สปสช.-กอช.จับมือส่งเสริมการออม ดัน ‘แรงงานนอกระบบ’ กว่า 10 ล.มีบำนาญใช้ยามเกษียณ

สปสช.-กอช.จับมือส่งเสริมการออม ดัน ‘แรงงานนอกระบบ’ กว่า 10 ล.มีบำนาญใช้ยามเกษียณ

เมื่อวันที่ 27 มิถุนายน นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง เป็นประธานในพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) ระหว่างสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) กับ กองทุนการออมแห่งชาติ (กอช.) ที่ห้องประชุมวายุภักษ์ ชั้น 4 อาคารสำนักงานปลัดกระทรวงการคลัง

นายเผ่าภูมิ กล่าวว่า รัฐบาลให้ความสำคัญกับการออมเพื่อการเกษียณ และกำหนดเป็นวาระแห่งชาติ โดยบรรจุไว้ในแผนยุทธศาสตร์ชาติ 20ปี (พ.ศ.2561-2580) เพื่อกระตุ้นให้ประชาชนเห็นถึงความสำคัญของ
การเก็บออมในระยะยาว เนื่องจากในปี 2567 ประเทศไทยเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุอย่างเต็มรูปแบบ และพบว่า สถานะคุณภาพชีวิตของผู้สูงอายุ ไม่อาจสะท้อนความเป็นอยู่ที่ดีได้ ขาดการเตรียมความพร้อมและเงินออมในการดำเนินชีวิต เพราะอาศัยเพียงแค่สิทธิ สวัสดิการ และเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุที่รัฐมอบให้ ก็ไม่สามารถยกระดับคุณภาพชีวิตและความเป็นอยู่ที่ดีได้ ถือเป็นความท้าทายที่ต้องเร่งรับมือ เพื่อไม่ให้ส่งผลกระทบต่อเสถียรภาพทางเศรษฐกิจและสังคมของประเทศ

Advertisement

“ดังนั้น การพัฒนาทักษะการเงิน จึงเป็นแนวทางสำคัญที่ช่วยให้เข้าถึงแหล่งข้อมูลทางการเงินที่น่าเชื่อถือได้ และยังแก้ปัญหาดังกล่าวได้อย่างยั่งยืน กอช. ได้มุ่งสร้างความตระหนักรู้ พร้อมส่งเสริมวินัยการออมที่ดีให้กับประชาชน เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตให้กับกลุ่มแรงงานนอกระบบเมื่อเข้าสู่วัยเกษียณ สามารถมีบำนาญใช้เหมือนข้าราชการ และแรงงานในระบบ จากเงินออมสะสมของตนเองส่วนหนึ่ง ถือว่าเป็นปัจจัยสำคัญในการสร้างรากฐานประเทศที่มั่นคง” นายเผ่าภูมิ กล่าว

ด้าน น.ส.จารุลักษณ์ เรืองสุวรรณ เลขาธิการคณะกรรมการกองทุนการออมแห่งชาติ กล่าวว่า การมีสุขภาพที่แข็งแรง ปราศจากโรค คือสิ่งที่ทุกคนปรารถนา เช่นเดียวกับการดูแลสุขภาพการเงิน ซึ่งสำคัญไม่แพ้กัน เพราะการมีทักษะทางการเงิน จะทำให้วางแผนอนาคตทางการเงินได้อย่างมีประสิทธิภาพ ประเทศไทยจำเป็นต้องมีระบบการออมที่เข้มแข็ง เพื่อเสริมสร้างเศรษฐกิจฐานรากของประเทศ ดังนั้น กอช.จึงมุ่งมั่นขับเคลื่อนการดำเนินงานตามแผนยุทธศาสตร์ เพื่อให้บรรลุเป้าหมายในการสร้างฐานการออม โดยเฉพาะกลุ่มแรงงานนอกระบบ หรือผู้ประกอบอาชีพอิสระ ที่อยู่นอกระบบบำเหน็จบำนาญของรัฐ ให้ได้รับผลประโยชน์ในรูปแบบบำนาญ โดยประชาชนที่มีอายุ 15-60 ปี สามารถออมเงิน ขั้นต่ำตั้งแต่ 50 บาท สูงสุดถึง 30,000 บาทต่อปี และยังได้รับการสมทบจากรัฐสูงถึง 100%

