แพทย์ชี้ วัคซีนไข้หวัดใหญ่ ฉีดได้ถึงอายุ 100 ปี เซฟมาแล้ว 152 ล้านชีวิต สกัดโรคง่ายๆ ไม่ให้ร้ายแรง

แพทย์ชี้ วัคซีนไข้หวัดใหญ่ ฉีดได้ถึงอายุ 100 ปี เซฟมาแล้ว 152 ล้านชีวิต สกัดโรคง่ายๆ ไม่ให้ร้ายแรง

เมื่อวันที่ 27 มิถุนายน ที่สามย่านมิตรทาวน์ฮอลล์ ชั้น 5 สามย่านมิตรทาวน์ เครือมติชน ร่วมกับองค์กรและหน่วยงานพันธมิตรสุขภาพทั้งภาครัฐและเอกชนจัดงาน Thailand Healthcare 2024 ‘เกษียณสโมสร’
จัดเต็ม 6 โซนเด่น 4 ไฮไลต์เพื่อสุขภาพ เพื่อฉลองครบรอบปีที่ 16 งานแฟร์สุขภาพอันดับ 1 ของประเทศ ระหว่างวันที่ 27-30 มิถุนายนนี้ โดยวันนี้เป็นวันแรก

ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศทั่วไป มีผู้เข้าร่วมงานอย่างคับคั่ง กระทั่งเมื่อเวลา 15.00 น. เข้าสู่กิจกรรม Health Talk หัวข้อ ‘โรคติดเชื้อที่พบบ่อยในครอบครัว และการปกป้องครอบครัวด้วยวัคซีน’ โดย สถาบันวัคซีนแห่งชาติ

รศ.พิเศษ นพ.ทวี โชติพิทยสุนนท์ ผู้ทรงคุณวุฒิ สถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติมหาราชินี กล่าวว่า เชื้อไข้หวัดใหญ่ไม่ได้มากับฝน แต่เมื่อเวลาฝนตกคนเราไปไหนไม่ได้ก็อยู่กันแบบแออัด จึงถ่ายเชื่อให้กัน อย่างต่อมาช่วงหน้าฝนส่วนมากจะตรงกับช่วงเปิดเทอมของเด็กนักเรียน ซึ่งเด็กจะเป็นสื่อในการแพร่เชื้อที่ดีสุด เพราะอยู่รวมกันพอฝนตกไม่ได้ออกไปเล่นก็อยู่รวมกันเกิดการแพร่เชื้อใส่กันจนนำกลับไปสู่ที่บ้าน

Advertisement

“ไข้หวัดใหญ่มีมาเป็น 100 ปี แล้วแต่วัคซีนสร้างมาประมาณ 80 ปี มีความปลอดภัยมากขนาดที่ในยุโรปและอเมริกา สามารถใช้ระบบแบบ drive thru ขับรถไปฉีดได้ ฉะนั้นเรื่องความปลอดภัยไม่ต้องห่วง ฉะนั้นไข้หวัดใหญ่เป็นโรคที่ศึกษามาแล้วว่ากลุ่มที่ฉีดวัคซีนจะได้ประโยชน์” รศ.พิเศษ นพ.ทวีกล่าว

รศ.พิเศษ นพ.ทวี โชติพิทยสุนนท์ ผู้ทรงคุณวุฒิ สถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติมหาราชินี

รศ.พิเศษ นพ.ทวีกล่าวต่อไปว่า กลุ่มที่ได้ประโยชน์หลักๆ คือ กลุ่มเด็กเล็กๆ ซึ่งเป็นแล้วจะไม่รุนแรงแต่เป็นกันเยอะ และอีกกลุ่มคือผู้สูงอายุหากติดเชื้อไข้หวัดใหญ่แล้วอาจจะถึงขั้นเสียชีวิตได้ เพราะมนุษย์เรานั้น ธรรมชาติสร้างมาให้มีอายุขัยประมาณ 50-60 ปี หลังจาก 60 ปี จะเสื่อมลงทุกอย่าง ฉะนั้นเชื้อโรคจะมาปราบเป็นตัวสุดท้าย ซึ่งไข้หวัดใหญ่เป็นเรื่องที่เราเจอบ่อยและมีจนถึงเสียชีวิต โดยเฉพาะผู้สูงอายุ

“การฉีดวัคซีนเป็นเรื่องที่คุ้มค่าที่สุด และต้องพยายามฉีดทุกปีเพราะเชื้อมีการกลายพันธุ์เพื่อให้อยู่รอดทุกปีไม่อย่างนั้นมันก็สูญพันธุ์ สำหรับวัคซีนฉีดได้ตั้งแต่อายุ 6 เดือน จนถึง 100 ปี แต่ในผู้สูงอายุจะไม่ตอบสนองต่อวัคซีนเท่าหนุ่มสาว จริงๆ แล้วธรรมชาติพยายามที่จะให้เราไปได้แล้ว แต่เราฉีดวัคซีนป้องกันโรคที่มองว่าง่ายๆ ไม่ให้มันกลายเป็นโรคร้ายแรง” รศ.พิเศษ นพ.ทวีกล่าว

