ชัยฤทธิ์ สิมะโรจน์ ปรับกลยุทธ์ ‘ซัสโก้’ ขาย ‘น้ำมัน’ แตกไลน์บุก ‘อีวี’

ท่ามกลางการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วของเทคโนโลยียานยนต์จากเครื่องยนต์สันดาปภายในใช้น้ำมันเป็นพลังงานขับเคลื่อน ไปสู่รถยนต์ไฟฟ้าที่ใช้แบตเตอรี่ หรือบีอีวี หรืออีวี ที่เราคุ้นเคย โดยมีปัจจัยด้านการรักษาสิ่งแวดล้อม ลดมลพิษในอากาศเป็นตัวเร่งเร้า ทำให้ผู้ประกอบการต่างเร่งปรับตัว เช่นเดียวกับบริษัททำธุรกิจด้านน้ำมันมายาวนานอย่าง ซัสโก้ จากบริษัทขนส่งน้ำมันทางเรืออย่างเดียว ขยายมาสู่สถานบริการน้ำมัน ปัจจุบันมีกว่า 200 แห่งทั่วประเทศ เป็นของซัสโก้บริหารเองกว่า 150 แห่ง

ล่าสุดแตกไลน์ธุรกิจไปสู่พลังงานทางเลือกอื่น โดยเฉพาะขยายมาทำธุรกิจขายรถอีวี เป็นผู้แทนจำหน่ายหรือดีลเลอร์รายใหญ่ของบีวายดี นับเป็นก้าวย่างที่สำคัญ เป็นความท้าทายในการปรับตัวเข้าสู่การแข่งขันทางธุรกิจในรูปแบบใหม่

“ชัยฤทธิ์ สิมะโรจน์” กรรมการผู้จัดการ บริษัท ซัสโก้ จำกัด (มหาชน) เปิดใจถึงกลยุทธ์การทำธุรกิจยานยนต์กำลังแข่งขันกันอย่างดุเดือดในขณะนี้

Advertisement

•สถานการณ์ธุรกิจน้ำมันเป็นอย่างไรบ้าง และเข้ามาสู่ธุรกิจอีวีได้อย่างไร

ธุรกิจน้ำมันถือว่าไปได้เรื่อยๆ โตปีละประมาณ 1-2% ถือว่าไม่เยอะ เติบโตตามสภาวะเศรษฐกิจ เมื่อธุรกิจน้ำมันอยู่ตัว เราก็เริ่มสนใจธุรกิจอีวี เริ่มตั้งแต่ประมาณกลางปี 2566 ตอนแรกเดินทางไปที่เมืองจีน ไปดูว่ายี่ห้อไหนน่าสนใจบ้าง พอดีตอนนั้นบีวายดีกำลังหาดีลเลอร์อยู่พอดี เราก็คุยกัน เมื่อบอร์ดบีวายดีโอเค เราก็เดินหน้าเปิดโชว์รูมที่เมืองไทย ผู้บริหารบีวายดีจากจีนก็เดินทางมาร่วม ถึงตอนนี้มีทั้งหมด 10 โชว์รูม ในกรุงเทพฯ 7 แห่ง อยุธยา 2 แห่ง อ่างทอง 1 แห่ง และกำลังจะเปิดสิงห์บุรีอีก 1 แห่ง ถือว่าเป็นดีลเลอร์รายใหญ่ของบีวายดี ส่วนที่ซัสโก้เปิดโชว์รูมเฉพาะพื้นที่ 2-3 จังหวัดภาคกลาง ไม่เปิดจังหวัดอื่นๆ ส่วนหนึ่งเพราะเป็นการแบ่งเขตพื้นที่ตามเงื่อนไข

•ตอนแรกคุยกับบีวายดีที่จีน ทำไมไม่เจรจาขอเป็นดิสทริบิวเตอร์ (ผู้บริหารช่องทางจำหน่าย ดูแลดีลเลอร์) ทำไมถึงเลือกเป็นดีลเลอร์ และเริ่มต้นปีแรกเป็นอย่างไรบ้าง

Advertisement

ตอนนั้นบีวายดีคุยกับเรเว่ (ดิสทริบิวเตอร์) ไปแล้ว เราก็เลยมาเป็นดีลเลอร์ แต่แค่ครึ่งปีแรกเริ่มขายเมื่อปีที่แล้ว ถือว่าประสบความสำเร็จอย่างดี ขายได้ถึง 2 พันคัน ส่วนปีนี้ผ่านไปแล้ว ประมาณ 6 เดือน ยอดขายกว่า 1 พันคัน เพราะตอนนี้อย่างที่ทราบตลาดรถยนต์ชะลอตัวมาก ปัจจัยหลักมาจากไฟแนนซ์ไม่ปล่อยสินเชื่อและสภาพเศรษฐกิจชะลอตัว เริ่มเห็นยอดอีวีไม่ดีตั้งแต่ประมาณเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา ปีนี้เดิมเราตั้งเป้าหมายยอดขายไว้ที่ 5-6 พันคัน ตอนนี้ปรับเหลือ 3-4 พันคัน ขึ้นกับว่าถ้ามีรุ่นใหม่เข้ามา