“การร่วมมือกับ สปสช. เพื่อสนับสนุน ส่งเสริมให้ประชาชน ที่ยังไม่ได้รับสวัสดิการด้านบำนาญ ได้มีเงินใช้ดำรงชีพยามเกษียณ และเข้าถึงระบบการรักษาพยาบาลที่มีประสิทธิภาพ” น.ส.จารุลักษณ์ กล่าว

Advertisement

ด้าน นพ.จเด็จ ธรรมธัชอารี เลขาธิการ สปสช. กล่าวว่า การมีหลักประกันที่มั่นคงให้กับชีวิต ถือเป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งเสริมคุณภาพชีวิตที่ดี ซึ่งการพัฒนาระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ หรือ บัตรทอง 30 บาท ได้รับความร่วมมือจากทุกภาคส่วนและงบประมาณที่ได้รับจากภาครัฐมาพัฒนาระบบบริการให้มีคุณภาพ นับเป็นพันธกิจหลักของ สปสช. ที่ดำเนินการเข้าสู่ปีที่ 22 ครอบคลุมการดูแลสุขภาพคนไทย 48 ล้านคนทั่วประเทศที่ไม่มีหลักประกันสุขภาพ ให้ได้รับการคุ้มครองตามสิทธิเมื่อเจ็บป่วย ตั้งแต่โรคทั่วไปครอบคลุมถึงโรคที่มีค่าใช้จ่ายสูง เพื่อให้ได้รับบริการสาธารณสุขที่จำเป็นโดยไม่มีค่าใช้จ่าย ถือเป็นการลดปัญหาความเหลื่อมล้ำ และแก้ไขปัญหาความยากจน

นพ.จเด็จ กล่าวอีกว่า จากข้อมูลในระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ พบว่า มีผู้มีสิทธิที่จะเข้าร่วมการออมกับ กอช.กว่า 20 ล้านคน โดย สปสช. ตั้งเป้าหมายสนับสนุนและส่งเสริมให้ผู้มีสิทธิกว่า 10 ล้านคน เข้าร่วมออมเงินกับ กอช. เพื่อสร้างหลักประกันชีวิตที่มั่นคง และมีบำนาญไว้ใช้ในยามเกษียณ และพร้อมสนับสนุนการประชาสัมพันธ์ ข้อมูลข่าวสาร และกิจกรรมต่างๆ ผ่านช่องทางที่เหมาะสม รวมถึงเชื่อมต่อระบบสารสนเทศระหว่าง 2 หน่วยงาน เพื่อเพิ่มการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายและร่วมกันยกระดับคุณภาพชีวิตที่ดีให้กับประชาชนร่วมกัน

ทั้งนี้ ภายในงาน สปสช. ได้มีการจัดบูธให้บริการตรวจสุขภาพเบื้องต้น อาทิ ชั่งน้ำหนัก วัดส่วนสูง ตรวจวัดความดัน เป็นต้น ให้กับสื่อมวลชนและผู้ร่วมงาน โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย ในส่วนของ กอช. ได้ร่วมจัดบูธ “วางแผนการออม” พร้อมให้คำแนะนำการวางแผนการออมเงินเพื่อยามเกษียณให้กับผู้เข้าร่วมงาน โดยมีผู้สนใจเข้าร่วมรับบริการเป็นจำนวนมาก

สำหรับผู้ประกอบอาชีพอิสระ นักเรียน นักศึกษา ประชาชนทั่วไปที่ยังไม่มีสวัสดิการใดๆ สามารถสมัครสมาชิก กอช. เพื่อออมเงินไว้ใช้ในยามเกษียณ ได้ที่ธนาคารกรุงไทย ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร ธนาคารออมสิน และธนาคารอาคารสงเคราะห์ พร้อมกันนี้ กอช.แนะนำให้สมาชิกส่งเงินออมเพียง 5 ปี ปีละ 30,000 บาท ก็มีสิทธิรับบำนาญตลอดชีพได้ โดยสามารถตรวจสอบสิทธิ และสมัครผ่านช่องทางออนไลน์ได้สะดวกทุกที่ทุกเวลา ทางแอพพลิเคชั่นของ ทรูมันนี่ กอช. ช่องทางไลน์แอด กอช. @nsf.th หรือสายด่วนเงินออม 0-2049-9000

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image