ครอบครัวน้องอลิส เผชิญหน้า 3 ครูศูนย์เด็กเล็ก-อบต. เรียกค่าเสียหาย รวม15 ล้าน ญาติเผยพิรุธตร.

ครอบครัวน้องอลิส เผชิญหน้า 3 ครูศูนย์เด็กเล็ก เรียกค่าเสียหายรวม 10 ล้าน-อบต.5 ล้าน ญาติเผย ตร.มีพฤติกรรมน่าสงสัยขณะเจรจาไกล่เกลี่ย

กรณีเกิดเหตุเด็กหญิง วัย 3 ขวบหรือ น้องอลิส จมน้ำเสียชีวิตในสระน้ำกลางทุ่งนาห่างจากศูนย์พัฒนาเด็กเล็กบ้านค้อ ตำบลคอนกาม อำเภอยางชุมน้อย จังหวัดศรีสะเกษ เป็นระยะที่ไกลเกินกว่าเด็กวัยนี้จะสามารถที่จะเดินไปถึงและเสียชีวิตได้ เพราะเส้นทางลำบาก ซึ่งทางพ่อ แม่ ญาติพี่น้องของน้องอลิส ติดใจการเสียชีวิตในหลายๆ ประเด็น ตามที่มีการเสนอข่าวไปก่อนหน้านี้นั้น

เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 27 มิถุนายน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายปริญญา พร้อมด้วย น.ส.พุทธมาลย์ และนางทองทิพย์ พ่อ แม่ และย่าของน้องอลิส พร้อมด้วยญาติพี่น้อง เดินทางมาที่สถานีตำรวจภูธรยางชุมน้อย เพื่อเจรจาไกล่เกลี่ยเรื่องคดีทางแพ่งกับทางครูศูนย์เด็กเล็กทั้ง 3 คน ซึ่งเป็นคู่กรณี

โดยเมื่อเวลา 10.30 น. ครูน้อย ได้เดินทางมาที่สถานีตำรวจภูธรยางชุมน้อย เป็นคนแรก เพื่อให้ปากคำเพิ่มเติมกับทางชุดสืบสวนสอบสวน สภ.ยางชุมน้อย โดยที่ยังไม่ได้เข้าพบพนักงานสอบสวนในการร่วมเจรจาไกล่เกลี่ย

Advertisement

ต่อมาเวลาประมาณ 11.00 น. ครูหนุ่ย และ ครูปูเป้ พร้อมด้วยนายกองค์การบริหารส่วนตำบลคอนกาม และคณะผู้บริหาร เดินทางมาที่สถานีตำรวจภูธรยางชุมน้อย เพื่อเจรจาไกล่เกลี่ยกับทางครอบครัวน้องอลิส โดยมี พ.ต.ท.ปัญญา โพธิ์ขำ สว.(สอบสวน) สภ.ยางชุมน้อย เป็นคนกลางในการเจรจาครั้งนี้

ผู้สื่อข่าวรายงานต่อไปว่า ขณะที่ครูทั้ง 3 คน พร้อมด้วยคณะบริหารเดินทางมาถึงนั้น ครูน้อยไม่ได้มีสีหน้าที่เคร่งเครียดแต่อย่างใด ขณะที่ครูปูเป้ พร้อมด้วยทางนายกองค์การบริหารส่วนตำบลคอนกาม พร้อมด้วยคณะผู้บริหาร ที่เดินทางมาร่วมไกล่เกลี่ยในครั้งนี้ มีสีหน้าเคร่งขรึม และเดินเข้าห้องทำงานของพนักงานสอบสวน โดยไม่ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนแต่อย่างใด

Advertisement

ต่อมาเวลา 12.00 น. พ่อ แม่ และย่า ของน้องอลิสพร้อมด้วยญาติพี่น้อง เจรจาไกล่เกลี่ยเรื่องคดีทางแพ่งกับทางครูศูนย์เด็ก ทั้ง 3 คน ซึ่งเป็นคู่กรณี ประกอบด้วย ครูหนุ่ย และครูปูเป้ พร้อมด้วยนายกองค์การบริหารส่วนตำบลคอนกาม และคณะผู้บริหารโดยมี พ.ต.ท.ปัญญา โพธิ์ขำ สว.(สอบสวน) สภ.ยางชุมน้อย เป็นคนกลางในการเจรจา ซึ่งใช้เวลาประมาณ 30 นาที จึงเจรจากันแล้วเสร็จ

ขณะที่ครูน้อยนั้น ไม่ได้เข้าร่วมเจรจาไกล่เกลี่ยในครั้งนี้ เนื่องจากต้องให้ปากคำเพิ่มเติมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนสอบสวน สภ.ยางชุมน้อย หลังจากที่การเจรจาไกล่เกลี่ยเสร็จสิ้น ครูทั้ง 3 คน ได้เดินทางกลับทันที โดยไม่ได้ให้สัมภาษณ์แก่สื่อมวลชนแต่อย่างใด

