ตาชั่งพันดาว : จับตาบันทึกกฤษฎีกา พลิกเกมการเมืองสีกากี

⦁…คนที่พูดโกหกได้ ก็หมายความถึงคนไม่อายต่อบาป ก็ทำได้ทุกๆ อย่างบรรดาเรื่องความชั่วทั้งปวงหมด โอวาทธรรม พระราชวุฒาจารย์ (ดุลย์ อตุโล)

⦁…พลิกอีกตลบ การเมืองทุ่งปทุมวัน หลังคณะกรรมการกฤษฎีกาชุด 2 มี วิษณุ เครืองาม นั่งที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรีหมาดๆ เป็นประธาน ทำบันทึกถึงสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ตอบข้อหารือกรณี ให้ “บิ๊กโจ๊ก” พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. นรต.รุ่น 47 ออกราชการไว้ก่อน 6 แผ่นกระดาษเอ 4 ขมวดปมได้ว่า ต้องรอฟังผลการสอบสวนพิจารณาทางวินัยมีมติ หากเป็นการปฏิบัติตามคำแนะนำของคณะกรรมการสอบสวนที่ตั้งขึ้น ย่อมชอบด้วยกระบวนการตามกฎหมาย เป็นธรรมแก่ผู้ถูกสอบสวน รวมถึงการนำความกราบบังคมทูลให้มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯให้พ้นจากตำแหน่งด้วย คนอ่านกฎหมายรู้ดูกฎหมายเป็นเห็นพ้องกันว่า ต่อลมหายใจให้ “รอง ผบ.ตร.หนุ่ม” วิ่ง สู้ ฟัด เรียกร้องความเป็นธรรมให้ตัวเองได้อีก มีสิทธิลุ้น เกมเปลี่ยน

⦁…บิ๊กโจ๊กได้ยื่นบันทึกกฤษฎีกานี้ให้ ก.ตร.เพิ่มเติมคำร้องอุทธรณ์ คำสั่งที่ “บิ๊กต่าย” พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รอง ผบ.ตร.รรท.ผบ.ตร. นรต.รุ่น 41 ปลดออกจากราชการ ปรากฏว่า ก.ตร.ที่นายกฯเศรษฐานั่งหัวโต๊ะ มีมติให้อนุ ก.ตร.ทางวินัยที่ พล.ต.อ.วินัย ทองสอง ก.ตร. เป็นประธานไปสอบเพิ่ม นัดถกทีมอนุ ก.ตร.ชุดนี้ 17 มิ.ย. แล้วรายงานที่ประชุม ก.ตร.นัดหน้า

⦁… แต่ผลวินิจฉัย พ้นราชการได้หรือไม่ ขึ้นอยู่กับคณะกรรมการพิทักษ์ระบบคุณธรรมข้าราชการตำรวจ (ก.พ.ค.ตร.) เป็นเสมือนศาลปกครองชั้นต้น ที่ “รองฯโจ๊ก” ได้อุทธรณ์คำสั่งทางปกครองไว้ว่า คำสั่งให้ออกราชการถูกต้องหรือไม่ กรอบเวลาวินิจฉัย ก.พ.ค.ตร. ปกติ 8 เดือน ถ้าออกมาเป็นคุณต่อ “บิ๊กโจ๊ก” ต้นสังกัดมีคำสั่งให้กลับราชการได้ทันที มีผลย้อนไปตั้งแต่ 18 เม.ย. ที่คำสั่งก่อน แล้วน่าจะฟ้องผู้เซ็นคำสั่งทันทีด้วย แต่ถ้าผลเป็นโทษ สามารถร้องศาลปกครองสูงสุดได้ ภายในระยะเวลา 90 วัน

Advertisement

⦁…นาทีนี้ แคนดิเดต ผบ.ตร.คนที่ 15 มาแรงสุดยังเป็น “บิ๊กต่าย” ระหว่างปฏิบัติหน้าที่ “ผู้นำองค์กรขัดตาทัพ” นั้น ได้ติดตามภารกิจนายกฯไปต่างจังหวัดบ่อยครั้ง ทั้งคู่เคมีเข้ากัน ทั้งบิ๊กต่าย และนายกฯเศรษฐา เป็นนักกีฬาฟุตบอล ต่างชวนกันไปดูแข่งฟุตบอลกันบ่อยๆ และลงสนามประลองแข้ง ด้วยสไตล์นายตำรวจนักบริหาร จึงถูกใจผู้นำรัฐบาล ปิดพิธีกีฬาภายใน ตร. 7 มิ.ย.นี้ ที่สนามศุภชลาศัย “สร.1” ตกปากรับคำมาเป็นประธานพิธี แล้วร่วมโชว์ฝีเท้าในสนามด้วย

