เมื่อวันที่ 9 กรกฎาคม นพ.สุพรรณ ศรีธรรมมา ประธานคณะทำงานเกี่ยวกับตาต้อกระจก สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) กล่าวว่า สถานการณ์ปัจจุบันสำหรับผู้ป่วยตาต้อกระจกถือเป็นปัญหาเรื้อรังของประเทศมานาน โดยขณะนี้ยังมีประชาชนที่ตาบอดจากตาต้อกระจกจำนวนไม่น้อย โดยเฉพาะกลุ่มผู้สูงวัยที่มีปัจจัยเสี่ยงอย่างมาก อย่างไรก็ตาม มติของ สปสช.ที่ร่วมดำเนินการกับกระทรวงสาธารณสุข เห็นตรงกันคือต้องเกิดเป้าหมายเข้าไปช่วยเหลือผู้ที่ตาบอด หรือมองเห็นไม่ชัดจากตาต้อกระจก ให้ได้รับการผ่าตัดเพื่อให้กลับมามองเห็นได้อย่างเดิม ซึ่งเป้าหมายสูงสุดคือภายในปี 2563 จะต้องไม่มีผู้ป่วยตาบอดจากตาต้อกระจกในประเทศไทยอีกต่อไป เพื่อเพิ่มคุณภาพในการใช้ชีวิตของประชาชน
นพ.สุพรรณ กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ ยังได้มีการกำหนดโควต้าการผ่าตัดในปี 2561 โดย สปสช.สามารถผ่าตัดตาต้อกระจกทั้งสำหรับผู้ที่ตาบอดและมองเห็นไม่ชัดเจนในจำนวน 120,000 ดวงตา ซึ่งจะกระจายโควต้าไปยังเขตบริการสุขภาพทุกแห่งทั่วประเทศ ตามผลสำรวจประชากรที่ต้องได้รับการผ่าตัดตามสิทธิประโยชน์ ทั้งนี้ได้แบ่งเป็นการผ่าตัด 100,000 ดวงตาให้กับเขตบริการสุขภาพทั่วประเทศ ขณะที่อีก 20,000 ดวงตาจะกันเอาไว้ในส่วนกลาง เพื่อเป็นโควต้าสำรองให้กับผู้ป่วยแต่ละเขตบริการสุขภาพที่ต้องการผ่าตัดเพิ่มเติม ในส่วนของโรงพยาบาลที่ผ่าตัดตาต้อกระจกนั้น สปสช.จะมีอัตราเหมาจ่ายค่าผ่าตัดให้ตั้งแต่ 5,000-9,000บาท ซึ่งความแตกต่างจะขึ้นอยู่กับความซับซ้อนของการผ่าตัด