ผู้เขียน | ปิยะวรรณ ผลเจริญ |
---|
ยังคงเป็นประเด็นร้อนต่อเนื่องสำหรับราคา “น้ำมันดีเซล” ที่ปัจจุบันอยู่ที่ 32.94 บาทต่อลิตร ตามมติคณะกรรมการการบริหารกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง (กบน.) ที่ดูแลราคาไม่ให้เกิน 33 บาทต่อลิตร ตามมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) กำหนดตรึงไม่เกิน 33 บาทต่อลิตร ตั้งแต่วันที่ 20 เมษายน-31 กรกฎาคม 2567
ล่าสุด ณ วันที่ 1 กรกฎาคม 2567 ราคาดีเซลตลาดโลกยังอยู่ระดับสูง ส่งผลให้กองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงต้องเข้าอุดหนุน 2.39 บาทต่อลิตร ทำเอาหลายคนเริ่มผวา เพราะเท่ากับว่าต้นทุนจริงอยู่ระดับ 35-36 บาทต่อลิตร ฐานะกองทุนน้ำมันฯ วันที่ 23 มิถุนายน 2567 ติดลบ 110,743 ล้านบาท
หลังจากก่อนหน้านี้ราคาโลกลดลง ทำให้กองทุนน้ำมันฯเริ่มหายใจโล่ง ลดการอุดหนุนได้สำเร็จ และเก็บเงินดีเซลเข้ากองทุนน้ำมันฯแทน แต่ปัจจุบันก็เด้งขึ้นจนต้องเข้าอุดหนุนอีกครั้ง
สถานการณ์การบริหารราคาที่ยังลุ้นวันต่อวันจนกว่าจะครบมติ ครม. และจับตาว่าระยะถัดไป ครม.จะดำเนินการอย่างไร
ระหว่างนี้ สหพันธ์การขนส่งทางบกแห่งประเทศไทย นำโดย อภิชาติ ไพรรุ่งเรือง ประธานสหพันธ์การขนส่งทางบกแห่งประเทศไทย ก็ออกมาแอ๊กชั่นร้อนแรงต่อเนื่อง เตรียมจัดคาราวานม็อบกดดันรัฐบาลลดราคาไปสู่กับระดับ 30 บาทต่อลิตร
เดิมกำหนดวันที่ 3 กรกฎาคมนี้ แต่ล่าสุดเลื่อนไม่มีกำหนดเพราะเดือนกรกฎาคมเป็นเดือนมหามงคล และเตรียมเคลื่อนไหวอีกครั้งในระยะถัดไป
ต่อประเด็นราคาดีเซลนี้ พูดคุยกับ นณริฏ พิศลยบุตร นักวิชาการอาวุโสสถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (ทีดีอาร์ไอ) ได้ความเห็นว่า ทางออกที่ดีที่สุดคือ อดทนและปล่อยไปตามกลไกของราคาตลาดน้ำมันโลกก่อน
พร้อมแนะว่า รัฐบาลอาจมีมาตรการการอัดฉีดเงิน หรือเยียวยาปัญหาให้กับกลุ่มอาชีพที่ได้รับผลกระทบจริงๆ เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนบางกลุ่ม
สอบถามวงในจากรัฐบาล ทราบว่าอาจถึงเวลาต้องดึงเครื่องมือภาษีสรรพสามิตดีเซลมาช่วยตรึงระดับ 33 บาท เพราะกองทุนน้ำมันฯยังติดลบหลักแสนล้าน แบกไม่ไหว
ดังนั้น เวลานี้ภาษีจึงเป็นเครื่องมือเดียวที่ช่วยได้มากที่สุด