นายมีชัย ฤชุพันธุ์ ประธานคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) เรียกร้องให้ทุกฝ่ายวิพากษ์วิจารณ์ร่างรัฐธรรมนูญซึ่งมีจำนวน 270 มาตรา ด้วยเหตุและผล ระหว่างเมื่อวันที่ 29 มกราคม จนถึงวันที่ 15 กุมภาพันธ์นี้ เพื่อนำไปแก้ไขปรับปรุงอีกครั้งก่อนจะนำเสนอให้ทำประชามติ ซึ่งตามขั้นตอนร่างรัฐธรรมนูญดังกล่าวจะต้องผ่านสายตาสมาชิกสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ (สปท.) ในวันที่ 1 กุมภาพันธ์ และผ่านสายตาคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในวันที่ 2 กุมภาพันธ์ เช่นเดียวกับสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) และคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ก็ต้องอ่าน รวมไปถึงองค์กรหน่วยงาน ตลอดจนประชาชนก็น่าจะได้อ่านรายละเอียดและน่าจะมีความเห็นกลับไปยัง กรธ.
ความคิดเห็นที่นำเสนอมาแล้ว อาทิ พรรคเพื่อไทยตั้งโต๊ะแถลงการณ์ไม่เห็นด้วยหลายประการ ส่วนนักวิชาการหลายแขนงก็ออกมาตั้งคำถามและเปรียบเทียบกับรัฐธรรมนูญฉบับปี 2540 บ้าง หรือปี 2550 บ้าง เช่นเดียวกับเอ็นจีโอที่มีคำถามตามมามากมายหลังได้อ่านร่างรัฐธรรมนูญฉบับนายมีชัย รวมทั้งข้อวิพากษ์วิจารณ์จากปัจเจกบุคคลทั้งในสังคมออนไลน์และที่ให้สัมภาษณ์ลงในสื่อมวลชน ซึ่งต้องยอมรับว่าส่วนใหญ่ไม่เห็นด้วยกับเนื้อหาในร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้ และด้วยความเห็นหลายประการที่แสดงออก ทำให้นายมีชัย ในฐานะประธาน กรธ. ต้องอธิบายความที่มาที่ไปของแนวคิดต่างๆ ในวันรุ่งขึ้น หลังจากเปิดเผยร่างรัฐธรรมนูญทั้ง 270 มาตราไปแล้ว พร้อมทั้งเสนอให้ผู้แสดงความคิดเห็นต่อร่างรัฐธรรมนูญ นำเสนอด้วยเหตุและผล
เมื่อนายมีชัยเปิดทางทั้ง สปท. ครม. สนช. และ คสช. น่าจะมีข้อเสนอต่อร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้อย่างมีเหตุและผล เช่นเดียวกับภาคการเมือง ภาคประชาชน ภาคธุรกิจ รวมไปถึงผู้ประกอบวิชาชีพต่างๆ และอื่นๆ ก็น่าจะแสดงความคิดเห็นอย่างเป็นเหตุเป็นผลชี้ให้ กรธ.เปลี่ยนแปลงแก้ไขให้เนื้อหาด้วยเหตุและผล และหวังว่าข้อเสนอที่มีเหตุและผลซึ่งทุกภาคส่วนนำเสนอกลับไปนั้น จะได้รับการตอบรับจาก กรธ.และมีปรับปรุงเปลี่ยนแปลงตามข้อเสนอที่มีเหตุผลนั้นก่อนการลงประชามติ ทั้งนี้เพื่อให้ร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้มีผู้เห็นด้วยมากกว่าไม่เห็นด้วย กระทั่งในที่สุดสามารถผ่านประชามติไปสู่การเลือกตั้งได้ตามกำหนดปี 2560 ได้จริงๆ
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
