รำลึก 100 ปี ‘ไพบูลย์ บุตรขัน’ ยอดนักแต่งเพลงลูกทุ่งไทย เจ้าของเพลงอมตะ ‘ค่าน้ำนม-มนต์รักลูกทุ่ง’

รำลึก 100 ปี ‘ไพบูลย์ บุตรขัน’ ยอดนักแต่งเพลงลูกทุ่งไทย เจ้าของเพลงอมตะ ‘ค่าน้ำนม-มนต์รักลูกทุ่ง’

เมื่อเวลา 17.00 น. วันที่ 14 กรกฎาคม ที่ร้าน เฮมล็อค ถนนพระอาทิตย์ สำนักพิมพ์ไรท์เตอร์จัดงานรำลึก100ปีชาตกาล ครูไพบูลย์ บุตรขัน นักแต่งเพลงชื่อดัง และทางสำนักพิมพ์ได้จัดพิมพ์หนังสือ “คีตกวีลูกทุ่ง ไพบูลย์ บุตรขัน” โดยวัฒน์ วรรลยางกูร ขึ้นใหม่อีกครั้ง ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายในงานมีผู้มาร่วมงานจำนวนมาก มีการบรรเลงแอ็กคอร์เดี้ยนพร้อมร้องเพลงผลงานการแต่งของครูไพบูลย์

นายสุจิตต์ วงษ์เทศ นักเขียนคอลัมนิสต์เครือมติชน กล่าวว่า เพลงลูกทุ่งเป็นเป็นแขนงหนึ่งของเพลงไทยสากลในวัฒนธรรมป็อป ต้นกำเนิดเกี่ยวข้องกับความขัดแย้งทางชนชั้นอันเนื่องมาจากเศรษฐกิจ การเมือง สังคมและวัฒนธรรม หลัง 2475 โดยในยุคก่อนจะเป็นเพลงลูกทุ่งจำแนกได้ 2 กลุ่มคือ 1.เพลงผู้ดี 2.เพลงตลาด เพลงตลาดเป็นการเรียกอย่างเหยียดจากกลุ่มเพลงผู้ดี แต่เพลงตลาดเรียกกันเองว่า “เพลงชีวิต” มีตัวตนพื้นที่ขึ้นมาหลังยุคจอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ จนปี 2507 มีการนำเสนอเพลงตลาดผ่านการจัดรายการเพลงลูกทุ่งจนแพร่หลาย และได้รับความนิยมมากขึ้นหลังไป 2511 ที่สุรพล สมบัติเจริญ ถูกยิงตาย

นายวุฒิชาติ ชุ่มสนิท นามปากกา “บินหลา สันกาลาคีรี” นักเขียนรางวัลซีไรต์เจ้าของสำนักพิมพ์ไรท์เตอร์ กล่าวถึงที่มาการพิมพ์หนังสือคีตกวีลูกทุ่งฯว่า หนังสือเล่มนี้เป็นที่คุ้นเคยในวงการหนังสือเป็นอย่างดีและมีการตีพิมพ์มาหลายครั้งแล้ว ส่วนครูไพบูลย์นั้นตนได้ยินเพลงมาแต่เด็ก อย่าง “กลิ่นโคลนสาบควาย” ที่ตอนแรกไม่รู้ว่าใครร้อง พอได้มาอ่านหนังสือคีตกวีลูกทุ่งฯ เหมือนเป็นการบุกเบิกตะวันตกของอเมริกาแล้วเจอทอง การอ่านหนังสือเล่มนี้เป็นความปีติ ตัวเราไม่รู้ว่าเราถูกสร้างด้วยเพลงของครูไพบูลย์

นายยุทธ โตอดิเทพย์ อดีตนายกสมาคมนักกลอนแห่งประเทศไทย กล่าวว่าชื่อของครูไพบูลย์กลับมาเป็นที่พูดถึงอีกครั้งเพราะกระทรวงวัฒนธรรมจะเสนอชื่อเป็นบุคคลสำคัญต่อยูเนสโก เพลงของครูไพบูลย์ฟังง่ายเนื้อหาของเพลงเป็นเรื่องราวชีวิต ไม่ซับซ้อน ทำให้คนฟังมีเเรงบันดาลใจ มีเพลงดังเยอะมากที่คนฟังไม่รู้ว่าเป็นเพลงครูไพบูลย์ มีลูกศิษย์ครูที่ได้เพลงไปร้องเยอะคือ ชาญ เย็นแข, คำรณ สัมบุณณานนท์, ปรีชา บุณยเกียรติ, รุ่งเพชร แหลมสิงห์, ศรคีรี ศรีประจวบ หลายเพลงอยู่ในจิตใจคนไทย เช่น ค่าน้ำนม, กลิ่นโคลนสาบควาย

ด้านนายสมพงษ์ ศิวิโรจน์ นักแต่งเพลงวงมาลีฮวนน่า กล่าวว่า รู้จักครูไพบูลย์ตั้งแต่เด็กๆที่ฟังเพลงจากวิทยุทรานซิสเตอร์และลำโพงงานวัด ตื่นมาก็ได้ยินเพลงครูไพบูลย์แล้ว

“ที่พูดกันว่าครูไพบูลย์เป็นนักแต่งเพลงเบอร์ 1 ในร้อยปีนั้นจริงแน่นอน ฟังเพลงครูแล้วแดดิ้นตายไปเลย สายตาครูไม่เหมือนคนทั่วไป เป็นสายตาของคนพิเศษ มองเห็นฝนตกลงแอ่งน้ำเป็นแอ่งน้ำตา ใช้การเปรียบเทียบที่คนอื่นมองไม่เห็นเชื่อมโยงกับอารมณ์ ดินฟ้าอากาศ ไม่ว่าเราจะผ่านไปทางไหนก็จะได้ยินเพลงครูไพบูลยฺอยู่ตลอด ไปเหนือก็คิดถึงมนต์เมืองเหนือ น้ำท่วมก็คิดถึงเพลงน้ำท่วม เพราะเมื่อร้องได้แล้วจะเป็นเพลงที่ตราตรึงใจตลอดไม่มีวันลืมเลือน” นายสมพงษ์กล่าว

เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่