กางแผนที่ ‘อีสาน’ ใครโกย-ใกล้สูญพันธุ์? ธนพรเตือน ‘สุวัจน์’ รีบหน่อย อย่าประมาทพลัง 2 ลุง

วันที่ 20 มีนาคม 2566 - 15:09 น.

‘ธนพร’ เตือน อย่าประมาทพลังลุงตู่-พลังลุงป้อม กางแผนที่ซูม ‘อีสาน’ ใครโกยเรียบ ใครใกล้สูญพันธุ์ ? ฝาก ‘สุวัจน์’ รีบทำอะไรสักอย่าง

เมื่อวันที่ 20 มีนาคม ที่ชั้น G บริษัท มติชน จำกัด (มหาชน) มีการจัดเวทีวิชาการ “วิเคราะห์เลือกตั้ง 2566 จากฐานคะแนนและการแบ่งเขตเลือกตั้ง” ซึ่งนับเป็นเวทีที่ 2 ในแคมเปญ “มติชน เลือกตั้ง’66 บทใหม่ประเทศไทย” โดยมีผู้เชี่ยวชาญด้านการเมือง การเลือกตั้ง ตลอดจนอดีตรัฐมนตรี มาร่วมวิเคราะห์แนวโน้มของผลการเลือกตั้งปี 2566 ภายใต้กติกาการเลือกตั้งของ กกต.ที่เปลี่ยนไปจากการเลือกตั้งปี 2562 ซึ่งคาดว่าจะเกิดขึ้นภายเดือนพฤษภาคมนี้

บรรยากาศเวลา 10.30 น. รศ.ดร.ธนพร ศรียากูล ผู้อำนวยการสถาบันวิเคราะห์การเมืองและนโยบาย ร่วมเสวนาในหัวข้อ “บทวิเคราะห์เลือกตั้ง 2566 จากการแบ่งเขต 400 เขต” โดยอธิบายภาพรวมการคำนวณ ส.ส.ทั้งประเทศเป็นรายภาค อ้างอิงจากการประกาศภาคของ กกต.ทั้ง 4 ภาค ได้แก่ 1.ภาคเหนือ 2.ภาคอีสาน 3.ภาคกลาง ตะวันออกและตะวันตก 4.ภาคใต้

ในตอนหนึ่ง รศ.ดร.ธนพรกล่าวถึงภาพรวมการคำนวณที่นั่งภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จากเดิม 20 จังหวัด มี ส.ส. 116 คน เปลี่ยนเป็น ส.ส. 133 คน ซึ่งจากกฎเกณฑ์ใหม่ในภาคอีสาน คาดว่าพรรคพรรคเพื่อไทยได้ 90 ที่นั่ง ภูมิใจไทย 22 พลังประชารัฐ 19 ประชาธิปัตย์ 1 ก้าวไกล 1 ส่วนพรรคที่สูญพันธุ์เรียบร้อยแล้วคือ พรรคชาติไทยพัฒนา และพรรคชาติพัฒนากล้า ของคุณสุวัจน์ ลิปตพัลลภ

เมื่อดูรายจังหวัด ตนหยิบยก จ.นครราชสีมา ซึ่งครั้งที่แล้ว ส.ส. 14 เขต ครั้งนี้เพิ่ม 2 เป็น 16 เขต โดยพรรคที่ได้มากสุดคือ พลังประชารัฐ เพื่อไทย และชาติพัฒนา ตามลำดับ

“เราลองดูแผนที่เปรียบเทียบ ปี 2562 กับ 2566 จ.นครราชสีมา น่าสนใจ ลุงตู่ยังอยากเป็นหลานย่าโมเลย หลานย่าโมเต็มประเทศไปหมด ที่สำคัญโคราชเป็นเมืองของการเลือก ส.ส.หลายพรรคโดยธรรมชาติมาแต่ไหนแต่ไร ไม่มีพรรคไหนครองพื้นที่เป็นเสร็จเด็ดขาด แต่วันนี้กำลังจะเกิดการสูญพันธุ์เบ็ดเสร็จเด็ดขาด” รศ.ดร.ธนพรกล่าว

ก่อนอธิบายว่า ครั้งที่แล้วพรรคชาติพัฒนา เคยชนะในเขตที่ 2 ซึ่งแผนที่เขตที่ 2 ใหม่ถูกผ่าไปเป็นเขต 2 และ 3 โดยดึงบางส่วนจากเขตที่ 4 มาโปะในเขตที่ 3 บางส่วนดึงจากเขตที่ 1 มาโปะเขตที่ 3 กลยุทธ์นี้คล้ายกับที่ จ.สุโขทัย โดยในเขตที่ 2 เดิม คะแนนของชาติพัฒนาที่เคยชนะ มีอยู่ 12,000 คะแนน ได้จากเขต 1 ซึ่งมาแบ่งเป็นเขต 2 ใหม่มาเติมแค่ 4,000 คะแนน ตัวเลขที่มีอยู่คือ 16,000 ในขณะที่พลังประชารัฐแม้ว่าจะถูกคู่แข่งแบ่งไปเขต 3 แต่จากฐานการลงคะแนนตามตำบล เมื่อย้ายตำบล ฐานเก่าเดิมยังอยู่อีกถึง 17,000 ชนะไป 1,000 กว่าเสียง

“ฉะนั้น ผมส่งสัญญาณเตือนคุณสุวัจน์ก่อนว่า รีบทำอะไรสักอย่างได้แล้ว ‘ฉันต้องทำ ทำอะไรสักอย่างแล้ว ไม่เช่นนั้นสูญพันธุ์’ นอกจากนั้น พอผ่าของคุณสุวัจน์เป็น 2 เขต แล้วเอาของเขต 4 มาบวก กำไรเป็นของพรรคพลังประชารัฐ พลัสเพิ่มมาได้อีก 1 เขต

ใครประมาทว่าพลังลุงตู่ พลังลุงป้อมไม่มีจริง ณ วันนี้ผมคิดว่าลองกลับไปคิดใหม่ให้ละเอียดอีกทีหนึ่ง คนที่แพ้ต้องดูแลตัวเอง โลกไม่มีที่สำหรับคนอ่อนแอ ทางการเมืองก็เช่นเดียวกัน ในเมื่อเราเป็นคู่แข่ง เขตอื่นเขาแข็งสู้หมด ผมจะไปเสียตังค์ทำไม ผมไปหวดในเขตที่หวดได้และอ่อนกว่า ได้กำไรอีก 1 ต่อ ได้ ส.ส.อีก 1 คน นักเลือกตั้งของแท้เขาคิดแบบนี้ การเลือกตั้งคือการลงทุน ทุกอย่างต้องใช้ทรัพยากร” รศ.ดร.ธนพรชี้