“บิ๊กโจ๊ก”นำทีมทลาย 2 บ่อนพนันออนไลน์ชาวจีน รวบ 58 คน ยึดคอมฯ มือถือ โยงปั่นหุ้นแดนมังกร

“บิ๊กโจ๊ก”นำทีมทลาย 2 บ่อนพนันออนไลน์ชาวจีน รวบ 58 คน ยึดคอมฯ มือถือ 3 เดือนเงินหมุนเวียน 700 ล้าน โยงปั่นหุ้นแดนมังกร

เมื่อเวลา 18.00 น. วันที่ 27 กรกฎาคม พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจท่องเที่ยว(รองผบช.ทท.)ฐานะรองผอ.ศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศปอส.ตร) พ.ต.อ.อาชยน ไกรทอง รอง ผบก.ทท.1พ.ต.อ.พนัญชัย ชื่นใจธรรม รอง ผบก.ทท.2 พ.ต.อ.นิธิธร จินตกานนท์ รอง ผบก.สปพ. สนธิกำลังชุดปฎิบัติการศปอส.ตร. และตำรวจตรวจคนเข้าเมือง ปิดล้อมตรวจค้น 2 จุด ภายในอาคารพีเอสทาวเวอร์ แขวงคลองเตยเหนือ เขตวัฒนา กทม.หลังสืบทราบว่ามีกลุ่มชาวจีนเข้ามาเช่าเปิดเป็นฐานปฏิบัติการตั้งเว็บพนันออนไลน์ ผ่านแอปพลิเคชัน

โดยจุดแรกกำลังชุดปฎิบัติการศปอส.ตร เข้าตรวจสอบห้องชุดเลขที่36/39 ชั้น 13 ซึ่งเปิดเป็นบริษัทซัพวินซี่ เทคโนโลยีจำกัด พบชาวจีน 22 ราย เป็นชาย 17 ราย หญิง 5 ราย นั่งอยู่หน้าโต๊ะคอมพิวเตอร์ จากการตรวจค้นพบคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะ 25 เครื่อง คอมพิวเตอร์โน๊ตบุ๊ก 3 เครื่องโทรศัพท์มือถือ33 เครื่อง ซึ่งกำลังเปิดเว็บไซต์พนันออนไลน์ นอกจากนี้ยังพบเซิร์ฟเวอร์ 2 เครื่อง บัญชีลูกค้าชาวจีนจำนวนหนึ่ง จึงเก็บรวบรวมไว้เป็นหลักฐาน
ต่อมาเข้าตรวจค้นจุดที่สองห้องชุดเลขที่36/40 ชั้น 13 ซึ่งเปิดเป็นบริษัทซูล แอล เทคโนโลยี จำกัด พบชาวจีน36ราย เป็นชาย 28ราย หญิง 8ราย นั่งอยู่หน้าโต๊ะคอมพิวเตอร์ ตรวจค้นพบคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะ 66 เครื่อง คอมพิวเตอร์โน๊ตบุ๊ก 3 เครื่องโทรศัพท์มือถือ79เครื่อง ซึ่งกำลังเปิดเว็บไซต์พนันออนไลน์ นอกจากนี้ยังพบเซริฟเวอร์ที่ใช้ในการโอนเงิยจำนวน 1 เครื่องจึงเก็บรวบรวมไว้เป็นหลักฐาน

พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า สำหรับปฎิบัติการครั้งนี้เป็นความร่วมมือระหว่างงตำรวจจากศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทตโนโลยีสาธารณรัฐประชาชนจีน และศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ในการสืบสวนหลังทราบว่ามีกลุ่มชาวจีน ใช้ไทยเป็นฐานที่มั่นในการตั้งพนันออนไลน์ จึงบูรณาการทำงานร่วมกันในการแกะรอย กระทั่งพบความเคลื่อนไหวที่ห้องชุดดังกล่าว ว่ามีกลุ่มคนจีนเข้ามาทำงานในลักษณะต้องสงสัยอยู่กันเป็นจำนวนมากและชอบเก็บตัวไม่ออกไปไหน ทำงานกันตลอด 24 ชั่วโมง

