พลอยไพลิน ตั้งประภาพร กับคำถามของ “จบแล้วทำไรต่อ?” และการเดินทางสายทรานส์-มองโกเลีย

หนึ่งในปัญหาของวัยรุ่นไทย Gen Z คือไม่รู้ความต้องการของตัวเอง ทั้งที่มีความสามารถที่หลากหลาย แต่หลายๆ คนกลับรู้สึกเคว้งคว้างในชีวิตทั้งปัจจุบัน และอนาคต

พลอยไพลิน ตั้งประภาพร ก็เป็นหนึ่งในผู้ที่เคยตกอยู่ในสภาวะดังกล่าว และเธอเลือกที่จะค้นหาคำตอบด้วย ‘การเดินทางคนเดียว’ จนเป็นที่มาของเพจที่มีคนติดตามเกือบแสนคนอย่าง พลอยเรียนจบแล้วทำไรต่อ และคลิปการเดินทางของเธอก็มียอดวิวหลายแสนครั้งต่อคลิป

แล้วไม่ต้องแปลกใจ ถ้าจะรู้สึกคุ้นหน้าคุ้นตากับเธอ เพราะถ้าคุณดูละครช่อง 7 บ้าง ดูโฆษณาทาร์ตไข่ของ KFC แล้วละก็ คงจะคุ้นหน้าเธออยู่ และล่าสุดพลอยไพลิน ก็ก้าวสู่บทบาทนางเอกเต็มตัว ในภาพยนตร์เรื่อง  ‘Low Season’ ที่เพิ่งเปิดกล้องไปไม่นาน โดยเล่นกับมาริโอ้ เมาเร่อ… กำลังมาแรงเลยทีเดียว

แต่เรื่องเหล่านั้นวางไว้ก่อน เพราะวันนี้เธอจะมาคุยในสถานะของนักเขียนและผลงานงานเล่มแรกของเธออย่าง “วิชาเดินทางหลังเลิกเรียน” ที่กำลังฮอตสุดๆ ไม่แพ้ความน่ารักของเธอเลย

Advertisement

เป็นความฮอต ที่มาจากความโดนใจเหล่า Gen Z ทั้งหลาย ที่มีคำถามกับชีวิต และรู้สึกเคว้างคว้างไม่น้อยไปกว่าเธอ

“เราเลือกเรียนทางด้านภาพยนตร์ เพราะชอบทำหนัง อยากเป็นคนเล่าเรื่อง แต่ไม่ได้มีเป้าหมายในใจหลังจบว่าอยากทำอะไรต่อ ก็อยากเป็นผู้กำกับบ้าง เพราะก็เป็นแพสชั่นสูงสุดของคนที่เรียนด้านนี้อยู่แล้ว แต่ไม่ใช่แพสชั่นหลักฃ เรียนไปเรื่อยๆ เพราะชอบ แค่นั้นเลย”

Advertisement

กระทั่งใกล้จบ ระหว่างที่เพื่อนๆเริ่มคุยถึงอนาคต ว่าจะไปทางไหนต่อ พลอยไพลินก็เริ่มเอะใจถึงความเรื่อยๆ ของตัว ว่าชีวิตต่อจากนี้ ไม่ใช่แค่เรื่องความสนุกที่จะเรียนอีกแล้ว มันคือชีวิตจริง

“เราเป็นนักแสดงอยู่แล้วช่วงเรียน แต่ตอนนั้นไม่ได้จริงจัง ช่วงนั้นสับสนมาก ว่าชีวิตจะเอายังไงกันแน่ นึกถึงสิ่งที่เป็นชิ้นเป็นอันไม่ออกเลย”

“ตอนแรกคิดว่าต้องเรียนต่อ เซฟโซนสุดแล้ว แต่ก็ไม่รู้ว่าจะเรียนสาขาอะไร ไปคุยกับเพื่อนๆพี่ๆ แล้วก็ตกผลึกว่า เราเรียนมา 15 ปีเลยนะ อนุบาล ประถม มัธยม มหาวิทยาลัย แต่ไม่รู้เลยว่าอยากทำอะไร เลยคิดว่าอยากจะเรียนใหม่ เเรียนนอกห้องเรียน เรียนในสิ่งที่โรงเรียนไม่ได้สอน  เรียนเพื่อที่จะรู้จักตัวเอง

