ประชุมชุดสืบสวนนครบาล ไล่ล่าแก๊งวัยุร่นล่อวางแผนลอบยิงอริดับ พบคนก่อเหตุ 23 คน

วันที่ 1 กรกฎาคม 2567 - 21:53 น.

รองนพศิลป์ ประชุมชุดสืบสวนนครบาล ไล่ล่าแก๊งวัยุร่นล่อวางแผนลอบยิงอริดับ พบคนก่อเหตุ 23 คนใช้รถ จยย. 12 คัน พบประวัติทะเลาะกันมาก่อน 4 ครั้ง

เมื่อเวลา 18.00 น. วันที่ 1 กรกฎาคม ที่สน.บางนา ตำรวจเข้าร่วมประชุมติดตามความคืบหน้าคดีคนร้ายขับขี่รถจักรยานยนต์(จยย.)สวมหมวกนิรภัยแต่งกายมิดชิดขับรวมกลุ่มจอดรถอยู่กลางสามแยกไฟแดงลาซาลตัดแบริ่ง ถนนลาซาล แขวงบางนาใต้ เขตบางนา กทม. ซึ่งอยู่ใกล้กับร้านอาหารในพื้นที่รับผิดชอบ สภ.สำโรงเหนือ จ.สมุทรปราการ

จากนั้นคนร้ายในกลุ่ม 2 คน ใช้อาวุธปืนคนละกระบอกยิงใส่รถยนต์เอนกประสงค์ สีดำ กรุงเทพมหานคร ประมาณ 10 นัด ซึ่งมีนายวรเชษฐ์ หรือเฮิรท์ เขียวขำ อายุ 37 ปี เป็นคนขับ ทำให้กระสุนปืนถูก นายเจษฎา วิริยะ อายุ 39 ปี คนนั่งเบาะคู่หน้าเข้าที่บริเวณศีรษะ 1 นัด ได้รับบาดเจ็บสาหัส ก่อนไปเสียชีวิตที่ รพ.สำโรงการแพทย์ เหตุเกิดเมื่อเวลา 02.20 น. วันที่ 29 มิ.ย. ที่ผ่านมา ภายหลังใช้เวลาประชุมติดตามคดีกว่า 2 ชั่วโมง

พล.ต.ต.นพศิลป์ กล่าวว่า พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. สั่งการให้ชุดสืบสวนเร่งรัดติดตามจับกุมคนร้ายผู้ก่อเหตุ จากการสืบสวนทราบว่ากลุ่มผู้เสียเสียชีวิต 7 คนไปนั่งรับประทานอาหารกันที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งในพื้นที่ สภ.สำโรงเหนือ ตั้งแต่ช่วงเวลา 22.30 น.ของวันที่ 28 มิ.ย.ต่อเนื่องถึงเวลา01.00 น.วันที่ 29 มิ.ย.

โดยผู้ก่อเหตุมีการวางแผน รวมกลุ่มขับขี่รถ จยย. มากันทั้งหมด 12 คัน รวมคนร้าย 23 คน มี 11 คันซ้อน 2 กันมา ขับขี่ และมี 1 คันขับเดี่ยวมาคนเดียว ซึ่งกลุ่มคนร้ายที่ยั่วยุเป็นคู่อริกับนายวรเชษฐ์ ผู้ขับขี่รถยนต์ฟอร์จูนเนอร์ ที่นั่งโดยผู้ก่อเหตุขับรถ จยย.วน 4 รอบเพื่อยั่วยุทางกลุ่มผู้เสียชีวิต จนทนไม่ไหวลุกออกจากร้าน

จากการตรวจสอบประวัติพบว่ากลุ่มผู้ก่อเหตุและผู้เสียเคยทะเลาะวิวาทกันมาแล้ว 4 ครั้ง ล่าสุดเมื่อเมษายน ปี 2567 ชกต่อยกันและไปแจ้งความที่ สภ.สำโรงเหนือ จนมาครั้งนี้ เป็นครั้งที่ 5 หลังจากยั่วยุกัน ฝ่ายผู้เสียชีวิตได้ไปขึ้นรถยนต์ฟอร์จูนเนอร์พร้อมกับผู้ตาย

