24 มิ.ย. ผช.ผบ.ตร.นัดถกบันทึกกฤษฎีกา ‘ปม’ ปลดบิ๊กโจ๊ก ชง บิ๊กต่อ-นายกฯประชุมก.ตร.พุธนี้

24 มิ.ย. ผช.ผบ.ตร.นัดถกบันทึกกฤษฎีกา ‘ปม’ ปลดบิ๊กโจ๊ก ชง บิ๊กต่อ-นายกฯประชุมก.ตร.พุธนี้

รายงานข่าวจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ(ตร.) เมื่อวันที่ 22 มิถุนายน เปิดเผยว่า ในวันที่ 24 มิถุนายน พล.ต.ท. ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรงค์ ผู้ช่วย ผบ.ตร. จะเป็นประธานหารือบันทึกสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตอบข้อหารือสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี เรื่องการดำเนินการเกี่ยวกับการให้พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ พักพาล รองผบ.ตร. ออกจากราชการไว้ก่อน

โดยบันทึกดังกล่าวมีใจความสำคัญ คือ 1.นายกรัฐมนตรีจะต้องนำความกราบบังคมทูลเพื่อทรงมีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าให้ข้าราชการตำรวจตำแหน่งรองผบ.ตร.รายดังกล่าวพ้นจากตำแหน่งตั้งแต่วันออกจากราชการไว้ก่อน

2.กรอบระยะเวลาเป็นดุลยพินิจของนายกรัฐมนตรีที่จะต้องพิจารณาดำเนินการด้วยความรอบคอบภายในระยะเวลาอันเหมาะสมตามควรแก่กรณีต่อไป นอกจากนี้มีข้อสังเกตเพิ่มเติมว่า “การสั่งให้ข้าราชการตำรวจรายนี้ออกจากราชการไว้ก่อน หากเป็นการปฏิบัติตามคำแนะนำของคณะกรรมการสอบสวนที่ตั้งขึ้นย่อมจะทำให้การพิจารณาเหตุแห่งการกระทบสิทธิของผู้นั้นและความจำเป็นที่ต้องสั่งให้ผู้นั้นออกจากราชการไว้ก่อนชอบด้วยกระบวนการตามกฎหมายและเป็นธรรมแก่ผู้ถูกสอบสวน และการนำความกราบบังคมทูลตามมาตรา 140 วรรคหนึ่ง ย่อมเป็นไปด้วยความชอบธรรม”

Advertisement

โดยมี ตัวแทนอาทิ จาก สำนักงานกำลังพล (สกพ.) ,สำนักงานกฎหมายและคดี (กมค.) และ สำนักงานคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ (สง.ก.ตร.) เข้าหารือว่าตร.ต้องดำเนินการอย่างไร หรือไม่ดำเนินการอย่างไรตามบันทึกคณะกรรมการกฤษฎีกาบ้าง เพื่อเสนอพล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบ.ตร. ต่อไป

พล.ต.อ.เอก อังสนานนท์ กรรมการข้าราชการตำรวจ(ก.ตร.)ผู้ทรงคุณวุฒิกล่าวว่า สำหรับฉากทัศน์ที่คาดว่าจะเกิดขึ้นหลังจากนี้ ผบ.ตร. แก้ไขคำสั่งให้ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กลับเข้ารับราชการ หรือ ก.ตร.วินิจฉัยสั่งการให้ผบ. ตร.กลับคำสั่งให้พล.ต.อ.สุรเชษฐ์กลับเข้ารับราชการ แต่มีความเสี่ยงจะถูกกล่าวโทษว่าเป็นการปฎิบัติหน้าที่โดยมิชอบหรือไม่ เพราะเมื่อวันที่ 17 มิถุนายน อนุกรรมการข้าราชการตำรวจเกี่ยวกับดำเนินการทางวินัยที่มี พล.ต.อ.วินัย ทองสอง ก.ตร.เป็นประธาน ที่ก.ตร.ได้มอบหมายให้วินิจฉัยบันทึกคณะกรรมการกฤษฎีกาที่ตอบข้อหารือสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี

มีมติเสียงข้างมากว่าคำสั่งให้ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ออกจากราชการนั้นชอบแล้ว โดยไม่ได้รับข้อสังเกตบันทึกคณะกรรมการกฤษฎีกา เนื่องจากมีคำสั่งศาลปกครองสูงสุดว่าข้อสังเกตคณะกรรมการกฤษฎีกามิได้มีผลให้หน่วยงานต้องปฏิบัติ การดำเนินการตามข้อสังเกตคณะกรรมการกฤษฎีกาย่อมเป็นไปตามดุลยพินิจและนโยบายของแต่ละหน่วยงาน ดังนั้นเมื่อมติคณะอนุก.ตร.วินัยเสนอที่ประชุมก.ตร. โดยปกติที่ประชุมก.ตร.จะรับทราบตามนั้น

Advertisement

“เพราะฉะนั้นถ้ามีคำสั่งให้พล.ต.อ.สุรเชษฐ์กลับมารับราชการ อาจมีการร้องทุกข์กล่าวโทษ จึงควรรอการพิจารณาคณะกรรมการพิทักษ์คุณธรรมตำรวจ(ก.พ.ค.ตร.) จะมีความปลอดภัยกับทุกฝ่าย เพราะถ้าวินิจฉัยเป็นคุณกับพล.ต.อ.สุรเชษฐก็ถือว่าจบ สามารถย้อนหลังไปถึงวันที่ 18 เมษายนที่มีคำสั่งให้ออกจากราชการ แต่ถ้าไม่เป็นคุณ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ร้องศาลปกครองสูงสุดได้ต่อ” พล.ต.อ.เอกกล่าว

ข่าวแจ้งว่า นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี เป็นประธานประชุมก.ตร.ในวันที่ 26 มิถุนายน เวลา 15.00 น. ที่ห้องประชุมศรียานนท์ ตร. โดยมีวาระน่าสนใจคือ การพิจารณาผลการพิจารณาบันทึกคณะกรรมการกฤษฎีกา ที่พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ยื่นเพิ่ม โดยอนุก.ตร.วินัย ที่พล.ต.อ.วินัย เป็นประธาน ยืนยันว่าการดำเนินการของตร. ให้พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ออกจากราชการนั้นทำถูกต้องแล้ว

 

 

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image