⦁…ขณะที่ พล.ต.ท.ประจวบ วงศ์สุข ผู้ช่วย ผบ.ตร. หรือ “บิ๊กจวบ” รรท.รอง ผบ.ตร. นรต.รุ่น 39 มีกองเชียร์ลุ้นให้เข้าวินเก้าอี้ “พิทักษ์ 1” เช่นกัน เวลานี้คุมหน้างานความมั่นคงและกิจการพิเศษแทนบิ๊กโจ๊ก เป็นชาวเหนือเกิดเมืองแพร่ “อู้คำเมือง” ด้วยกัน “บิ๊กเนม” ผู้ทรงอิทธิพลนอกรัฐบาล เส้นทางเติบโต “บิ๊กจวบ” รับราชการอยู่ภาคเหนือจนถึงระดับ ผบช.ภ.5 แล้วขึ้นผู้ช่วย ผบ.ตร. ถ้าจะดันขึ้นเป็นแคนดิเดต ต้องรอให้กฎ ก.ตร.แต่งตั้งมีผลบังคับใช้ ต.ค.นี้ แล้วตั้งเป็นรอง ผบ.ตร.ตัวจริง เพื่อให้คุณสมบัติครบชู้ตขึ้น “เบอร์ 1 สีกากี” แต่แรงเสียดทานสูงยิ่งกว่าคราว ผบ.ตร.คนที่ 14

⦁…ในที่สุด “แป้ง นาโหนด” จนมุมเพราะผู้หญิง จับได้ที่บาหลี อินโดนีเซีย เหตุไปตบตีทำร้ายสาวเจ้าในคอนโดจนต้องหนีออกมา แล้วมีพลเมืองดีแจ้งตำรวจ ตรวจสอบเป็นคนร้ายทางการไทยต้องการจึงตามไปรวบตัว สิ้นอิสรภาพ อุตส่าห์หนีพ้นเงื้อมมือกฎหมายมา 222 วัน นาทีโดนรวบตัวแกล้งเป็นใบ้ หลีกเลี่ยงไม่ให้ถูกจับได้ว่าเป็นคนอาเจะห์ ใช้พาสปอร์ตปลอม งานนี้ “เสี่ยแป้ง” เรียกว่าหมดท่า เพราะชะล่าใจออกจากแหล่งกบดาน ไปเที่ยวเกาะสวรรค์ที่ครองใจคนทั่วโลกแต่ไม่รอด ถูกนำตัวกลับมาใช้ชีวิตในที่คุมขัง เรือนจำมั่นคงที่สุด ป้องกันไม่ให้เกิดบทเรียนซ้ำอีก

Advertisement

⦁…ขยายผลต่อ “ตำรวจหญิง” เคยเป็นหน้าห้องรอง ผบช.ภ.9 “เกลือเป็นหนอน” ส่งข้อมูลไล่ล่าตำรวจให้นักโทษหนี ตรวจสอบประวัติพบว่าเดินทางเข้าออกอินโดนีเซียบ่อยครั้ง เป็นหนึ่งในขบวนการค้ายาเครือข่ายแป้ง แต่ขณะเดียวกันเป็นกุญแจสำคัญที่ชี้เป้าที่หลบซ่อนให้ตำรวจแกะรอยผู้ต้องหาในแดนอิเหนาจนนำมาสู่การจับกุม

⦁…ย่องลงพื้นที่ลำพังหลายครั้ง “นายกฯนิด” ทั้งตรวจ สน. เดินตามชุมชนเก็บข้อมูล ต่อมาเรียกประชุมทัพนครบาล นำโดย “บิ๊กเจ้า” พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง “น.1” นรต.รุ่น 40 มีรอง ผบช.น. และ ผบก.น.1-9 เข้าร่วม สั่งคิกออฟแก้หนี้ครัวเรือน หนี้นอกระบบ ถึงจะเข็นครกขึ้นภูเขาก็ต้องทำ เพราะเป็นสารตั้งต้นของอาชญากรรมต่างๆ ที่เป็นความเดือดร้อนชาวกรุง “น.1” รับนโยบาย ขับเคลื่อนประสานลูกหนี้ เจ้าหนี้ และแบงก์มาเจอกัน ทั้ง 88 สน.ต้องบูรณาการทำงานร่วมกับ 50 เขต กทม. …⦁

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image