•ซัสโก้มีแผนจะขยายธุรกิจในส่วนที่เกี่ยวข้องกับอีวีอย่างไรบ้าง

ตอนนี้คนไทยตื่นตัวหันมาใช้อีวีมากขึ้น ด้วยจุดแข็งของซัสโก้มีเครือข่ายสถานีบริการน้ำมันจำนวนมาก และส่วนใหญ่ก็เป็นที่ดินของเราเอง ตอนนี้เราขยายจุดชาร์จอีวีไปแล้ว 50 จุดทั่วกรุงเทพฯและปริมณฑล ปีหน้าจะเห็นการกระจายจุดชาร์จเพิ่มเป็น 100 กว่าแห่ง เพราะเราร่วมมือกับพันธมิตรหลายรายในการติดตั้งจุดชาร์จ ทั้ง ปตท. อีเอ และอีกหลายราย มีแผนจะติดตั้งที่สถานีบริการซัสโก้แห่งละ 2-4 หัว

•ตอนนี้เป็นที่วิพากษ์วิจารณ์บีวายดี หลายกรณี ทั้งการหั่นราคารุ่นดอลฟินลงมาคันละ 1.6 แสนบาท หลังจากก่อนหน้านี้ก็เคยจัดแคมเปญลดราคามาแล้ว ทำให้ทั้งค่ายรถอื่นหรือแม้แต่ลูกค้าบีวายดี และลูกค้าใหม่อาจไม่กล้าซื้อ กลัวจะลดลงมาอีก รวมทั้งปัญหาค่าซ่อมอีวีแพง ค่าประกันแพง

ก่อนอื่นต้องบอกว่าบีวายดีเป็นค่ายรถเอกชนจากจีนที่มีส่วนแบ่งการตลาดในจีนกว่า 30% มากที่สุด ที่เหลือส่วนแบ่งรายละประมาณ 3% 4% เป็นผู้เชี่ยวชาญการผลิตแบตเตอรี่ เข้ามาตั้งโรงงานผลิตในประเทศไทย จะมีพิธีเปิดโรงงานผลิตรถยนต์บีวายดีแห่งแรกในประเทศไทยอย่างเป็นทางการพร้อมส่งมอบรถยนต์คันที่ 8,000,000 ของโลก ดังนั้นมีประสบการณ์การผลิตอีวีขายทั่วโลก เรื่องความกังวลอะไหล่ บริการหลังการขาย เราบำรุงรักษาให้ 8 ปี และอีวีไม่มีอะไรมากอยู่แล้ว ส่วนปัญหาประกันรถราคาแพง ตอนนี้เมื่อประชากรรถอีวีเพิ่มขึ้น ค่าประกันก็จะเริ่มถูกลง ส่วนแบตเตอรี่ก็อย่างที่เห็น ราคาลดลงมาเรื่อยๆ

•ลูกค้ากังวลว่าถ้าซื้อไปตอนนี้ แล้วจะลดลงมาอีก

เป็นเรื่องระดับนโยบายบีวายดี แต่เชื่อว่าราคาคงไม่ลงไปกว่านี้ เพราะการลดราคาลงมา ก็ลดอุปกรณ์บางอย่างด้วย อย่าคิดถึงเม็ดเงินเพียงอย่างเดียว และเมื่อรถจะเปลี่ยนรุ่น เป็นปกติของธุรกิจรถยนต์ก็ต้องลดราคาลงบ้าง เพื่อให้รุ่นใหม่เข้ามา ก็ต้องโละสต๊อก เป็นเหมือนกันทุกยี่ห้อ เป็นการทำธุรกิจตามปกติ

•ในเมื่อบีวายดีมีดีลเลอร์หลายราย แล้วทำไมต้องมาซื้อกับซัสโก้

อาจเป็นเพราะเรามีเครือข่ายกว้าง มีสถานีบริการน้ำมันกว่า 260 แห่ง มีบีวายดีขึ้นลงตามซีซั่น กำลังจะดูธุรกิจจุดชาร์จอีวีเพิ่ม และตอนนี้เรากำลังเข้าไปสู่ธุรกิจพลังงานสะอาด โซลาร์รูฟมีหลายแห่ง ผลิตไฟฟ้าใช้เอง นอกจากนี้สถานีบริการซัสโก้บางแห่งเราพัฒนาเป็น ซัสโก้ สแควร์ คล้ายคอมมูนิตี้มอลล์ มีบริการน้ำมันเพียง 20% ที่เหลือเป็นบริการอื่นๆ ร้านค้าต่างๆ ตอนนี้ทำแล้ว 2 แห่ง ที่ศรีนครินทร์กับบางมด กำลังจะทำเพิ่มอีก 2 แห่งที่ คลองสี่ ลำลูกกา และใกล้ๆ เซ็นทรัล ปิ่นเกล้า

•มองการแข่งขันธุรกิจยานยนต์ของค่ายญี่ปุ่นจะต้องรับมืออย่างไร

ตอนนี้ต้องยอมรับว่ารถไฟฟ้าจากจีนมาแรงมาก ค่ายยุโรปกับญี่ปุ่นจำเป็นต้องปรับตัว เพราะอีวีจีนตอนนี้พัฒนาไปไกล ไม่ใช่สินค้าจีนเหมือนเมื่อก่อน ตอนนี้เป็นสินค้าคุณภาพดี ราคาย่อมเยา ค่ายรถยนต์ญี่ปุ่นควรจะหาทางพัฒนารถยนต์ให้ดียิ่งขึ้น เป็นการแข่งขันอย่างสร้างสรรค์ ดีกว่ามาโจมตีด้วยวิธีอื่น

นายพล

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image