กพร.ผนึกกรมพินิจและคุ้มครองเด็กฯ อัพสกิลเยาวชน นำร่อง 7 จังหวัด

วันที่ 4 มิถุนายน 2567 - 16:47 น.

กพร.ผนึกกรมพินิจและคุ้มครองเด็กฯ อัพสกิลเยาวชน นำร่อง 7 จังหวัด

เมื่อวันที่ 4 มิถุนายน กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน (กพร.) กระทรวงแรงงาน และกรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน กระทรวงยุติธรรม (ยธ.) ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (เอ็มโอยู) ว่าด้วยการพัฒนาฝีมือแรงงานให้แก่เด็กและเยาวชน มี น.ส.บุปผา เรืองสุด อธิบดี กพร. และ พ.ต.ท.ประวุธ วงศ์สีนิล อธิบดีกรมพินิจและคุ้มครองเด็กฯ เป็นผู้ลงนาม นางจิรวรรณ สุตสุนทร รองอธิบดี กพร. นางนลินนาถ ไกรนรา รองอธิบดีกรมพินิจและคุ้มครองเด็กฯ เป็นพยาน นางจิรภา สินธุนาวา รองปลัด ยธ. ร่วมเป็นเกียรติในพิธี ณ กรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน ชั้น 7 กระทรวงยุติธรรม

น.ส.บุปผา กล่าวว่า กพร. และกรมพินิจและคุ้มครองเด็กฯ ได้ลงนามเอ็มโอยูพัฒนาฝีมือแรงงานให้แก่เด็กและเยาวชน ซึ่งเป็นไปตามนโยบายของ นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ในการส่งเสริมให้แรงงานมีทักษะดี มีงานทำ สำหรับเป้าหมายในการบูรณาการภารกิจร่วมกันครั้งนี้ มีทั้งการจัดฝึกอบรมให้แก่เจ้าหน้าที่ฝึกวิชาชีพของกรมพินิจและคุ้มครองเด็กฯ เพื่อเป็นวิทยากรต้นแบบ ส่งเสริมการจัดตั้งศูนย์ทดสอบมาตรฐานฝีมือแรงงานแห่งชาติ และจัดฝึกอบรมแก่เด็กและเยาวชนที่อยู่ในความดูแลของกรมพินิจ เพื่อให้เด็กกลุ่มนี้มีความรู้ ความสามารถ และมีทักษะฝีมือในวิชาชีพ ช่วยเพิ่มโอกาสในการประกอบอาชีพหลังจากการปล่อยตัวแล้ว เป็นการยกระดับคุณภาพชีวิตที่ดี มีรายได้เลี้ยงตนเองและครอบครัว และสามารถพึ่งตนเองได้ โดยในปี 2567 มีหน่วยงานฝึกอบรมนำร่อง 7 จังหวัด ได้แก่ อุบลราชธานี นครสวรรค์ สุราษฎร์ธานี นครปฐม จันทบุรี พังงา และสุรินทร์ หลักสูตรที่ดำเนินการ อาทิ การเชื่อมไฟฟ้า ช่างซ่อมบำรุงเครื่องยนต์เล็ก ช่างปูกระเบื้อง การตัดเย็บเสื้อผ้า การเดินสายไฟฟ้าภายในอาคาร บาริสต้ามืออาชีพ เป็นต้น จำนวนทั้งสิ้น 296 คน

ด้าน พ.ต.ท.ประวุธ กล่าวว่า เด็กและเยาวชนถือเป็นทรัพยากรที่สำคัญ การพัฒนาเด็กและเยาวชนจึงถือเป็นงานหลักที่ทุกหน่วยงาน ไม่ว่าจะเป็นหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน หรือภาคประชาสังคมต่างให้ความสำคัญ ส่งเสริมให้เด็กและเยาวชนมีทักษะชีวิตที่ดี ทักษะอาชีพที่เหมาะสม ได้รับโอกาสในการเข้าถึงการมีงานทำและช่วยส่งเสริมให้เด็กและเยาวชนสามารถกลับคืนสู่สังคมได้อย่างภาคภูมิและดำรงชีวิตได้อย่างปกติสุขโดยไม่หวนกลับมากระทำผิดซ้ำ ทักษะที่ได้รับการพัฒนาจะช่วยให้เยาวชนไปประกอบอาชีพต่อไปได้