ขยะนครหาดใหญ่ รอวันเตาเผาฟื้น

ขยะนครหาดใหญ่ รอวันเตาเผาฟื้น

21 กุมภาพันธ์ 2566 สำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงานส่งเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ตรวจสอบสถานประกอบกิจการของเอกชนคู่สัญญาของเทศบาลนครหาดใหญ่ซึ่งเดินระบบเตาเผาและผลิตพลังงานไฟฟ้า จากที่ได้รับแจ้งจากจังหวัดสงขลาว่า ผู้ประกอบการรายนี้ลักลอบนําขยะเทลงในพื้นที่พรุจูด (พื้นที่ชุ่มน้ำธรรมชาติ) ไม่ไกลจากสถานที่ฝังกลบขยะของเทศบาลนครหาดใหญ่ ตำบลควนลัง อีกทั้งยังปล่อยให้ขยะที่กักเก็บไว้ล้นออกนอกอาคารเก็บเชื้อเพลิง และยังลักลอบขนย้ายขยะไปยังโรงงานคัดแยกในตำบลคลองหอยโข่ง อำเภอคลองหอยโข่งโดยไม่กำจัดด้วยการเผาตามสัญญาระหว่างผู้ประกอบการและเทศบาลนครหาดใหญ่ และไม่ปฏิบัติตามระเบียบของคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน สาเหตุจากที่ระบบเตาเผานี้ไม่สามารถเดินระบบได้อย่างมีประสิทธิภาพ การดำเนินการลักษณะดังกล่าวของผู้ประกอบการทำให้เกิดการปนเปื้อนลงสู่แหล่งน้ำสาธารณะ และก่อให้เกิดกลิ่นรบกวนจนเกิดความเสียหายอย่างร้ายแรงต่อสาธารณะ 

เมื่อได้รับรายงานจากการลงพื้นที่แล้ว วันที่ 7 เมษายน 2566 คณะกรรมการกำกับกิจการพลังงานมีคำสั่งให้พักใช้ใบอนุญาตประกอบกิจการผลิตไฟฟ้าของผู้ประกอบการรายนี้ โดยเห็นว่าการกระทำของผู้ประกอบการเข้าข่ายเป็นกรณีที่ผู้รับใบอนุญาตไม่ปฏิบัติตามระเบียบที่คณะกรรมการประกาศและอาจก่อให้เกิดความเสียหายอย่างร้ายแรงต่อประโยชน์สาธารณะ คำสั่งดังกล่าวยังให้โอกาสแก่ผู้ประกอบการโดยให้ดำเนินการแก้ไขปัญหาให้แล้วเสร็จภายใน 180 วัน ในสองประเด็นได้แก่ 1) ปรับปรุงกระบวนการผลิตก๊าซสังเคราะห์ และกระบวนการเผาไหม้ให้มีประสิทธิภาพ โดยมีคํารับรองของผู้ประกอบวิชาชีพวิศวกรรม และ 2) บริหารจัดการเถ้าที่เกิดจากกระบวนการผลิต และต้องได้รับความเห็นชอบให้เป็นไปตามกฎหมายว่าด้วยโรงงาน นั่นหมายถึงภายในเดือนตุลาคม 2566 ผู้ประกอบการจะต้องดำเนินการในสองประเด็นข้างต้นให้เรียบร้อยเพื่อยกเลิกคำสั่งพักการใช้ใบอนุญาตประกอบกิจการผลิตไฟฟ้าต่อไป 

