เอ-แป้ง มิตรชัย ยก แม่แอ๊ด โฉมฉาย เป็นครูด้านการแสดงของ มาส่งครั้งสุดท้ายพร้อมน้ำตา

เอ-แป้ง มิตรชัย ยก แม่แอ๊ด โฉมฉาย เป็นครูด้านการแสดงของ มาส่งครั้งสุดท้ายพร้อมน้ำตา

เดินทางมาถึงวันสุดท้าย ในการร่วมส่งแม่แอ๊ด โฉมฉาย ฉัตรวิไล นักแสดงอาสุโสคุณภาพ ไปสู่สุคติ โดยในพิธีฌาปนกิจศพ ได้จัดขึ้น ณ วัดพระศรีมหาธาตุ เขตบางเขน กรุงเทพฯ ซึ่งมีคนในวงการบันเทิงมาร่วมอาลัยให้กับแม่แอ๊ดเป็นครั้งสุดท้ายจนแน่นศาลา รวมถึง เอ ไชยา มิตรชัย ที่มาร่วมส่งแม่แอ๊ดเป็นครั้งสุดท้าย และได้ทำหน้าที่สำคัญในการเป็นตัวแทนถือกระถางธูปหน้าศพ ในพิธีเคลื่อนศพวนรอบเมรุ

ทั้งนี้ เอ และลูกสาวคนสวย แป้ง ศรันฉัตร์ มิตรชัย ได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนถึงความผูกพันและความเป็นมืออาชีพในการทำงานของแม่แอ๊ด โฉมฉาย ทั้งน้ำตาว่า

วันนี้มาส่งแม่แอ๊ดเป็นครั้งสุดท้ายและได้ทำหน้าที่สำคัญด้วย?
เอ: ” จริงๆ แล้วภาพนี้มันปิ๊งขึ้นมาตอนที่ผมเล่นละครเรื่องแรก คือในเรื่องแรกยังได้มีการพูดคุยกับผู้จัดเลยว่าตอนท้ายจะมีการตายเกิดขึ้น จะเป็นพ่อตาย หรือเป็นแม่ตาย สุดท้ายไปตกอยู่ที่อาโย่ง เล่นเป็นพ่อ และแม่แอ๊ดเป็นแม่ และวันนี้มีหลายดอกมากที่มาเจอรำฉุยฉายพราหมณ์ ผมก็เป็นคนรับเรื่อง และเป็นคนรำฉุยฉายพรามหณ์หน้าศพ ในวันถ่ายละคร ก่อนที่แม่จะเข้าฉาก แม่ยังได้มีการยืนขำอาโย่งเลย เสียงหัวเราะแก ยังมีอยู่เลย เพราะอาโย่งแกไปป่วนกองวันนั้น ก็ประมาณว่ามาเผาชั้นเหรอ อะไรอย่างนี้

Advertisement

แล้ววันนี้มันสะท้อนเข้ามา แล้วเห็นในมุมนี้ ผมเตรียมทำใจมาแล้ว และก็อยากจะเข้มแข็งและก็ไม่อยากอ่อนแอ (ร้องไห้) หรือกระถางธูปอย่างเนี้ย ไม่น่าเชื่อว่าจะเกิดกับเรา หรือเกิดกับแม่ เพราะว่าจริงๆ แล้วมันใจหาย พยายามปลอบใจตัวเองว่าแม่ไปดี แม่ไปสบาย แล้วพยายามบอกแม่ไม่ต้องห่วงนะ ผมเชื่ออยู่อย่างว่าไม่อยากร้องไห้ ไม่อยากเสียน้ำตา แกจะได้ไม่มีห่วง แต่รู้ว่าถึงแม้แม่จะไปดีแล้ว แต่เราจะไม่เจอแล้ว มันผูกพันมากกว่าการแสดงละครด้วยกัน”

มีโอกาสได้พูดอะไรกับแม่แอ๊ดไหม?
เอ: “บอกครับ ว่าแม่ลูกยังระลึกถึงคำสอนของแม่นะ และก็ยังคิดถึงแม่ในความดีของแม่ และก็ยังคิดถึงทุกเวทีการแสดงของเรา เพราะฉะนั้นในตอนนี้ทุกคนมาร่วมส่งแม่แล้ว ขอให้แม่ไปสู่ภพภูมิที่ดี ไปเป็นนางฟ้าอย่างมีความสุข และมีรอยยิ้ม เพราะผลงานที่แม่ฝากเอาไว้ มันเยอะมากเลย ในเรื่องการแสดงด้วย และก็เรื่องของบทบาทของนักแสดง หน้าที่ของนักแสดง แม่เป็นครูที่ดีมากเลยครับในกอง ผมก็ได้ซึบซับมา