น.ส.ชานิตา ซึ่งเป็นญาติของน้องอลิส และเป็นผู้ที่เข้าร่วมการเจรจาในครั้งนี้ ได้เปิดเผยกับผู้สื่อข่าว หลังจากที่ครูหนุ่ย เดินทางเข้าห้องพนักงานสอบสวน ได้มีเจ้าหน้าที่ตำรวจท่านหนึ่งทำลักษณะกะพริบตาและทำมือจุ๊ปากเป็นเชิงส่งสัญญาณให้ครูหนุ่ย เหมือนต้องการมีนัยต้องการสื่ออะไรบางอย่าง ซึ่งจริงๆ เจ้าหน้าที่ตำรวจต้องทำงานให้ความเป็นธรรมแก่ผู้ถูกกระทำ หรือญาติผู้เสียหาย ไม่ใช่เอื้อแก่ผู้อื่น ซึ่งหลังจากการเจรจาไกล่เกลี่ยแล้วเสร็จในวันนี้ ปรากฏว่า ทั้งสองฝ่ายยังตกลงกันไม่ได้

น.ส.ชานิตากล่าวต่อว่า ในส่วนของเงินทดแทน ทั้งในเรื่องการจัดงานศพ และความเสียหายต่างๆ ที่เกิดขึ้น ซึ่งทางครอบครัวน้องอลิส เรียกร้องค่าเสียหายกับครูทั้ง 3 คน รวมเป็นจำนวนเงิน 10,000,000 บาท และกับองค์การบริหารส่วนตำบลคอนกาม เป็นเงิน 5,000,000 บาท

น.ส.ชานิตากล่าวต่อไปว่า จริงๆ ตามที่นัดหมาย เราตกลงนัดกันในวันนี้ (27 มิถุนายน 2567) ในเวลา 10.00 น. ที่สถานีตำรวจภูธรยางชุมน้อย แต่ปรากฏว่าทางองค์การบริหารส่วนตำบลคอนกามและทางครูทั้ง 3 คน เดินทางมาถึงในเวลา 11.00 น. ซึ่งต้องให้ทางตนรอเกือบ 1 ชั่วโมง และในขณะเจรจาท่าทีของครูทั้ง 3 คน อยู่ในอาการนิ่ง ไม่วิตกกังวล ซึ่งหลังจากที่ทางพวกตนได้เรียกร้องค่าเสียหายไปแล้ว ทางตำรวจได้พูดออกมาว่า ไม่เห็นใจทางคู่กรณีบ้างหรือ ซึ่งตนอยากจะให้ย้อนกลับมาลองเป็นทางพวกตนดูบ้างว่า ไม่นึกถึงจิตใจของญาติและครอบครัวผู้สูญเสียบ้างหรือ ซึ่งทางครูทั้ง 3 คน และทางองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ยังไม่มีท่าทีว่าจะชดใช้หรืออย่างใด เพียงแต่รับฟังเท่านั้น ซึ่งหลังจากนี้ทางครอบครัวน้องอลิส ก็จะทำในส่วนที่ทำได้ ถ้าหากทางครูทั้ง 3 คน มีอะไรที่ต้องการคุยกับทางพวกตน พวกตนก็พร้อมจะรับฟัง ไม่ว่าจะพูดคุยอยู่ที่สถานีตำรวจ หรือที่บ้าน

ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวได้พยายามสอบถามข้อเท็จจริงกับนายตำรวจคนดังกล่าว ซึ่งได้ปฏิเสธถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และยืนยันว่าไม่ได้มีการรู้จักกันเป็นการส่วนตัวกับครูหนุ่ย แต่เมื่อ 5 ปีที่แล้ว ครูหนุ่ยได้มาแจ้งความเกี่ยวกับคดีถูกขโมยวัว ซึ่งตอนนี้ คดีได้เสร็จสิ้นแล้ว เท่านั้น ซึ่งขณะนั้น ทางญาติของน้องอลิสได้เดินมาปะทะคารมกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจคนดังกล่าว เนื่องจากสงสัยในพฤติกรรมที่มีเลศนัย

โดยทางนายตำรวจคนดังกล่าวได้ปฏิเสธและชี้แจงเรื่องราวที่เกิดขึ้นให้รับทราบ ก่อนที่ทางญาติของน้องอลิสได้พูดว่า หากท่านบริสุทธิ์ใจ ทางญาติจะไม่ติดใจในเรื่องนี้ แต่ถ้าหากไม่ใช่ขอให้คิดถึงเวรกรรมที่จะเกิดขึ้น พร้อมพนมมือไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ ก่อนที่ทั้งสองฝ่ายจะแยกย้ายกัน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image