ควันหลง ‘พรหมลิขิต’ ลาจอ สมาชิกพันทิป ตั้งกระทู้ ‘ศัลยา-รอมแพง’ ละครตอนจบบ้งเพราะใคร?

ควันหลง ‘พรหมลิขิต’ ลาจอ สมาชิกพันทิป ตั้งกระทู้ ‘ศัลยา – รอมแพง’ ละครตอนจบบ้งเพราะใคร?

ควันหลงละครพรหมลิขิต ที่แม้ลาจอไปแล้ว แต่ลาไปพร้อมกับประเด็นดราม่าที่ว่าจบรวดรัด ยัดทุกเรื่องราวไว้ในตอนสุดท้ายและบางตัวละครก็หายไปดื้อๆ

โดยสมาชิกพันทิปรายหนึ่งโพสต์ตั้งกระทู้ที่อ้างอิงจากข่าว ด้วยข้อความระบุว่า เดือด!!! “ศัลยา – รอมแพง” ตอนจบพรหมลิขิต บ้งเพราะใคร? ลั่นตำหนิดิฉันได้เลย เขียนนิยายไม่ดีพอเป็นละคร!

จากนั้นหยิบยกโพสต์ของอาจารย์แดง ศัลยา สุขะนิวัตติ์ ที่ได้โพสต์ยันบทละครเหมือนนิยายทุกประการ บางข้อความคล้ายพาดพิงไปถึงคนเขียนนิยาย

Advertisement

พรหมลิขิต 2566 ยกที่หนึ่ง

พรหมลิขิตตอนจบรวบรัดเกินไป นิยายเขียนคำว่า “จบบริบูรณ์ “ หลังจากฉากแต่งงานของพ่อริดเและพุดตาน ต่อจากนั้นนิยายเขียนว่า “ตอนพิเศษ”ความยาว 4 หน้าหนังสือ ในเมื่อเป็นตอนพิเศษ จึงไม่เพิ่มไม่ลดไม่เปลี่ยนแปลงใดๆ

บทละครจึงเหมือนนิยายทุกประการ คำว่ารวบรัดเกินไปจึงขอมอบให้ตอนพิเศษของนิยายเรื่องนี้
ยังมียกต่อๆ ไป
1) คาแรกเตอร์ของพ่อริด เรื่องนี้ต้องพูดกันยาว
2) คาแรก เตอร์คนอื่นๆ : ไม่เหมือนนิยายแน่หรือ
3) ตัวละครหาย : คนเขียนบทหรือนิยายกันแน่ที่ทิ้งตัวละคร
4) เหตุการณ์พุดตานถวายตัวที่ไม่มีในนิยาย : ทำไม
5) บทอาฆาตแค้นของจันทราวดีต่ออทิตยาที่หายไป : เพราะอะไร
6 ศรีปราชญ์ : ตัวละครเจ้ากรรมตั้งแต่บุพเพสันนิวาส : มีและไม่มีเพราะอะไร
7) การเคารพบทประพันธ์และการเคารพวิถีการเขียนบทละคร : ศาสตร์ที่แตกต่างกัน
8) บทละครเหมือนนิยาย หรือต่อยอดจากนิยาย เป็นสัดส่วนเท่าไหร่ : ต้องคำนวณ
9) การวิพากษ์วิจารณ์รวบยอดที่รุนแรงและไม่เป็นวัตถุวิสัย

Advertisement

ต่อมา “รอมแพง” หรือ “จันทร์ยวีร์ สมปรีดา” ก็ได้เผยถึงเรื่องนี้ผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว ระบุว่าตำหนิดิฉันได้เลย บอกน่าจะเป็นนิยายที่ไม่ดีพอจะทำเป็นละคร

“ขอน้อมรับความผิดพลาดของนิยายพรหมลิขิต ที่ทำได้ดีที่สุดเท่านี้ และน่าจะไม่ดีพอที่จะทำเป็นละคร จึงทำให้ทีมละครโดนวิพากษ์วิจารณ์เป็นอย่างมาก เป็นความผิดของดิฉันเองค่ะ

หลายท่านอาจจะไม่พอใจที่ทีมทำละครโดนวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก โดยที่ดิฉันเหมือนลอยตัวจากการวิพากษ์นั้น จากการที่ดิฉันพิมพ์และพูดอยู่เสมอว่า หลังขายเป็นละครแล้วแทบจะไม่ได้ยุ่งเกี่ยวกับการทำงานของทีมละครเลย นอกจากจะมีการขอคำปรึกษาจากทีมงาน และต้องให้เกียรติคนทำงาน เพราะศิลปะการนำเสนอของละครกับนิยายแตกต่างกัน”…

ซึ่งประโยคเหล่านี้เป็นสิ่งที่ดิฉันพูดมาเป็น 10 ปีในการไปเป็นวิทยากรทุกแห่ง จากการที่นิยายได้ทำเป็นละครมาหลายเรื่อง แน่นอนว่าดิฉันไม่มีปัญหากับการดัดแปลงเพราะเข้าใจเป็นอย่างดีในศาสตร์ที่ต่างกัน แต่อาจจะมีความเสียดายในเนื้อหาหรือคาแรกเตอร์ที่เปลี่ยนไปบ้างแต่ก็ไม่ใช่ความเสียใจที่ขายเป็นละครอย่างแน่นอน

ดังนั้นแบ่งความคิดเห็นที่ตำหนิจากความผิดหวังในสิ่งที่คาดหวังจากละครมาทางดิฉันได้เลยค่ะ เพราะถ้าไม่โดนตำหนิหรือวิพากษ์วิจารณ์เสียบ้าง ก็จะไม่ทำให้เกิดการพัฒนาขอบคุณมากนะคะ รอมแพง”