ผมว่าผมทำการบ้านไปดีแล้วในกอง จนสุดท้ายผมไปเจอแม่ในกอง เชื่อไหมว่าผมเล่นละครกับแม่ แม่จะมีกระเป๋าอยู่ใบหนึ่ง กระเป๋าสะพายใส่บท แม่ไม่เคยถือบทละครหน้ากอง และสุดท้ายจะขอดูสักหน่อย แกก็จะควักขึ้นมาดูนิดหนึ่งและก็เอาวาง พอไปหน้ากองแม่ก็ไม่มีการอ่านใดๆ ทั้งสิ้น พอมาเรื่องที่ 2 ยิ่งเจอแม่แอ๊ดเล่นเป็นแม่ พ่อเปี๊ยก พิศาล เล่นเป็นพ่อ ทั้งสองคนคือปรมาจารย์มากๆ เลย แล้วหลักการทำงานของดารารุ่นอาวุโสเป็นแบบนี้จริงๆ ในกองพอหน้าเซ็ตปั้บ จะไม่มีคุยกันเลย พอไปถึงปั้บ ต่อบทเข้าได้เลย มีอยู่เรื่องนึง เรื่องผู้ใหญ่เห็ด กำนันหอย ที่เขาเล่นเป็นแม่ ผมนั่งทานข้าวเที่ยง แล้วตอนนั้นผมมีซีนที่จะต้องเถียงกับนางเอกยาวมาก แล้วต้องมีแม่เข้ามาห้าม แม่นั่งท่องบทอยู่ระหว่างทานข้าว ส่วนเราก็นั่งนึกไป ท่องบทไป แล้วแม่จะต่อมาให้จากข้างหลัง ซึ่งเราไม่รู้ด้วยว่าแกอยู่ นี่แหละครับคือวิญญาณนักแสดง คือ มืออาชีพจริงๆ

Advertisement

แล้วมีอยู่เรื่องหนึ่ง คือเรื่องสุดท้ายที่ได้เล่นกับแก เพราะพี่อาร์ต พนิตนาฏ ฉัตรวิไล แกเป็นผู้จัด เชิญเอมารับเชิญ เพราะลูกสาว (แป้ง ศรันฉัตร์ มิตรชัย) เล่นโปงลางฮักออนซอน แม่แอ๊ดก็ถูกรับเชิญมา แล้วก็ได้มาเจอกันในกอง พอเจอกันในเรื่องสุดท้าย สิ่งหนึ่งที่เห็นการเปลี่ยนแปลงว่า แม่เปลี่ยนไปจริงๆ เปลี่ยนไปในที่นี้คือ แม่บอกว่าแม่ไม่รับละครแล้ว แม่รู้ว่าเป็นเอถึงได้มาและก็เล่น สุดท้ายแม่ก็ไปนั่งเครียดเกี่ยวกับตอนเข้าฉาก ทุกคนเห็นหมดในกองว่าแกเครียด เอเดินไป และก็บอกว่า แม่ไม่ต้องเครียดเลย เล่นกับหนู แม่ก็เข้าฉากกับหนูสองคน เล่นได้ตามสบาย เล่นไปเลย ซึ่งมันมีการบอกบทละครเหมือนสมัยก่อน แต่มีอยู่ซีนหนึ่งที่เข้ากับลูกสาว”

แป้ง: “พอย้อนดูแล้วจะร้องไห้ เหมือนแม่ถามว่าเหนื่อยมากไหมลูกกับการทำงานแบบนี้ (ร้องไห้) ถ้าเกิดว่าเหนื่อยก็พักนะลูก หนูนั่งดูทีวีแล้วแบบร้องไห้ค่ะ เพราะตอนอยู่ในกองแม่เหมือนเป็นคุณยายของหนูคนนึง แล้วก็คอยสอน แล้วก็รักและเอ็นดูเราทั้งๆ ที่เราเพิ่งเคยเจอกันแค่เรื่องแม่ และหนูโชคดีมากที่ได้เล่นละครกับแม่แอ๊ด ก็รู้สึกเป็นเกียรติและวันนี้หนูได้มาส่งแม่ และชีวิตนี้ที่ได้เดินสายอาชีพนักแสดง รู้สึกภูมิใจมากที่ได้เล่นละครกับแม่แอ๊ด”

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image