บิ๊กโจ๊ก อโหสิ ถ้าได้กลับ ตร. ประกาศถอนฟ้องยกรวง เดินหน้ากู้ภาพลักษณ์ให้องค์กร

บิ๊กโจ๊ก ลั่นถ้าได้กลับ ตร.ถอนฟ้องยกรวง พร้อมอโหสิ เลิกอาฆาตล้างแค้น เสียสละเรื่องในอดีต ลุยงานเพื่อองค์กร

เมื่อวันที่ 5 มิถุนายน พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. ให้สัมภาษณ์รายการ เจาะลึกทั่วไทย Inside Thailand กรณีการกลับเข้ารับราชการตำรวจอีกครั้ง ท่ามกลางเสียวิจารณ์ว่าไม่เอากลับก็อันตราย เอากลับก็อันตรายว่า ไม่ทราบคำวิจารณ์ จากการทำงานที่ผ่านมาเคยเจอคำสั่งให้โยกย้ายไปประจำสำนักนายกฯถึง 2 ปีเต็ม ส่วนจะได้กลับมาสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) หรือไม่เป็นเรื่องของผู้บังคับบัญชา เมื่อกลับมาแล้วทุกอย่างต้องอโหสิให้หมดจากการต้องเสียสละเรื่องราวในอดีต เพราะสิ่งที่ประชาชนรอคอยคือการทำงานของตำรวจ

“ถ้าผมได้กลับมาต้องให้เกิดความสามัคคีในหมู่คณะ ต้องตามความสามัคคีกลับมาให้ได้ นำภาพบวกของสำนักงานตำรวจแห่งชาติคืนกลับมาให้ได้ เพราะประชาชนกำลังรอคอยตำรวจทำงาน” พล.ต.อ.สุรเชษฐ์กล่าว

ผู้สื่อข่าวถามว่า เสียสละและอโหสิอย่างไร พล.ต.อ.สุรเชษฐ์กล่าวว่า 1.ความตั้งใจมุ่งมั่น ถ้ากลับมาแล้วเรื่องราวต่างๆ ที่ฟ้องร้องต้องเลิกกันให้หมด ไม่อย่างนั้นเดินไม่ได้ แล้วองค์กรตำรวจจะไปยังไง เรื่องฟ้องร้องคดีต่างๆ ที่ฟ้องร้องกันมา ที่จะดำเนินคดีกันมา ต้องยกเลิกให้หมด เพราะถ้าตนกลับมาแล้วในฐานะเป็นผู้บังคับบัญชาระดับต้นๆ ถ้าลูกน้องเห็นผู้บังคับบัญชาขัดแย้งกันจะทำงานไม่ได้ ในส่วนคดีเว็บพนันออนไลน์ที่เข้าสู่กระบวนการยุติธรรมไปแล้วก็พิสูจน์ความยุติธรรมกัน เพราะถ้าตัดสินมาว่าตนผิดก็รับโทษ แต่ถ้าถูกจะได้รับความเป็นธรรม

Advertisement

“ถ้ากลับไปแล้วเรื่องราวต่างๆ ต้องเลิกกันให้หมด ถอนฟ้องกันให้หมด นี่คือความคิดของผมส่วนตัว ด้วยความที่ผมเป็นนักกีฬา สุจริตคือสำคัญ ผมเองหยุดทำงานไป 4-5 เดือนแล้ว สิ่งที่เสียดายคือไม่ได้ทำงานให้ประชาชน เวลาลงพื้นที่ สะท้อนหัวใจมีเรื่องไรเยอะแยะที่ประชาชนยังต้องได้รับความเป็นธรรม แต่ถ้าไม่ได้กลับวันนี้ไม่ต้องทำไรแล้ว เพราะกระบวนการต่างๆ ได้เอาเข้าช่องหมดแล้ว ทั้งการอุทธรณ์ต่อคณะกรรมการพิทักษ์ระบบคุณธรรมตำรวจ วันนี้แค่รอ เพราะกระบวนการต่างๆ ที่ได้ร้องไปทำงานอยู่ ผมมั่นใจว่าทุกกระบวนการให้ความเป็นธรรม” พล.ต.อ.สุรเชษฐ์กล่าว

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์กล่าวต่อว่า 2.ในหลักการคือถ้ากลับมาแล้วต้องคิดถึงส่วนรวมเป็นหลัก จะคิดถึงส่วนตัวไม่ได้ วันนี้นั่งอาฆาตล้างแค้นฟ้องร้องคดีกัน เพราะการฟ้องร้องคดีต้องขึ้นศาลเยอะเสียเวลาเปล่าๆ เอาเวลามาคุยกัน เพราะทุกคนคือพี่น้องกันทั้งนั้น จบจากโรงเรียนนายร้อยตำรวจด้วยกัน และจบโรงเรียนเตรียมทหาร วันนี้ทุกคนต้องมีใจยึดส่วนรวมเป็นหลัก เพื่อทำงาน แต่ถ้ากลับมาแล้วเข่นฆ่ากัน ไม่ต้องกลับมาดีกว่า ไม่มีประโยชน์

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์กล่าวว่า ดังนั้น การกลับมาของตนต้องเป็นประโยชน์ต่อองค์กร เป็นประโยชน์ต่อตำรวจระดับล่าง เป็นประโยชน์ต่อประชาชน แต่ถ้ากลับมาแล้วไม่มีประโยชน์ไม่ต้องกลับมา วันนี้มีงานต้องทำเยอะ งานสอบสวนต้องพัฒนา โรงพักต้องเอาเทคโนโลยีเข้ามา และแก้ปัญหาสหกรณ์ตำรวจที่มีการโกงกันมาก

Advertisement

ถามต่อว่า ถ้าไม่ได้กลับจะฟ้องร้องพนักงานสอบสวน ฟ้องร้องนายกฯ และรอง ผบ.ตร.รักษาราชการ ผบ.ตร.หรือไม่ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์กล่าวว่า ถ้าไม่ได้กลับ กระบวนการต่างๆ ที่ทำไปต้องเดินหน้า ถอนไม่ได้เพราะต้องหาความยุติธรรมให้กับตนและลูกน้อง

เมื่อถามว่า ถ้าได้กลับก็จบ ถ้าไม่ได้กลับก็รบต่อหรือไม่ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์กล่าวว่า “อย่าใช้คำว่ารบต่อ เพราะไม่ว่าจะเป็นใครก็ตาม แสวงหาความยุติธรรมต่อ แต่ถ้าได้กลับ ใครจะเลิกไม่เลิกก็แล้วแต่ สำหรับผมถอนฟ้องทั้งหมด แล้วผมกลับมาทำงาน ไม่ใช่กลับมาหาเรื่อง”

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image