รพ.เลิดสิน พาตรวจคัดกรอง “กระดูกพรุน” เผย หญิงเสี่ยงสูงกว่าชาย พร้อมบอกอาหารชะลอความเสื่อม

วันที่ 29 มิถุนายน 2567 - 14:06 น.

เมื่อวันที่ 29 มิถุนายน ที่สามย่านมิตรทาวน์ฮอลล์ ชั้น 5 สามย่านมิตรทาวน์ เครือมติชน ร่วมกับองค์กรและหน่วยงานพันธมิตรสุขภาพทั้งภาครัฐและเอกชนจัดงาน Thailand Healthcare 2024 ‘เกษียณสโมสร’ ชวนตรวจสุขภาพฟรี 30 โรงพยาบาลชั้นนำ จัดเต็ม 6 โซนเด่น 4 ไฮไลต์เพื่อสุขภาพ เพื่อฉลองครบรอบปีที่ 16 งานแฟร์สุขภาพอันดับ 1 ของประเทศ ระหว่างวันที่ 27 – 30 มิถุนายนนี้

พว.จุติรัตน์ ภูติรักษ์ พยาบาลวิชาชีพชำนาญ โรงพยาบาลเลิดสิน กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวว่า สำหรับวันนี้ทาง รพ.เลิดสิน ได้นำเอาเครื่องมือในการตรวจวัดมวลกระดูกบริเวณข้อมือ สำหรับการคัดกรองภาวะกระดูกสันหลังพรุนเบื้องต้น มาตรวจให้กับผู้ที่เข้ามาร่วมงานเฮลท์แคร์2024 ซึ่งการอ่านผลจะเป็นแบ่งสีตามระดับความเสี่ยงของโรคคือ สีเขียวระดับปกติ สีเหลืองเริ่มพบความผิดปกติ และ สีแดงมีภาวะกระดูกเสื่อมเล็กน้อย โดยแต่ละวันมีผู้สนใจเข้าตรวจเฉลี่ย 120 คน ส่วนใหญ่เป็นผู้สูงอายุราว 70 – 75 ปี ทำให้ผลการตรวจร้อยละ 70 – 80 อยู่ในกลุ่มระดับสีแดง ซึ่งผู้ป่วยที่มีความเสี่ยงก็สามารถนำผลตรวจจากงานเฮลท์แคร์2024 ไปยื่นที่ รพ.ตามสิทธิการรักษาของตนเองเพื่อทำการรักษาต่อไป

พว.จุติรัตน์ กล่าวว่า นอกจากนั้น เจ้าหน้าที่พยาบาลในบูธก็จะให้ความรู้สุขภาพ การดูแลตัวเองด้วยอาหารเพื่อไม่ให้เกิดความเสื่อมมากขึ้น เช่น ใบยอ ใบชะพลู ยอดดอกแค ผักกระเฉด สะเดา ผักคะน้า ใบตำลึง เมล็ดพริกไทย งาดำคั่ว เต้าหู้ขาว เต้าหู้เหลือง สาคู เป็นต้น ส่วนแคลเซียมที่ได้จากเนื้อสัตว์ เช่น กุ้งแห้งตัวเล็ก กะปิดเคย ปลาตัวเล็กๆ ที่ทานได้ทั้งตัว อย่างเช่นปลาข้าวสาร จะมีแคลเซียมสูงมากๆ รวมถึงไข่เป็ด ไข่แดง นมสด และชีสด้วย

“ภาวะกระดูกสันหลังพรุน เป็นภัยเงียบที่ผู้ป่วยมักไม่รู้ตัว แต่จะส่งผลตอนที่ผู้ป่วยเกิดอุบัติเหตุ ล้ม ก็จะเกิดปัญหากระดูกหักได้ง่าย โดยเฉพาะผู้สูงอายุที่กระดูกมีความเปราะบาง จำเป็นต้องได้รับข้อมูลการดูแลตัวเองเพื่อชะลอความเสื่อมของกระดูกไม่ให้มากขึ้น” พว.จุติรัตน์ กล่าวพว.จุติรัตน์ กล่าวต่อว่า สำหรับคนที่อายุยังไม่มาก ก็สามารถพบภาวะกระดูกพรุนได้เช่นกัน โดยเฉพาะผู้หญิงมีความเสี่ยงมากกว่าผู้ชาย เพราะมีความเกี่ยวข้องกับฮอร์โมนของร่างกายไปจนถึงผู้ป่วยที่เคยผ่าตัดรังไข่ และผู้หญิงที่หมดประจำเดือนเร็วในวัยกลางคน ดังนั้น เราจะต้องให้ความรู้เพื่อสร้างความตระหนักและเน้นเรื่องการชะลอความเสื่อมของกระดูก