เพจพลอยเรียนจบแล้วทำไรต่อ มันมาจากคำถามที่ใครๆ ก็ถามเยอะมาก ว่าพลอยจบแล้วจะทำอะไรต่อ ซึ่งเกลียดคำถามนี้มากเลยนะ เรากดดัน ส่วนหนังสือก็มาจากการที่ทำเพจไปเรื่อยๆ แล้วคลิปต่างๆ คนก็แชร์เยอะมาก เลยอยากถ่ายทอดประสบการณ์นี้ในรูปแบบอื่นด้วย”

พลอยไพลินตัดสินใจเดินทางคนเดียวด้วยรถไฟสาย ทรานส์-มองโกเลีย จากจีนสู่ฝรั่งเศส เป็นเวลา 37 วัน และ 37 วันนั้น ก็เปลี่ยนโลกของเธอไปโดยสิ้นเชิง

“ตอนเราบอกรุ่นพี่ รุ่นพี่บอกดีแล้ว ไปคนเดียวจะได้รู้จักตัวเองมากขึ้น

เราก็สงสัยว่าจะรู้จักมากขึ้นได้ไง เรารู้จักตัวเองดีอยู่แล้วนี่ แต่โอเค ลองพิสูจน์กัน ซึ่งก็เป็นอย่างที่รุ่นพี่ว่าจริงๆ”

เล่าด้วยว่า ในตอนนั้นสิ่งที่ยากที่สุดสำหรับเธอคือความกลัว อย่างไรก็ดี “พอถึงเวลาจริงๆ ความกลัวก็ค่อยๆ หายไป เพราะแต่ละข้อที่กลัว มันค่อยๆ ดับลง เพราะเราทำได้ และทำอะไรได้มากกว่าที่คิดไว้เยอะเลย”

บนเส้นทางรถไฟที่ยาวที่สุดในโลก มีเรื่องราวมากมายให้เธอได้สัมผัส

“เราได้อะไรมากมายระหว่างทาง จากคนแปลกหน้าที่เจอ ได้คุยกับคนมองโกเลีย อเมริกา จีน รัสเซีย ซึ่งเปิดมุมมองมาก อย่างฟินแลนด์ ประเทศที่เรารู้สึกว่าสวยจังเลย ธรรมชาติสวย โชคดีจัง แต่พอได้คุยกับคนของเขา เลยรู้ว่านั่นไม่ใช่แค่เรื่องโชค แต่เขาสอนให้คนรักธรรมชาติ และรักษาในสิ่งที่ตัวเองมี หรือรัสเซีย คยรู้สึกว่าเขาดุ น่ากลัว แต่พอได้ไปพิพิธภัณฑ์ ได้ศึกษาประวัติศาสตร์ ได้รู้ถึงสงคราม เลยเข้าใจมากขึ้น ว่าเพราะอะไร พอเข้าใจ มันก็ไปทำลายอคติที่เคยมี เป็นความเข้าใจผ่านวัฒนธรรม”

“และความเข้าใจคนอื่นก็ทำให้เราเปลี่ยนไปด้วย”

อย่างไรก็ดีความเข้าใจที่เกิดขึ้น ไม่ได้แปลว่าจะค้นพบตัวเองเจอ แค่เข้าใจตัวเองมากขึ้น และเข้าใจว่า ทำไมเด็ก Gen Z อย่างตัวเองและอีกหลายๆ คนถึงเจอกับสภาวะเคว้งคว้าง

“ตอนแรกเราคิดว่ามันแปลกมากที่ต้องมานั่งค้นหาตัวเอง เหมือนห่วยแตกจังเลยที่ไม่รู้ว่าชีวิตจะทำอะไรดี แต่พอมาทำเพจ เราเจอคนที่เหมือนกันเต็มไปหมด  เยอะมากที่ประสบปัญหานี้ ไม่รู้ว่าจะทำอะไร ชอบอะไร จะเป็นอะไร

เราเองก็ยังไม่เจอคำตอบ แต่เข้าใจมากขึ้น ว่าคำถามเหล่านี้ ไม่มีใครให้คำตอบได้ ยกเว้นตัวเราเอง ว่าเราอยู่ตรงไหนแล้วสบายใจ เพราะชีวิตแต่ละคนมีโจทย์ที่แตกต่างกัน มันไม่มีใครบอกใครได้

เราต้องหาเอง แล้วปรับตัวให้เรา ให้สามารถอยู่กับสิ่งที่เราเลือกในแต่ละช่วงของชีวิตได้อย่างสบายใจ”

 

สิรนันท์ ห่อหุ้ม

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image