การพักใบอนุญาตประกอบกิจการผลิตไฟฟ้า ทำให้ผู้ประกอบการต้องสูญเสียรายได้จากการจำหน่ายพลังงานไฟฟ้าซึ่งเป็นรายได้หลักของกิจการ ลำพังรายได้จากค่ากำจัดไม่เพียงพอกับค่าใช้จ่ายในการเดินระบบ ทำให้ผู้ประกอบการต้องหยุดเดินระบบโดยปริยาย นั่นหมายความว่า การหยุดเดินระบบโดยไม่รับขยะไปกำจัดด้วยการเผาเป็นการละเมิดสัญญาที่ทำไว้กับเทศบาลนครหาดใหญ่ด้วย การละเมิดสัญญากับเทศบาลนครหาดใหญ่ด้วยการไม่นำขยะไปกำจัดด้วยการเผาเคยเกิดขึ้นมาตั้งแต่ปี 2558 โดยผู้ประกอบการนำขยะที่ไม่กำจัดด้วยการเผาไปเทกองทิ้งนอกพื้นที่จนเป็นเหตุให้เกิดการร้องเรียนจากชุมชนและหน่วยงานราชการข้างเคียง การกระทำดังกล่าวนี้ เทศบาลนครหาดใหญ่ได้บันทึกข้อมูลว่า ในปี 2558 มีขยะที่ไม่ได้รับการเผาแต่นำไปเทกองนอกพื้นที่ จำนวน 28,662 ตัน ปี 2559 จำนวน 14,820 ตัน ปี 2560 จำนวน 30,024 ตัน ปี 2561 จำนวน 2,598 ตัน เป็นต้น แม้ว่าการกระทำดังกล่าวจะเป็นการละเมิดข้อกำหนดในสัญญา ถึงกระนั้นเทศบาลนครหาดใหญ่ยังคงให้โอกาสแก่ผู้ประกอบการแก้ไข ปรับปรุงตลอดมา โดยไม่บังคับใช้ข้อกำหนดในสัญญาว่าด้วย “สิทธิของผู้รับสัญญาในการบอกเลิกสัญญา” 

Advertisement

ตุลาคม 2566 เมื่อครบกำหนด 180 วันที่คณะกรรมการกำกับกิจการพลังงานให้โอกาสแก่ผู้ประกอบการเพื่อปรับปรุงแก้ไขตามรายการที่ให้ไว้ในคำสั่งพักใช้ใบอนุญาตประกอบกิจการ แต่ไม่ปรากฏกิจกรรม
ใดๆ เกิดขึ้นที่เป็นการปรับปรุงแก้ไขเตาเผาแห่งนี้ ในห้วงเวลาเดียวกัน ความยุ่งยากเกิดแก่เทศบาลนครหาดใหญ่ที่ต้องจัดการกับขยะรายวันอย่างน้อยวันละ 200 ตัน โดยไม่มีทางเลือกนอกจากนำขึ้นไปเทกองบนกองขยะเก่าและแม้จะพยายามใช้วิธีการต่างๆ เพื่อลดผลกระทบต่อชุมชน แต่ยากที่จะหลีกเลี่ยงปัญหาทั้งกลิ่นและน้ำเสียจากกองขยะที่ส่งผลกระทบต่อชุมชน และเมื่อพื้นที่ที่พอจะใช้เทกองขยะเหลือน้อยลง เทศบาลนครหาดใหญ่ยังคงหวังว่าผู้ประกอบการจะหาทางกลับมาฟื้นฟูเดินระบบเตาเผาอีกครั้ง แต่แล้วความหวังดังกล่าวแทบหมดไปเมื่อมีข่าวว่าคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงานอาจยกเลิกใบอนุญาตประกอบกิจการของผู้ประกอบการรายนี้ ซึ่งหมายความว่าเตาเผานี้คงไม่กลับมาเดินระบบอีก 

คณะทำงานเฉพาะกิจของเทศบาลนครหาดใหญ่ประกอบด้วยผู้บริหาร เจ้าหน้าที่และนักวิชาการได้รับการแต่งตั้งขึ้นเพื่อร่วมกันหาทางออก จากการประเมินสถานการณ์ของคณะทำงานชุดนี้ เห็นว่าในระยะยาว เทศบาลนครหาดใหญ่จำเป็นต้องร่วมมือกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นอื่นที่จะต้องใช้ระบบกำจัดร่วมที่เหมาะสม ส่วนการแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าในช่วงเวลา 2-3 ปี เทศบาลนครหาดใหญ่จำเป็นต้องพึ่งพาท้องถิ่นอื่นๆ แบ่งเบาภาระไปก่อน ขณะเดียวกันเทศบาลนครหาดใหญ่จำเป็นที่ต้องทบทวนกระบวนการจัดการขยะทั้งระบบซึ่งหมายถึงการจัดการที่แหล่งกำเนิดและระบบการเก็บขนในพื้นที่ของเทศบาล