รองผบช.ทท.กล่าวอีกว่าจากการตรวจค้นพบว่าเป็นเครือข่ายพนันออนไลน์เว็บไซต์ www.Tiyo.com โดยใช้ห้องชุดดังกล่าวเป็นสถานที่ควบคุมระบบในการเปิดให้เล่นพนันออนไลน์ โดยมีนายทุนชาวฟิลิปปินส์ชื่อนายสตีฟ เป็นหัวหน้าใหญ่ และมีผู้ดูแลเป็นชาวฟิลิปปินส์ซึ่งในเว็บดังกล่าวมีโต๊ะพนันไพ่กว่า 20 ชนิด ทั้งโบกเกอร์ ไพ่เต๋อโจวออยไลน์ และไพ่ชนิดต่างๆที่ชาวจีนนิยมเล่น นอกจากนี้พบว่ามีเซิร์ฟเวอร์ใหญ่อยู่ที่ประเทศฮ่องกง และประเทศฟิลิปปินส์ ซึ่งเซิร์ฟเวอร์ดังกล่าวสามารถรองรับลูกค้าชาวจีนได้มากกว่า 10 ล้านคนจากทั่วทุกมุมโลก ซึ่งฐานหรือเซิร์ฟเวอร์หลักที่เปิดในประเทศไทย จะทำหน้าที่ในการรับแทงพนัน คำนวณแต้ม โดยผู้เล่นจะต้องโอนเงินผ่านระบบยูเนี่ยนเปย์ และวีแซท รวมทั้งพบความเชื่อมโยงกับขบวนการปั่นหุ้นในจีน ซึ่งแผนประทุษกรรมของขบวนนี้ส่วนใหญ่จะเป็นชาวจีนในมณฑลเหอหนาน เดินทางเข้ามาในประเทศไทยโดยใช้วีซ่านักท่องเที่ยว จากนั้นก็จะมาตั้งฐานก่อเหตุในไทย แต่จะสร้างความเสียหายในประเทศจีน ซึ่งเป็นเครื่องบ่งชี้ว่าแผนประทุษกรรมในลักษณะนี้ยังคงมีอยู่

Advertisement

พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ กล่าวอีกว่าสอบสวนทราบว่าขบวนการนี้เข้ามาในไทยกว่า 3 เดือน โดยมีเงินหมุนเวียนราว700 ล้านบาท การสืบสวนของตำรวจขณะนี้พบว่าทั้งสองบริษัทมีการจดทะเบียนโดยคนไทย ซึ่งขณะนี้ทราบตัวแล้ว อยู่ระหว่างการติดตาม อีกทั้งยังไม่พบความเชื่อมโยงระหว่างแก๊งมังกรจีนเหอ หนาน กับแก๊งที่มาจากมณฑลจี้หลิน ซึ่งเป็นคอลเซ็นเตอร์ ที่ถูกจับกุมได้ในจังหวัดภูเก็ต เมื่อสองสัปดาห์ที่ผ่านมา และเครือข่ายพนันออนไลน์ที่จ.เชียงใหม่ แต่ทั้งหมดถือเป็นอาชญากรข้ามชาติกลุ่มสำคัญที่ตำรวจจากสาธารณรัฐประชาชนจีนต้องการตัวถือเป็นความร่วมมือระหว่างไทยจีนที่ประสบความสำเร็จอีกครั้ง หลังจับมือกันแลกเปลี่ยนข้อมูล จนเข้าจับกุมเป็นผลสำเร็จ

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อกล่าวหา ร่วมกันจัดให้มีการละเล่นพนันออนไลน์ เป็นบุคคลต่างด้าวประกอบอาชีพ โดยไม่ได้รับอนุญาต และแจ้งข้อหาเจ้าบ้านในฐานความผิดตามมาตรา 38 พ.ร.บ.ตรวจคนเข้าเมือง พ.ศ.2522 ซึ่งระบุว่าเจ้าของบ้านหรือผู้ครอบครองเคหสถาน หรือผู้จัดการโรงแรมซึ่งรับคนต่างด้าวซึ่งได้รับอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักรเป็นการชั่วคราว เข้าพักอาศัย จะต้องแจ้งต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ ณ ที่ทำการตรวจคนเข้าเมืองซึ่งตั้งอยู่ในท้องที่ เคหสถาน หรือโรงแรมนั้นอยู่ ภายในยี่สิบสี่ชั่วโมง นับแต่เวลาที่คนต่างด้าวเข้าพักอาศัย ถ้าท้องที่ใดไม่มีที่ทำการตรวจคนเข้าเมืองตั้งอยู่ ให้แจ้งต่อเจ้าพนักงานตำรวจ ณ สถานีตำรวจในท้องที่นั้นในกรณีที่บ้าน เคหสถาน หรือโรงแรมที่คนต่างด้าวเข้าพักอาศัย ตามวรรคหนึ่งตั้งอยู่ในเขตท้องที่กรุงเทพมหานคร ให้แจ้งต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ ณ กองตรวจคนเข้าเมือง ก่อนนำตัวทั้งหมดส่งสน.ทองหล่อ ดำเนินคดีตามกฏหมาย และจะประสานทางกสทช.เข้ามาร่วมตรวจสอบต่อไป

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image