มติ ‘กกต.’ ลุยเองคดีหุ้นสื่อ-ม.151 ไต่สวนพิธา-โทษหนักคุก10ปี ตัดสิทธิการเมือง20ปี
เมื่อวันที่ 10 มิถุนายน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เมื่อวันที่ 9 มิ.ย.ที่ผ่านมา กกต.มีมติเป็นเอกฉันท์ 6 เสียง ไม่รับคำร้องกรณีนายพิธามีคุณสมบัติลักษณะต้องห้ามตามรัฐธรรมนูญในการสมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.จากการถือหุ้นบริษัท ไอทีวี แต่ให้รับเรื่องไว้พิจารณาเป็นความปรากฏ โดยกกต.เห็นว่าคำร้องที่ได้ยื่นมาของทั้ง 3 คน เป็นคำร้องที่ยื่นเกินระยะเวลาจะสั่งรับคำร้องไว้พิจารณา จึงเห็นควรพิจารณาสั่งไม่รับคำร้องไว้ตามระเบียบ
อย่างไรก็ตาม กรณีคำร้องดังกล่าวมีรายละเอียดเกี่ยวกับข้อเท็จจริงและพฤติการณ์และมีหลักฐานพอสมควร และมีข้อมูลเพียงพอจะสืบสวนไต่สวนต่อไปว่านายพิธาเป็นบุคคลผู้มีลักษณะต้องห้ามมิให้ใช้สิทธิสมัครรับเลือกตั้งและรู้อยู่แล้ว ว่าตัวเองไม่มีสิทธิสมัครรับเลือกตั้ง เนื่องจากมีลักษณะต้องห้าม แต่กลับสมัครรับเลือกตั้ง อันเข้าข่ายเป็นการกระทำที่ฝ่าฝืนมาตรา 42(3) และมาตรา 151 แห่ง พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส.
จึงเห็นควรพิจารณาสั่งให้ดำเนินการไต่สวนเป็นกรณีที่มีเหตุอันควรสงสัยหรือความปรากฏ โดยคณะกรรมการสืบสวนไต่สวนที่ได้รับแต่งตั้งจะดำเนินการไต่สวนตามขั้นตอนและระยะเวลาที่กำหนดไว้ในระเบียบต่อไป
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับบทลงโทษ ตามมาตรา 151 พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. คือ จำคุกตั้งแต่ 1-10 ปี ปรับ 20,000 – 200,000 บาท และให้ศาลสั่งเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งของผู้นั้นกำหนดยี่สิบปี
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง :
- มติเอกฉันท์ กกต. ปัดตก 3 คำร้อง ‘พิธา’ ถือหุ้นสื่อ แต่รับคำร้อง ม.151 รู้ไม่มีสิทธิยังฝืนลงเลือกตั้ง
- สมชัย ชี้คดีพิธา หนักกว่าเดิม กกต.ปัดตกคำร้อง แต่รับเป็นเจ้าภาพเอง ลุยเอาผิดม.151
- เลขากกต. ชี้ต้องรับรองพิธา ให้เป็นส.ส. รับไร้ช่องดำเนินการ ทำได้แค่เอาผิดคดีอาญา
-
พลิก ‘ม.151’ กกต.ตั้งธงหนัก สอบพิธา มีโทษจำคุก-ตัดสิทธิ 20 ปี เทียบเคียงคดีสิระ