อนามัยโลกชูมาตรการป้องกัน “จมน้ำ” ของไทย เน้นใช้กลยุทธ์ “ทีมผู้ก่อการดี”

วันที่ 30 กรกฎาคม ที่โรงแรมเอทัส ลุมพินี กรุงเทพมหานคร นพ.สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) เป็นประธานเปิดการประชุมการป้องกันการจมน้ำในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (South – East Asia Regional Meeting on Drowning Prevention ) จัดขึ้นระหว่างวันที่ 30-31 กรกฎาคม 2562 โดยมี ทพ.สุปรีดา อดุลยานนท์ ผู้จัดการกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) น.ส.เก็มม่า เมย์ ผู้แทนองค์กร Royal National LifeBoat Institution (RNLI) ประเทศอังกฤษ และนพ.ทักษพล ธรรมรังสี ผู้แทนองค์การอนามัยโลกประจำภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เข้าร่วม

นพ.สุวรรณชัย กล่าวว่า การจมน้ำเป็นปัญหาสาธารณสุขที่สำคัญทั่วโลก ซึ่งในแต่ละปีมีผู้เสียชีวิตจากการจมน้ำประมาณ 360,000 คน เฉลี่ยชั่วโมงละ 40 คน มากกว่าร้อยละ 90 ของการจมน้ำเกิดขึ้นในประเทศที่มีรายได้ต่ำและปานกลาง ซึ่งมีอัตราการเสียชีวิตสูงกว่าประเทศที่มีรายได้สูง 3 เท่า ซึ่งการเสียชีวิตจากการจมน้ำของโลกมากกว่าครึ่งหนึ่งเกิดขึ้นในเอเชีย อัตราการเสียชีวิตจากการจมน้ำของประเทศในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ส่วนใหญ่สูงกว่าเกณฑ์มาตรฐานทั่วโลก

Advertisement

“สำหรับประเทศไทย การจมน้ำยังเป็นปัญหาสาธารณสุข ที่ส่งผลต่อการมีคุณภาพชีวิตที่ดีของคนไทย เพราะเป็นสาเหตุสำคัญของการเสียชีวิตก่อนวัยอันควร เนื่องจากการจมน้ำเป็นสาเหตุการเสียชีวิตอันดับหนึ่งของเด็กไทยอายุต่ำกว่า 15 ปี และอัตราการเสียชีวิตสูงกว่าทุกกลุ่มอายุถึง 2 เท่า โดยก่อนเริ่มดำเนินมาตรการป้องกันการจมน้ำ หรือก่อนปี 2549 มีเด็กจมน้ำเสียชีวิตเฉลี่ยปีละ 1,500 ราย โดยหลังมีนโยบายที่ให้ความสำคัญกับการจมน้ำและเครือข่ายทั้งภาครัฐ เอกชน และจิตอาสา ร่วมกันดำเนินการในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา พบว่าการเสียชีวิตจากการจมน้ำของเด็กค่อยๆ ลดลงอย่างต่อเนื่อง เมื่อเปรียบเทียบกับก่อนดำเนินการลดลงถึงร้อยละ 50 โดยในปี 2561 พบเด็กจมน้ำเสียชีวิต 681 ราย” นพ.สุวรรณชัย กล่าว

อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวอีกว่า ประเทศไทยได้กำหนดให้แผนการป้องกันการจมน้ำบูรณาการอยู่ในแผนของแต่ละกระทรวงตามบทบาทพันธกิจที่กำหนด เช่น แผนฉุกเฉินอุบัติเหตุทางน้ำ แผนการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ แผนนโยบายโลกที่เหมาะสมสำหรับเด็ก และแผนยุทธศาสตร์ชาติ (ด้านสาธารณสุข) ระยะ 20 ปี ซึ่งกลยุทธ์การสร้างทีมผู้ก่อการดี (MERIT MAKER) เป็นมาตรการหลักที่อยู่ในแผนยุทธศาสตร์ชาติดังกล่าว โดยทีมผู้ก่อการดี (MERIT MAKER) ต้องดำเนินการใน 10 องค์ประกอบ ซึ่งแต่ละองค์ประกอบคือ มาตรการที่สำคัญของการป้องกันการจมน้ำที่ครอบคลุมปัจจัยเสี่ยงทั้งทางด้านตัวบุคคลและสิ่งแวดล้อม โดยผลการดำเนินงานของทีมผู้ก่อการดี (MERIT MAKER) ป้องกันการจมน้ำ ระยะเวลา 4 ปี (ปี 2558–2561) พบว่ามีทีมผู้ก่อการดี 3,484 ทีม ครอบคลุม 688 อำเภอ ใน 77 จังหวัด สำหรับ Good Practice กรมควบคุมโรคได้คัดเลือก 4 พื้นที่ ที่ดำเนินงานผู้ก่อการดีมาแสดงผลงาน ได้แก่ ทีมผู้ก่อการดีปรางค์กู่ จ.ศรีสะเกษ ทีมผู้ก่อการดีบ้านจารย์ จ.สุรินทร์ โรงเรียนวัฒนพฤกษา จ.นนทบุรี และทีมมูลนิธิพุทธธรรม (ฮุก 31) จ.นครราชสีมา

Advertisement

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การประชุมครั้งนี้ ประกอบด้วย ผู้บริหารระดับสูงของประเทศเครือข่ายสมาชิกขององค์การอนามัยโลกในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และแปซิฟิกตะวันตก 16 ประเทศ เข้าร่วมประชุมประเทศละ 3 คน ได้แก่ ผู้กำหนดนโยบายระดับสูงด้านการบริหารจัดการและการจัดการโครงการระดับประเทศด้านการป้องกันการจมน้ำ ผู้จัดการโครงการระดับประเทศ/ผู้อำนวยการ และผู้ประสานงานด้านข้อมูลของประเทศ นอกจากนี้ ยังมีผู้เชี่ยวชาญด้านการป้องกันการจมน้ำในระดับโลก รวมทั้งผู้แทนจากองค์การอนามัยโลก สำนักงานใหญ่ เจนีวา ผู้แทนองค์การอนามัยโลกประจำภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ แปซิฟิกตะวันตกและประเทศไทย และองค์กร Royal Life Saving ประเทศออสเตรเลีย เข้าร่วมทั้งสิ้น 100 คน

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image