กรมอุทยานฯสรุป ไฟป่าสร้างความเสียหาย4.5แสนไร่ ลดลงจากปีที่แล้ว 35% คนแกล้งจุด อากาศร้อนเป็นเหตุ

กรมอุทยานฯสรุป ไฟป่าสร้างความเสียหาย4.5ไร่ ลดลงจากปีที่แล้ว 35% คนแกล้งจุด อากาศร้อนเป็นเหตุ

​นายนฤพนธ์ ทิพย์มณฑา ผู้อำนวยการสำนักป้องกัน ปราบปราม และควบคุมไฟป่า กล่าวว่า สรุปภาพรวมสถานการณ์ไฟป่าทางภาคเหนือ พื้นที่ 17 จังหวัด อันได้แก่ จ.กำแพงเพชร เชียงราย เชียงใหม่ ตาก นครสวรรค์ น่าน พะเยา พิจิตร พิษณุโลก เพชรบูรณ์ แพร่ แม่ฮ่องสอน ลำปาง ลำพูน สุโขทัย อุตรดิตถ์ และอุทัยธานีปีนี้ พบว่า จุดที่ดาวเทียมตรวจพบว่า เป็นพื้นที่ที่มีค่าความร้อนสูงผิดปกติติดอันดับต้นๆ ของประเทศโดยเฉพาะพื้นที่ของจังหวัดแม่ฮ่องสอนและจังหวัดเชียงใหม่ ถือเป็นอีก 2 พื้นที่เกิดไฟป่าที่สำคัญ มีจุด Hotspot ทำให้ป่าเสียหายแล้วกว่า 450,000 ไร่

สำหรับสาเหตุการเกิดไฟป่าสรุปว่ามีสาเหตุหลายประการ อาทิ ภูมิศาสตร์ของภาคเหนือ ส่วนใหญ่เป็นภูเขาสูงและมีที่ราบคล้ายแอ่งกระทะ ลักษณะของป่าแตกต่างจากพื้นที่อื่น ๆ และเมื่อเข้าสู่ฤดูร้อน ใบไม้แห้งจะกลายเป็นเชื้อเพลิงอย่างดี มีการทำเกษตรเชิงเดี่ยว มีการเผาป่าเพื่อเริ่มทำการเกษตรครั้งใหม่ หรือพืชบางชนิดอาจต้องใช้ไฟเพื่อช่วยในการเจริญเติบโตหรือผลัดเปลี่ยน เช่น ช่วยให้ผักหวานแตกยอดหรือเห็ดเผาะเมื่อมีต้นไม้และหญ้าขึ้นคลุมผิวดินมาก จะไม่สามารถขึ้นได้และยากต่อการหา จึงทำให้ชาวบ้านมีความเชื่อว่า เมื่อเผาป่าจะหาของป่าได้ง่ายขึ้น ปัญหานี้จึงอยู่คู่กับภาคเหนือมาตลอด หรือบางครั้งไฟป่าอาจเกิดขึ้นเองตามธรรมชาติอย่างไรก็ตาม ลดลงจากปีที่แล้ว 35% และพื้นที่เผาไหม้ลดลงจากปีที่แล้ว 39%  โดย ปีนี้มีสภาพอากาศร้อนจัดและมีการลักลอบเผาป่าไม่หยุด

Advertisement

“ปัญหาในพื้นที่เกิดจากการกลั่นแกล้ง อากาศร้อนขนาดนี้ยังมีคนเผาคิดว่าเผาแล้วไฟไม่ลุกลามแต่ความแห้งแล้งของพื้นที่ ทำให้ไฟดับยากและลุกลามไปอย่างรวดเร็ว สาเหตุที่เขากลั่นแกล้ง คือ โดนเบี่ยงเบนประเด็น เช่น มีคนจะเข้าไปลักลอบตัดไม้ทำลายป่า เข้าไปหาของป่า และกลั่นแกล้งไปเผาอีกจุดหนึ่ง ทำให้เจ้าหน้าที่ต้องระดมกำลังไปช่วยดับไฟจุดนั้น และเจ้าหน้าที่ฯเข้มงวดมาก หากทำผิดกฎหมายจะมีการดำเนินการทันที เมื่อเขาทำผิดกฎหมายไม่ได้ ก็มีการเผาป่ากลั่นแกล้ง”​นายนฤพนธ์ กล่าว

ผู้อำนวยการสำนักป้องกัน ปราบปราม และควบคุมไฟป่า กล่าวว่า ​ด้านการแก้ไขปัญหาไฟป่า เจ้าหน้าที่ ยังคงใช้มาตรการเฝ้าระวังและเคาะประตูบ้าน รวมทั้งมาตรการหาข่าวในพื้นที่ ทุกวันนี้หน่วยงานป่าอนุรักษ์ทั่วประเทศ ยังใช้มาตรการสืบข่าวในทางลับ สืบบุคคลที่เข้าไปลักลอบเผาป่า รวมทั้งมาตรการอื่นๆควบคู่กันไป เช่น การลงทะเบียนคนเข้า-ออกในพื้นที่ป่า มีการบังคับใช้กฎหมายกับผู้กระทำผิดอย่างเด็ดขาด

Advertisement

ผอ.สำนักป้องกัน ปราบปราม และควบคุมไฟป่า กล่าวอีกว่า การปฏิบัติงานเข้าพื้นที่การเกิดไฟป่าต้องมีความระมัดระวังและให้เกิดความปลอดภัยสูงสุดในการปฏิบัติหน้าที่ เพื่อป้องกันการสูญเสีย ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ทำงานหนักมาก เสี่ยงเป็นฮีทสโตรก หากเป็นพื้นที่บนดอยต้องใช้เวลาเดินทางเป็นวัน การเข้าถึงยากลำบาก ต้องการทั้งอากาศยาน ยานพาหนะ รถบรรทุกน้ำ แต่แม้จะมีอุปกรณ์มากมายเพียงใด หากไม่หยุดเผาป่าในพื้นที่ เจ้าหน้าที่ก็ยังต้องปฏิบัติหน้าที่อย่างหนักสู้กับคนที่เผาป่าต่อไป

​ภาพรวมสถานการณ์ไฟป่าในพื้นที่ภาคเหนือ จึงล้วนเกิดจากมนุษย์บางคนที่ยังเผาไม่หยุด จึงขอร้องว่า โลกร้อนขึ้นทุกวัน หยุดเผาป่ากันเถอะ ไม่ใช่เพื่อตัวคุณเองเท่านั้น แต่เพื่อป่าที่เป็น “บ้าน” เป็นของพวกคุณเองด้วย

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image