และความมั่นคงของประเทศ เป็นเรื่องที่ต้องเฝ้าติดตาม ก็ต้องขอให้ผู้ที่เกี่ยวข้องช่วยกันไม่ให้เกิดการลักลอบนำเข้าจานดาวเทียมผิดกฎหมาย เพราะอาชญากรรมทางเทคโนโลยีเป็นภัยต่อเศรษฐกิจ และสังคมอย่างร้ายแรง และยังส่งผลกระทบต่อชีวิตประจำวันของประชาชน” นายไตรรัตน์ กล่าว

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image