จากนั้นขับขี่รถยนต์ไล่กวดรถ จยย. คันที่ยั่วยุ จากแนวทางการสืบสวนทราบว่ากลุ่มคนร้ายวางแผนรวมตัวกันขับขี่รถ จยย.ทั้ง 12 คันขับออกจากซอยแบริ่ง 48 แล้วแยกกลุ่ม 4 คันไปอีกเส้นทางหนึ่ง และอีก 3 คันไปอีกเส้นทางหนึ่ง ก่อนไปจอดรถรอ เมื่อรถที่ผู้เสียชีวิตขับออกจากร้านอาหาร

จากนั้น รถจยย. กลุ่มคนร้าย รวม 6 คันขับรถตามผู้ตายไป เพื่อวางแผนหลอกล่อให้กลุ่มผู้เสียชีวิตขับตามไป และผู้ก่อเหตุกับเพื่อนจะขับประกบตามไปยิง ซึ่งขณะที่ผู้เสียชีวิตนั่งมา กลุ่มคนร้ายขับรถจยย.ตามล่อเป้าไปจนถึง สามแยกไฟแดง และวนกลับมา ทำให้รถ จยย. 6 คันที่ตามมา จอดรถและใช้อาวุธปืนยิงใส่รถผู้เสียหาย บริเวณดังกล่าวพบปลอกกระสุน 2 ปลอกเศษกระสุน 1 นัด

พล.ต.ต.นพศิลป์ กล่าวอีกว่า หลังเกิดเหตุผู้เสียหายขับรถปีนเกาะถนน และวิ่งย้อนศร กลับไปร้านอาหารเพื่อไปรับแฟนและบอกว่ามีคนโดนยิง จากนั้นฝั่งผู้ก่อเหตุกลับมายิงซ้ำครั้งที่ 2 ซึ่งปลอกกระสุน 2 ปลอก เศษหัวกระสุน 2 นัด ส่วนจุดที่ 3 อีกกลุ่มที่จอดรออยู่หลังร้านอาหาร ยิงซ้ำอีก

จากนั้นผู้เสียหายไปส่งเพื่อนที่ รพ. กระทั่งไปเสียชีวิต ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าวถือว่าคนร้ายก่อเหตุอย่างอุกอาจ โดยไม่เกรงกลัวต่อกฎหมาย ดีที่ไม่มีประชาชนถูกลูกหลงไปด้วย ประกอบกับจุดเกิดเหตุเป็นช่วงเวลากลางคืนคนน้อย และการจราจรโล่ง ซึ่งกลุ่มดังกล่าวเป็นวัยรุ่นในพื้นที่ สภ.สำโรงเหนือ

พล.ต.ต.นพศิลป์ กล่าวอีกว่า สิ่งที่กำชับกับชุดสืบสวนวันนี้จะมีการสืบสวนติดตามจับกุมทั้งกลุ่มแก๊งนี้ด้วย โดยวันนี้มีการออกหมายจับไว้บางรายแล้ว ทั้งนี้ไม่อยากให้เป็นเยี่ยงอย่างกับกลุ่มวัยรุ่นในการทะเลาะวิวาทและใช้อาวุธปืนแก้ปัญหาก่อความเดือดร้อน ในเขตกรุงเทพ ฯ โดยเบื้องต้นมีการประสานงานกับตำรวจภูธรภาค 1 และ สภ.สำโรงเหนือ ระดมกำลังฝ่ายสืบสวนดำเนินการจับกุมอย่างเคร่งครัดต่อไป

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าขณะที่เมื่อเวลา 16.50 น.ที่ผ่านมา นายวรเชษฐ์ คนขับรถฟอร์จูนเนอร์ และเป็นเพื่อนผู้เสียชีวิต ถูกเชิญตัวเข้ามาพบพนักงานสอบสวน เพื่อให้ปากคำเพิ่มเติม