Advertisement

รศ.พิเศษ นพ.ทวีกล่าวว่า ส่วนการฉีดวัคซีน RSV ว่ามีประโยชน์อย่างไรบ้างนั้น เมื่อ 30 ปีที่แล้วมีการศึกษาโรค RSV ในเด็กและได้มีการผลิตวัคซีนปรากฏว่าคนที่ฉีดวัคซีนชนิดนี้เมื่อประมาณ 20 ปีที่แล้วไปและเกิดติดโรคนี้มันส่งผลให้รุนแรงขึ้นจนถึงขั้นเสียชีวิตจนต้องล้มเลิกไป แต่ในตอนนี้มีการสร้างวัคซีนชนิดนี้ขึ้นมาใหม่แล้วและพัฒนาจนมีวัคซีน RSV ในผู้สูงอายุได้ ซึ่งจะลดความรุนแรงของโรคหากติดโรคนี้ แต่ในกลุ่มของเด็กยังพัฒนาไม่สำเร็จในอนาคตคงจะสำเร็จ เมื่อยังไม่สำเร็จจึงใช้วิธีฉีดวัคซีน RSV ในแม่ที่กำลังตั้งครรภ์เพื่อให้ภูมิคุ้มกันส่งต่อสู่ลูก อีกวิธีคือสร้างภูมิคุ้มกันสำเร็จรูปและจะฉีดให้เด็กตั้งแต่ 6 เดือนแรก

รศ.พิเศษ นพ.ทวีกล่าวว่า นิวโมคอกคัสเป็นเชื้อแบคทีเรียที่เกาะอยู่ที่คอ หากเราเกิดเป็นไข้หวัดมันจะทำให้ทางเดินหายใจของเราขรุขระ แบคทีเรียที่เกาะอยู่ที่คอมันก็จะไต่ไปที่ปอด ที่เลือด ที่หู ส่งผลให้เกิดอาการอักเสบตามจุดต่างๆ ซึ่งปัจจุบันมีวัคซีนที่ทำให้เชื้อตัวนี้เกาะน้อยลง และเสริมภูมิคุ้มกันในเลือดเวลาเชื้อตัวนี้มันเข้าไปอยู่ในเลือดภูมิคุ้มกันก็จะจัดการได้

“สิ่งสำคัญคือเด็กที่เพิ่งคลอดออกมายังสะอาดปราศจากเชื้อแต่จะได้รับเชื้อจากคนรอบข้าง ฉะนั้นวัคซีนตัวนี้สร้างเพื่อใช้กับเด็กเล็กตั้งแต่ 2 เดือน ซึ่งเราจะเรียกวัคซีนตัวนี้ว่าไอพีดีวัคซีนเวลาใช้ในเด็กเล็กเพราะเชื้อมันจะเข้าสู่เลือดของเด็ก แต่ในผู้ใหญ่หรือผู้สูงอายุเป็นวัคซีนป้องกันโรคปอดอักเสบ เพราะเชื้อตัวนี้มักจะไต่ลงปอดทำให้เกิดอาการปอดอักเสบ แต่เป็นวัคซีนตัวเดียวกัน” รศ.พิเศษ นพ.ทวีกล่าว

รศ.พิเศษ นพ.ทวีกล่าวต่อไปว่า สำหรับกลุ่มเสี่ยงของโรคนี้ เกิดมาถือเป็นกลุ่มเสี่ยงแล้ว ยิ่งอายุมากก็ยิ่งเสี่ยง ซึ่งเป็นธรรมชาติของมนุษย์ที่เริ่มแก่แล้วทุกอย่างจะเสื่อมไปตามวัยแต่ด้วยการแพทย์ที่เจริญก้าวหน้าเราเลยมีอายุยืนมาจนถึงทุกวันนี้ ฉะนั้นในอนาคตไม่ว่าจะสู้กับโรคอะไรก็ตามจะพุ่งเป้าไปที่ผู้สูงอายุ

“วัคซีนเป็นสิ่งที่ทำให้เราแข็งแรง รุ่นพวกผมมีแต่ธรรมชาติฉีดให้ คือเราต้องติดโรคก่อนและไปเสี่ยงตาย ปัจจุบันวัคซีนต่างๆ เพิ่งจะมีมาประมาณ 40-50 ปี ซึ่งทั่วโลกวัคซีนช่วยเซฟมาแล้ว 152 ล้านชีวิต ฉะนั้นการฉีดวัคซีนมีประโยชน์ แต่ถามว่าฉีดวัคซีนมีผลข้างเคียงไหม มีอยู่แล้ว แต่ผลข้างเคียงเราจะทำให้มันใกล้เคียงกับการฉีดน้ำเกลือมากที่สุด ซึ่งกว่าจะเป็นวัคซีนที่เข้าสู่ร่างกายเรามันมีหลายขั้นตอน ขอให้มั่นใจว่าการฉีดวัคซีนจะได้ประโยชน์มากกว่าผลข้างเคียงที่ได้รับ” รศ.พิเศษ นพ.ทวีกล่าว

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image