ครอบครัวยื่นค้านประกัน เจ๊มด-ทีมฆ่าเสี่ยต้น แม่เชื่อถูกวางยา จบคดีแล้วค่อยพูดเรื่องอโหสิกรรม

ครอบครัวคัดค้านการประกันตัวแก๊งลอบยิง ‘เสี่ยต้น’ แม่เชื่อลูกถูกวางยา ไม่ติดใจเรื่องเงินประกัน

จากกรณี น.ส.ณัฐปภัษร์ อายุ 42 ปี น้องสาวของ นายพิชิต กลีบจินดา อายุ 44 ปี หรือ เสี่ยต้น นักธุรกิจสอนนวดแผนไทย เข้าร้องขอความช่วยเหลือกับ ทนายเดชา กิตติวิทยานันท์ กรณีพี่ชายเสียชีวิตไม่ทราบสาเหตุหลังเดินทางไปหาภรรยาที่ จ.มหาสารคาม เมื่อวันที่ 16 เม.ย.ที่ผ่านมา โดยสภาพผิวศพดำ ซึ่งน้องสาวมองว่าผิดปกติ อาจถูกวางยาพิษหวังฆาตกรรม โดยใบรับรองการตายระบุว่า unattended death

ซึ่งก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 9 เม.ย.67 เวลาประมาณ 01.30 น. นายพิชิตเคยถูกลอบยิงที่บริเวณถนนเลียบทางด่วนประดิษฐ์มนูธรรม ขณะขับรถกลับจากสถานบันเทิงย่านเอกมัย-รามอินทรา กทม. ในพื้นที่ สน.วังทองหลาง ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมผู้ต้องหาได้แล้ว 3 ราย ได้แก่ น.ส.วรรณิภา หรือ มด อายุ 37 ปี ภรรยาผู้ตาย ตามหมายจับศาลอาญาที่ 2562/2567 ลงวันที่ 2 มิ.ย.67 ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “เป็นผู้ใช้จ้างวานให้ผู้อื่นกระทำความผิดฐานร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน”

Advertisement

นายสาโรจน์ เสือสุวรรณ อายุ 25 ปี ตามหมายจับศาลอาญาที่ 2560/2567 ลงวันที่ 2 มิ.ย.67 ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “ร่วมกันพยายามฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน, ร่วมกันมีอาวุธปืนไว้ในความครอบครองโดยมิได้อนุญาต และร่วมกันพาอาวุธปืนติดตัวไปในเมืองหมู่บ้านหรือทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร” และ นายวีรภัทร สุคนธทรัพย์ อายุ 25 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาที่ 2561/2567 ลงวันที่ 2 มิ.ย.67 ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “ร่วมกันพยายามฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน ร่วมกันมีอาวุธปืนไว้ในความครอบครองโดยมิได้อนุญาต และร่วมกันพาอาวุธปืนติดตัวไปในเมืองหมู่บ้านหรือทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร” และอีก 1 รายคือ นายณัฐพล ศิริโนนรัง อายุ 25 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญา ที่ 2559/2567 ลงวันที่ 2 มิ.ย.67 ที่อยู่ในระหว่างการหลบหนี

ล่าสุดเมื่อเวลา 10.50 น. วันที่ 4 มิถุนายน ที่ สน.วังทองหลาง น.ส.ณัฐปภัษร์ และ นางปภาพินท์ อายุ 63 ปี แม่ผู้ตาย น.ส.ปนรรฐพร อายุ 42 ปี ญาติผู้ตาย พร้อมด้วย น.ส.อำนวยพร มณีวรรณ์ หรือ ทนายกุ้ง เดินทางยื่นคัดค้านประกันตัว 3 ผู้ต้องหาต่อพนักงานสอบสวน

ทนายกุ้งเปิดเผยว่า วันนี้พาครอบครัวและญาติของเสี่ยต้นมายื่นคัดค้านการประกันตัวผู้ต้องหาทั้ง 3 รายที่ถูกจับกุม เพราะโทษหนักสุดของผู้ต้องหาคือจำคุกตลอดชีวิต เกรงว่าหากมีการประกันตัวจะมีการหลบหนี หลังจากนี้จะมีการติดตามต่อในส่วนของคดีการเสียชีวิตของเสี่ยต้นที่ จ.มหาสารคาม คาดว่าจะมีความเชื่อมโยงกันกับคดีที่เกิดขึ้นในท้องที่ สน.วังทองหลาง

Advertisement

ทนายกุ้งกล่าวว่า ขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้เร่งสืบสวนหาความเชื่อมโยงอยู่ ซึ่งครอบครัวสามารถให้ข้อมูลเพิ่มเติมได้แค่บางส่วน และในวันพรุ่งนี้ (5 มิ.ย.67) จะมีการยื่นคัดค้านการประกันตัวในชั้นศาลอีกครั้ง โดยกรณีของ น.ส.วรรณิภา ที่สามารถใช้สิทธิอ้างว่าบุตรไม่มีคนดูแล โดยจะใช้เป็นเหตุในการประกันตัวได้ ซึ่งก็อยู่ที่ดุลพินิจของพนักงานสอบสวนเพราะคดียังไม่สิ้นสุด ขณะนี้ น.ส.วรรณิภาปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา แต่ครอบครัวเชื่อมั่นในเจ้าหน้าที่ตำรวจที่มีหลักฐานที่ชัดเจนอยู่แล้ว และถึงแม้ว่าพนักงานสอบสวนจะยื่นคัดค้านการประกันตัวไปแล้ว แต่ครอบครัวก็จะยื่นคัดค้านการประกันตัวต่อไป

ทนายกุ้งกล่าวอีกว่า ในส่วนเงินประกัน 16 ล้านบาทของผู้ตาย เบื้องต้นทราบว่าบุตรทั้ง 3 คนเป็นผู้รับผลประโยชน์ แต่ในส่วนนี้ยังไม่ได้ดูในรายละเอียดว่ากรมธรรม์มีเงื่อนไขอะไรบ้าง ซึ่งทางครอบครัวของเสี่ยต้น ไม่ได้ตรวจสอบและติดตามในเรื่องนี้

นางปภาพินท์กล่าวว่า ไม่คิดว่าลูกสะใภ้จะเป็นคนลงมือ เพราะคิดว่าเป็นคนนอกมาโดยตลอด ตอนนี้รู้สึกโกรธและไม่อยากพบหน้าลูกสะใภ้ เนื่องจากไม่มีอะไรจะพูดคุยด้วย ขณะนี้หลานทั้ง 3 คนอยู่กับญาติฝั่งลูกสะใภ้ และไม่ให้ติดต่อกับตน จึงมีความรู้สึกเป็นห่วงหลานทั้ง 3 และเชื่อว่าการตายของเสี่ยต้นที่ จ.มหาสารคาม เกิดจากการถูกวางยา 100 เปอร์เซ็นต์ ในส่วนของการอโหสิกรรมตนขอให้คดีสิ้นสุดก่อน

ขณะที่ น.ส.ปนรรฐพรกล่าวว่า ส่วนตัวเชื่อว่าน่าจะมีบุคคลอื่นเกี่ยวข้องและอยู่เบื้องหลังการตายของเสี่ยต้นนอกจากผู้ต้องหาทั้ง 4 ราย เนื่องจากภรรยาของเสี่ยต้นไม่ใช่คนเลวร้าย หรือมีพฤติกรรมรุนแรง หลังจากนี้จะเป็นพยานในชั้นศาลเพื่อเล่าความจริงแทนผู้ตาย เพราะคนตายพูดไม่ได้ จะพูดแทนคนตายเอง

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image