พล.ต.อ.เอกโพสต์คำแจงก.ตร. โดน ‘โจ๊ก’ แบนประชุม เผยคุ้นเคยรองผบ.ตร.ยกหูนัดพบถี่เล่าเรื่องบิ๊กๆ

พล.ต.อ.เอก ก.ตร.ผู้ทรงคุณวุฒิ ผู้โดนบิ๊กโจ๊กแบนเข้าประชุม โพสต์เฟซบุ๊กเปิดคำแจง ไม่เคยโกรธเคือง ที่ผ่านมารองผบ.ตร.ยกหูนัดหมายขอพบถี่ๆเล่าเรื่องบิ๊กเนมในอดีต-ปจบ.นับ 10 ยันแสดงความเห็นไร้เจตนาล่วงเกิน

พล.ต.อ.เอก อังสนานนท์ ก.ตร.ผู้ทรงคุณวุฒิ ได้โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัว Aek Angsananont (พล.ต.อ.เอก อังสนานนท์)ระบุว่า “ตั้งแต่มีกรณีที่ ผบ.ตร.และรอง ผบ.ตร.ถูกกล่าวหาว่ากระทำผิดทั้งอาญาและวินัย มีการดำเนินการต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องหลายกรณี ซึ่งสื่อมวลชนได้ติดตามและประชาชนก็สนใจอย่างกว้างขวาง

ผมได้รับเชิญไปให้สัมภาษณ์สื่อต่าง ๆ ทั้งวิทยุ โทรทัศน์ หลายช่อง และมีการแพร่กระจายไปทางสื่อโซเชียลอีกมากมาย

เมื่อวันที่ 26 มิถุนายน 2567 เวลา 15.00 น. มีการประชุม ก.ตร. โดยนายกรัฐมนตรีเป็นประธานในที่ประชุม ที่ห้องศรียานนท์ อาคาร 1 สำนักงานตำรวจแห่งชาติ

Advertisement

มีวาระเพื่อพิจารณาเกี่ยวกับการขอให้พิจารณาการปฏิบัติการเกี่ยวกับการบริหารงานบุคคลของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กรณีที่ ตร.มีคำสั่งตั้งกรรมการสอบสวนวินัยข้าราชการตำรวจและให้ข้าราชการตำรวจออกจากราชการไว้ก่อน ซึ่งเกี่ยวพันกับ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กับพวก

ผมทราบในที่ประชุมว่า พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ได้ยื่นเรื่องต่อประธาน ก.ตร.คัดค้านผมไม่ให้เข้าร่วมประชุมพิจารณาในวาระนี้ เพราะมีสภาพร้ายแรงอันอาจทำให้เสียความเป็นกลางในการพิจารณาเรื่องนี้
จากการที่ผมได้สัมภาษณ์หรือแสดงความคิดเห็นในเรื่องต่าง ๆ ที่เกิดขึ้น โน้มน้าวชักจูงให้ ก.ตร.มีมติในทางที่เสียหายกับผู้ร้อง

ผมได้ชี้แจงต่อที่ประชุม ก.ตร. ว่า ผมไม่เคยมีสาเหตุโกรธเคืองกับผู้ร้องมาก่อนแต่อย่างใด ผู้ร้องสนิทสนมคุ้นเคยกับผมเป็นอย่างดี ได้เคยโทรศัพท์มานัดหมายเพื่อขอมาพบผม ทั้งที่บ้านพักส่วนตัวและที่ทำงาน ก.ตร.

Advertisement

ทุกครั้งก็จะมาเล่าเรื่องราวต่าง ๆ เกี่ยวกับบุคคลที่สาม ซึ่งบางคนเป็นบุคคลสำคัญระดับสูง รวมถึงนายตำรวจท่านอื่น ๆ ทั้งอดีตและปัจจุบันนับ 10 ท่าน ซึ่งผมไม่ทราบว่าจริงหรือไม่ ได้แต่รับฟังและบันทึกไว้

ส่วนเรื่องที่ผมให้สัมภาษณ์หรือแสดงความคิดเห็นต่อสื่อมวลชน เป็นไปตามสิทธิพื้นฐานในการแสดงความคิดเห็นตามบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญ ตามข้อเท็จจริงและข้อกฎหมาย ไม่มีเจตนาก้าวล่วงไปก่อให้เกิดความเสียหายกับผู้ใดทั้งสิ้น

หลังจากชี้แจง ผมได้ออกจากห้องประชุมไป และกลับเข้ามาในห้องประชุมเมื่อ ก.ตร.ที่เหลืออยู่พิจารณาลงมติให้ผมเข้าร่วมประชุมพิจารณาเรื่องนี้ต่อไปได้ ในวาระการประชุมดังกล่าวจนเสร็จสิ้น
ผมขอยืนยันว่า จะปฏิบัติหน้าที่กรรมการ ก.ตร.ผู้ทรงคุณวุฒิ ด้วยความซื่อสัตย์สุจริต ยึดหลักคุณธรรม ความถูกต้อง และมีวุฒิภาวะในการแสดงความคิดเห็นตามกรอบกฎหมายอย่างเคร่งครัดต่อไป”

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image