กรณีของเตาเผา คณะทำงานได้สรุปความเห็นชัดเจนว่า “การกลับมาให้บริการของผู้ประกอบการคู่สัญญาของเทศบาลเป็นไปได้ยากหรือเป็นไปไม่ได้เลย ด้วยเหตุผล 3 ประการ ประการแรก รายได้ของเตาเผากำจัดขยะ มาจากการขายพลังงานไฟฟ้า ในช่วงเวลาที่ยังคงได้รับการสนับสนุนตามนโยบาย Adders ของกระทรวงพลังงาน รายได้ส่วนนี้คิดเป็นสัดส่วนถึง 80% ของรายได้ทั้งหมด ส่วนที่เหลือเป็นรายได้จากค่ากำจัดที่ท้องถิ่นจ่ายเป็นค่าบริการ แต่หลังจากสิ้นสุดการสนับสนุนตามนโยบาย Adders ในปี 2563 รายได้จากการขายพลังงานไฟฟ้าลดลงประมาณครึ่งหนึ่ง เป็นผลให้รายได้ทั้งหมดไม่เพียงพอกับค่าใช้จ่ายในการเดินระบบ ประการที่สอง เนื่องจากการเลือกใช้เทคโนโลยีที่ไม่เหมาะสม เป็นปัญหามาตั้งแต่เริ่มเดินระบบ ส่งผลกระทบต่อชุมชนและสิ่งแวดล้อม อีกทั้งภายหลังที่หยุดเดินระบบ เครื่องจักร อุปกรณ์ชำรุดเสื่อมสภาพอย่างรวดเร็ว การจะกลับมาเดินระบบใหม่ จำเป็นต้องลงทุนอีกครั้งเพื่อปรับปรุงและซ่อมแซม การลงทุนดังกล่าวในสภาวะที่โรงงานไม่สามารถทำรายได้ให้เพียงพอจึงไม่น่าจะเกิดขึ้นได้ และประการที่สาม ความพยายามใดๆ ที่จะนำเสนอการแก้ปัญหาโดยการปรับเปลี่ยนเทคโนโลยี จะเป็นการเปลี่ยนแปลงสาระสำคัญของสัญญาที่นำไปสู่กระบวนการตรวจสอบ พิจารณาของคณะทำงานชุดต่างๆ ของกระทรวงมหาดไทย รวมทั้งการรับฟังความเห็นจากชุมชนโดยรอบ จากสถานการณ์ปัจจุบัน ประเมินได้ว่า ‘เป็นไปไม่ได้’ ที่จะผ่านความเห็นชอบจากเทศบาลเมืองควนลังและชุมชนในพื้นที่”

Advertisement

การกลับมาเดินระบบของเตาเผาจึงเป็นไปได้ยากหรือเป็นไปไม่ได้ ดังนั้นเทศบาลนครหาดใหญ่ต้องเผชิญกับความยากลำบากอย่างแน่นอน แต่จะเป็นความยากลำบากที่สามารถผ่านพ้นไปได้ด้วยความตั้งใจ มุ่งมั่นของเทศบาลและการใช้โอกาสเช่นนี้ปรับเปลี่ยนกระบวนการจัดการขยะต้นทางอย่างจริงจัง เปลี่ยนแปลงระบบการจัดการของเทศบาลเอง เพื่อยกระดับการจัดการที่มีประสิทธิภาพและยั่งยืน

พิรียุตม์ วรรณพฤกษ์

นักวิชาการสิ่งแวดล้อมอิสระ

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image