จากนั้นรอมแพงก็ได้เข้าไปเมนต์ใต้โพสต์ของแดง ศัลยา ระบุว่า “อุ้ยต้องกราบขอโทษป้าแดงด้วยนะคะ ที่นิยายของอุ้ยมีความผิดพลาดขาดพร่องจนทำให้ป้าแดงทำงานยาก และต้องดัดแปลงจนทำให้ถูกวิพากษ์วิจารณ์มากขนาดนี้ รวมไปถึงความอ่อนด้อยในการตอบคำถามของพิธีกรและนักข่าวก็ยิ่งสร้างความลำบากใจให้กับทีมละคร เป็นความผิดของอุ้ยเองค่ะ กราบขออภัยเป็นอย่างสูงค่ะ อุ้ย รอมแพง”

ขณะที่สมาชิกพันทิปเข้ามาคอมเมนต์หลากหลาย อาทิ
– ถ้าไม่รู้ว่านั้นรอมแพง คงคิดว่าคุณไก่ วรายุท จากการพิมพ์อะนะ ขอโทษยังไง ให้เหมือนเขิญทัวร์ไปลงป้าแดง ไม่ค่อยชอบการพูดเรียกความเห็นใจแนวนี้ เพราะคนว่าเค้าว่าทีมละคร ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับแกเท่าไหร่ แกจะกระโดดลงมาร่วมแจมทำไม

– การะเกดกับพุดตาน ทำตามนิยาย โดนด่าเละกว่านี้อีก เอาจริงเค้าปรับให้สนุกกว่าในนิยายอีกนะ มันมีส่วนที่ไม่ดีก็จริง แต่เค้าก็มีเหตุผลรองรับ เช่นพ่อริดเป็นคนสมัยนั้น มีความจงรักภักดีมาก อะไรก็ต้องถวายให้แม้แต่ชีวิต แต่พอเป็นละครมันก็ทำให้คนดูเชื่อไม่ได้ ด้วยมุมมองจากคนสมัยนี้

– คำว่าขอโทษที่ความหมายไม่ได้แปลว่าขอโทษ

– จริงนี้ไม่อยุ่ข้างใคร ไม่อวยศัลยาด้วย จากครส สต ล้วนๆ แต่จะบอกว่าบุพเพฯที่ดังๆอะนิยายเล่มบางมากอ่านแปปเดียวจบ เนื้อหาน้อย แอบลูกกวาดนิดๆ ด้วยซ้ำตามนนิยายในเวบเด็กดีบทพุดแทบไม่มี เน้นบรรยายข้ามฉาก แต่ดังมาตัวเองได้เครดิตเต็มๆ นุ้น ศัลยาเขาเขียนบทออกมาแบบกลั่นจากมันสมองล้วนๆ จน บทเวอรวังอลังการล้านแปดจนดัง ส่วนพรหม ยังไม่อ่านนิยายแต่จะไปซื้อนิยายมาอ่านละจะได้ วิจารนแบบจัดเต็ม

– ไม่ได้อยู่ข้างใคร แต่เข้าไปอ่านโพสท์คนเขียนบท แล้วก็พวกคอมเม้นท์ในนั้น (ซึ่งก็เป็นคนเขียนบทโทรทัศน์ด้วยนะ) ที่บอกแนวๆว่า ไม่เห็นว่าบทจะมีข้อบกพร่องตกไหน ดูแล้วไม่รู้สึกติดค้างอะไร แล้วบอกอีกว่าคนวิจารณ์เต็มไปด้วยอคติ

สัมผัสได้ถึงอีโก้สูงลิ่ว ไม่แปลกใจทำไมบทละครไทยถึงไม่พัฒนาเหมือนต่างประเทศได้ ไม่ยอมรับความผิดพลาด แถมต่อว่าคนวิพากษ์วิจารณ์อีก

ปล.แต่เรื่องนิยายเนื้อหาน้ำโหลงเหลงอันนี้เรื่องจริง ซื้อมาอ่านตั้งแต่พรีออเดอร์ใหม่ๆ อ่านได้ประมาณเกือบครึ่งเล่มก็ดองไว้ยาวเลย นิยายมันไม่สนุกจริง ในละคร 2 ep แรกทำออกมาได้ดีที่สุด

-มียกที่1 แสดงว่าจะมียกต่อๆไป รอตามอ่านค่ะ อยากรู้ความคิดและมุมมองของคนเขียนบทว่าทำไมถึงเขียนออกมาแบบนี้ โดยเฉพาะคาแรคเตอร์ของริด

นิยายสำหรับเรามันราบเรียบไปหน่อยเล่าเรื่องเรื่อยๆไม่ค่อยมีจุดพีค ยังคิดว่าถ้ามาเป็นละครคงต้องปรับเยอะเลยคาดหวังว่าคนเขียนบทจะปรับให้สนุกขึ้นหมือนบุพเพที่ละครสนุกกว่านิยาย แต่พอได้ดูแล้วละครไม่สนุกอย่างที่หวัง บทดีอยู่แค่ช่วงต้นๆเรื่อง กลางเรื่องจนจบยิ่งดูยิ่งหงุดหงิดขึ้นเรื่อยๆ อยากฟังคนเขียนบทเล่าเหมือนกันว่าทำไมถึงเขียนออกมาแบบนี้

ขอบคุณ : พันทิป

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image