ร็อบ แมนนิ่ง โฆษกกองทัพสหรัฐอเมริกา เปิดเผยเมื่อวันที่ 22 ตุลาคมที่ผ่านมาว่า สหรัฐอเมริกาได้ส่งเรือรบสองลำแล่นผ่านช่องแคบไต้หวันในวันเดียวกันเพื่อเน้นย้ำถึง “เสรีภาพในการเดินเรือในอินโด-แปซิฟิก”
แมนนิ่งระบุว่า เรือรบยูเอสเอสเคอร์ติส วิลเบอร์ และยูเอสเอสแอนไทแทม ได้แล่นในเส้นทางประจำเพื่อแสดงให้เห็นถึงพันธกรณีของสหรัฐที่มีต่อน่านน้ำอินโด-แปซิฟิก ที่เปิดและเสรีโดยปฏิบัติการดังกล่าวมีขึ้นเป็นครั้งที่สองในรอบ 3 เดือน ด้านเจ้าหน้าที่กระทรวงกลาโหมสหรัฐระบุว่า เรือรบของจีนหลายลำได้แล่นตามประกบเรือรบสหรัฐในระยะปลอดภัย
ด้านวิลเลียม ไหล นายกรัฐมนตรีไต้หวันระบุระหว่างการประชุมรัฐสภาไต้หวันเมื่อวันที่ 23 ตุลาคมที่ผ่านมาว่า ไต้หวันเคารพสิทธิของสหรัฐอเมริกาในการเดินเรือในน่านน้ำสากล และยอมรับถึงความพยายามของสหรัฐในการสร้างสันติภาพในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก
รายงานระบุว่า จีนยังคงมองไต้หวันเป็นส่วนหนึ่งที่เตรียมผนวกเข้ากับจีน แม้ว่าไต้หวันและจีนจะปกครองแยกกันเป็นอิสระนับตั้งแต่สิ้นสุดสงครามกลางเมืองในปี พ.ศ.2492
ในช่วงที่ผ่านมา จีนนั้นได้เปิดปฏิบัติการทางทหารหลายครั้ง หนึ่งในนั้นรวมไปถึงการซ้อมรบด้วยกระสุนจริงในช่องแคบไต้หวันเมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา และประกาศพร้อมเผชิญหน้ากับกองกำลังเพื่ออิสรภาพของไต้หวัน
ด้านรัฐบาลสหรัฐภายใต้การนำของโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกานั้น ยังคงสานความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับไต้หวัน โดยประกาศแผนการขายชิ้นส่วนยุทธภัณฑ์ มูลค่า 330 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ให้กับไต้หวันเมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมา