‘ส.ส.ก้าวไกล’ จี้วางแผนบริหารน้ำให้ดีสู้’เอลนิโญ’ ชี้’พิธา’หนุนข้อมูล GISTDA มากขึ้นสู้แล้ง

‘ส.ส.ก้าวไกล’ จี้วางแผนบริหารน้ำให้ดีสู้ ‘เอลนิโญ’ หวั่นกระทบภาคเกษตรแน่ปี’67 ชี้ ‘พิธา’ หนุนข้อมูล GISTDA มากขึ้นสู้แล้ง

เมื่อวันที่ 12 กรกฎาคม นายนิติพล ผิวเหมาะ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล (ก.ก.) โพสต์เฟซบุ๊กเรื่องผลกระทบของปรากฏการณ์เอลนิโญ ก่อให้เกิดสภาพอากาศเลวร้าย อย่างเช่น อุทกภัย และภัยแล้ง ในหลายภูมิภาคของโลก รวมถึงประเทศที่กำลังพัฒนาอย่างประเทศไทย ซึ่งมีเศรษฐกิจเน้นในเรื่องของเกษตรกรรม โดยภาคเกษตรกรรม คือ เศรษฐกิจหลักของคนไทย รวมถึงคนภาคเหนือ มีทั้งข้าว ข้าวโพด สับปะรด สตรอเบอรี่ ลิ้นจี่ ลำไย และอื่นๆ ดังที่เคยกล่าวไปแล้วว่า เรากำลังเผชิญกับเอลนิโญในสถานการณ์โลกร้อน ทำให้เจอกับภัยแล้งรุนแรงและยาวนานขึ้น ในปี 2566 เราอาจไม่รู้สึกถึงผลกระทบมากนัก เพราะเรายังมีน้ำกักเก็บอยู่ในเขื่อนและอ่างเก็บน้ำพอสมควร แต่ปัญหาของเราคือ ด้วยสถานการณ์ปกติ เราอาจวางแผนใช้น้ำปีต่อปีได้ แต่ในสถานการณ์เอลนิโญรอบนี้ เราจะเจอความแล้ง ฝนขาดช่วงไปอีกยาวนานอาจถึงปี’69 หมายความว่า น้ำที่มีอยู่ตอนนี้ ถ้าไม่บริหารจัดการให้ดี ปีหน้าเราจะเจอวิกฤตกันแน่ และผลกระทบอันดับแรกๆ ที่โดนแน่นอนคือภาคเกษตรกรรม

นายนิติพลกล่าวว่า สำหรับภาคเหนือ ไม่ได้มีฝนตกชุกอยู่แล้ว ข้าวนาปรังน่าจะกระทบแน่ รวมถึงพืชอื่นๆ ตั้งแต่ปีนี้ไปควรวางแผนปลูกพืชใช้น้ำน้อย และอาจต้องเตรียมงบเยียวยาเอาไว้สำหรับการห้ามทำเกษตรบางอย่างในบางช่วง นอกจากนี้ ต้องคุมราคาให้ดี เพราะข้าวเป็นวัตถุดิบตั้งต้นของอุตสาหกรรมอาหารหลายชนิด ถ้าปล่อยให้ขาดแคลนหรือราคาสูงก็จะยิ่งส่งผลกระทบเป็นวงกว้าง และอาจสร้างความเสียหายทางเศรษฐกิจมากกว่าที่คิดได้ นอกจากนี้ ข้อมูลและการสั่งการแบบบูรณาการเพื่อรับมือภัยพิบัติมีวามสำคัญมาก ดังที่พรรคก้าวไกลเคยเสนอไว้ จะต้องมีการทำนายสภาพอากาศล่วงหน้าอย่างน้อย 3 เดือนถึงความล่าช้าและฝนทิ้งช่วงที่ลงถึงระดับตำบลเพื่อให้ท้องถิ่นสามารถวางแผนได้ การจัดสรรน้ำ การเตรียมแผนสำรองน้ำ การกระจายงบประมาณการจัดการน้ำในชุมชนและไร่นายังคงเป็นมาตรการจำเป็นที่ต้องเร่งเตรียมตัวให้พร้อม เพื่อเร่งเก็บน้ำตั้งแต่ตอนนี้เท่าที่เวลายังพอมี ถ้าปล่อยถึงปีหน้าแล้วค่อยวางแผนจะยิ่งช้าเกินการณ์ เพราะเราเหลือช่วงเวลาหน้าฝนในปีนี้ให้กักเก็บฝนได้เหลือไม่นานแล้ว”

Advertisement

นายนิติพลกล่าวว่า เมื่อวันที่ 11 กรกฎาคม นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรค ก.ก.และแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี ได้เข้าพบผู้บริหารสำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (องค์การมหาชน) (GISTDA) โดยมีสาระสำคัญที่ได้หารือกัน คือ หากสามารถตั้งรัฐบาลสำเร็จ ต้องการการสนับสนุนส่งเสริมข้อมูลจาก GISTDA ให้มากขึ้น เช่น การแก้ปัญหาภัยพิบัติ ภัยแล้ง และการเยียวยาเกษตรกร โดยใช้ศักยภาพและประโยชน์จากข้อมูลดาวเทียมและภูมิสารสนเทศจาก GISTDA ในการสนับสนุนเชิงนโยบายเพื่อการบริหารจัดการปัญหาสำคัญของประเทศ

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image