คลี่ปมไหม้ ‘วินโพรเสส’ พบเอกสารปลอมอื้อ ส่อพิรุธวางเพลิง คาดจนท.ร่วมแก๊ง

ผู้ช่วย ผบ.ตร. ประชุมคดีไฟไหม้โรงงานเก็บสารเคมี พบบริษัทที่เกิดเหตุมีการปลอมแปลงเอกสารทุกขั้นตอน

เมื่อเวลา 13.30 น. วันที่ 28 มิถุนายน ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.ท.ธัชชัย ปิตะนีละบุตร ผู้ช่วย ผบ.ตร.ฐานะหัวหน้าพนักงานสืบสวนสอบสวน พร้อมคณะพนักงานสืบสวนสอบสวนและผู้เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุมติดตามความคืบหน้าคดีเพลิงไหม้โรงงานเก็บสารเคมีที่จังหวัดระยอง

พล.ต.ท.ธัชชัยเปิดเผยว่า จากกรณีเมื่อวันที่ 12 พฤษภาคม เกิดเหตุเพลิงไหม้ที่โรงงานเก็บสารเคมีของบริษัท วิน โพรเสส จำกัด ที่ อ.บ้านค่าย จ.ระยอง ซึ่งเก็บวัตถุอันตรายโดยไม่ได้รับอนุญาต โดยที่ประชุมวันนี้เรียกคณะพนักงานสอบสวนและผู้เกี่ยวข้องเกือบ 100 คน เข้าร่วมประชุมติดตามคืบหน้าคดีจากการสอบสวนขยายผลพบว่ามีการกระทำผิดเช่นนี้ในหลายพื้นที่ โดยนำวัตถุอันตรายไปเก็บไว้ในพื้นที่ต่างๆ รวมทั้งหมด 4 จังหวัด 5 แห่ง ประกอบด้วยพื้นที่โรงงานใน อ.ศรีเทพ จ.เพชรบูรณ์, อ.กลางดง จ.นครราชสีมา, อ.อุทัย และ อ.ภาชี จ.พระนครศรีอยุธยา, อ.บ้านค่าย และ อ.มาบตาพุด จ.ระยอง

พล.ต.ท.ธัชชัยกล่าวอีกว่า ใน 5 จุดดังกล่าวพบว่ามี 2 จุดที่เกิดเหตุเพลิงไหม้ 3 ครั้ง คือ อ.บ้านค่าย 1 ครั้ง อ.ภาชี 2 ครั้ง ซึ่ง 1 ใน 2 ครั้งที่เกิดเหตุเพลิงไหม้ที่ อ.ภาชี นั้นพบว่าเป็นการวางเพลิงจริงอย่างชัดเจน โดยใช้ระเบิดที่ดัดแปลงมาจากระเบิดบอลไล่นกประมาณ 40 ลูกและต้องตรวจสอบต่อไปว่าผู้ใดเป็นคนวางเพลิง แต่อีกครั้งหนึ่งยังไม่พบว่าเป็นการวางเพลิงแต่ก็ต้องตรวจสอบต่อไป โดยการเกิดเพลิงไหม้ทั้ง 3 ครั้งนั้นอยู่ระหว่างขยายผลถึงสาเหตุ และตั้งข้อสงสัยว่าการเกิดเพลิงไหม้ดังกล่าวเป็นการทำลายหลักฐานที่เป็นวัตถุพยานที่มีอยู่หรือไม่

Advertisement

ผู้ช่วย ผบ.ตร.กล่าวว่า เชิญ นายจุลพงษ์ ทวีศรี อธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรม มาเข้าร่วมประชุมติดตามคดีดังกล่าวด้วย เนื่องจากทางกรมโรงงานติดตามคดีดังกล่าวมาโดยตลอด และให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี จากการสืบสวนพบว่าบริษัทดังกล่าวมีการปลอมแปลงเอกสารรวมทั้งตราประทับในทุกๆ ขั้นตอน ซึ่งจะมีการมอบหมายให้สำนักงานพิสูจน์หลักฐานตำรวจ (สพฐ.ตร.) ไปดำเนินการตรวจสอบในพยานหลักฐานเพิ่มเติม อีกทั้งยังมอบนโยบายว่า “ผู้ที่เกี่ยวข้องในการกระทำผิดทั้งหมดต้องได้รับโทษทั้งหมด”

ผู้สื่อข่าวถามว่าขณะนี้มีการออกหมายจับไปแล้วกี่หมาย พล.ต.ท.ธัชชัยกล่าวว่ามี 2 หมายจับ แต่มีผู้เกี่ยวข้องมากกว่า 10 คน คาดว่าจะมีการแจ้งข้อกล่าวหาจำนวนมาก เช่น การขนส่งที่ไม่ได้รับอนุญาตมากกว่า 100 ครั้ง จากการสืบสวนทราบว่าโรงงานทั้ง 5 แห่งที่พบวัตถุอันตรายเป็นเจ้าของเดียวกันทั้งหมด แต่มีผู้ร่วมขบวนการหลายคน ทำหน้าที่ต่างๆ โดย 1 ใน 5 โรงงานมีการจดใบอนุญาตอย่างถูกต้อง และโรงงานที่เปิดถูกต้องทำหน้าที่เป็นเหมือนนอมินีกระจายวัตถุอันตรายไปให้โรงงานอื่นๆ พบว่ามีการเปลี่ยนตัวกรรมการผู้จัดการหลายครั้งเพื่อหลบเลี่ยงการตรวจสอบ ขณะนี้กำลังพิจารณาข้อกล่าวหาที่จะนำไปสู่มูลฐานการฟอกเงินต่อไป

ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจพบโครงสร้างการทำงานขององค์กรที่โรงงานใน อ.บ้านค่าย ซึ่งเขียนไว้อย่างชัดเจนว่า “ให้มีการเปลี่ยนแปลงหัวชื่อเอกสารในบริษัทเพื่อให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเกิดความสับสน”

Advertisement

ส่วนจะมีเจ้าหน้าที่รัฐเข้ามาเกี่ยวข้องหรือไม่ พล.ต.ท.ธัชชัยกล่าวว่า ขณะนี้อยู่ในระหว่างการตรวจสอบ แต่เชื่อว่ามีเจ้าหน้าที่รัฐมีส่วนเกี่ยวข้องอย่างแน่นอน ทั้งนี้ มีการแต่งตั้งคณะกรรมการสืบสวนสอบสวน โดยสั่งการให้ทาง พล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผบก.ปปป.เข้าร่วมด้วย

โดยทางเจ้าหน้าที่ตั้งเป้าไว้ว่าการเกิดเหตุเพลิงไหม้ทั้ง 3 จุด หากตรวจสอบแล้วพบว่าเป็นการวางเพลิงจริงคาดว่ามาจากขบวนการเดียวกัน ทั้งนี้ ต้องรอผลตรวจวัตถุเคมีอีกครั้ง เพื่อให้ทราบว่าวัตถุเคมีดังกล่าวทำให้เกิดเพลิงไหม้ด้วยตัวเองได้หรือไม่ ถ้าหากไม่สามารถเกิดเพลิงไหม้ได้ด้วยตัวเองจะมีอะไรที่ทำให้เกิดเพลิงไหม้ได้บ้าง

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image