‘พิธา’ ชี้ไม่เป็นธรรม กกต.ไม่เคยเรียกแจง แต่ส่งศาลรธน.ตีความก่อนโหวตนายกฯเพียง 1 วัน

พิธา ชี้ไม่เป็นธรรม กกต.ไม่เคยเรียกแจง แต่ส่งศาล รธน.ตีความก่อนโหวตนายกฯเพียง 1 วัน

เมื่อวันที่ 12 กรกฎาคม นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรค และแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคก้าวไกล (ก.ก.) กล่าวตอนหนึ่งใน รายการเปิดปากกับภาคภูมิ ถึงประเด็นคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) มีมติส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย กรณีการถือครองหุ้นสื่อไอทีวีว่า จนถึงทุกวันนี้ กกต.ไม่เคยเรียกตนมาชี้แจง ซึ่งไม่มีทั้งที่บ้านและที่พรรค จนถึงทุกวันนี้ตนยังไม่รู้ว่า กกต.สงสัยตนในประเด็นอะไร ตนไม่มีทางที่จะได้ประโยชน์ผ่านสื่อที่ปิดไปแล้ว 17 ปี ซึ่งเข้าใจเจตนารมณ์ของกฎหมายว่าไม่ต้องการให้นักการเมืองเข้าถึงอำนาจโดยการใช้สื่อ แต่สื่อที่ปิดไปแล้ว ไม่มีแม้แต่รายได้ และทุกวันนี้ไม่มีใครดูช่องไอทีวีได้เลย อย่างไรก็ตาม ตนเป็นนักการเมือง ก็พร้อมที่จะให้ตรวจสอบว่าไม่ได้ใช้สื่อเพื่อเข้าสู่อำนาจ แต่กลับไม่มีโอกาสชี้แจง อีกทั้ง กกต.ใช้ระยะเวลาพิจารณาส่งศาลรัฐธรรมนูญ เพียง 32 วัน เมื่อเทียบกับคณะรัฐมนตรี (ครม.) ชุดปัจจุบันที่ถูกร้องประเด็นเดียวกัน กลับใช้เวลาพิจารณาถึง 386 วัน ซึ่งห่างกัน 10 เท่า

นายพิธากล่าวต่อว่า และในกรณีที่มีสื่อมวลชนตั้งข้อสงสัยกรณีที่เอกสารบันทึกการประชุมผู้ถือหุ้นของไอทีวี และบันทึกการประชุมเป็นวิดีโอที่ไม่ตรงกัน ส่วนนี้ยังไม่ได้รับการชี้แจงจากทางบริษัท หรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ส่วนได้มีการวิเคราะห์หรือไม่ว่าทำไม กกต.มีมติออกวันนี้ 1 วันก่อนโหวตเลือกนายกรัฐมนตรี ก็สงสัยไปพร้อมกับพี่น้องประชาชน เพราะระยะเวลานั้นสั้น ไม่มีโอกาสที่จะได้ชี้แจง ตนเป็น ส.ส.มาแล้ว 4 ปี ซึ่งตอนนั้น ตนปรึกษาทั้ง ป.ป.ช. และ กกต.ในเรื่องนี้ก็บอกว่าไม่มีปัญหา แต่พอมาถึงทุกวันนี้ อีก 1 วันที่จะโหวตเลือกนายกฯ มีปัญหาขึ้นมา กกต.ประชุมติดกัน 3 วันติด ก่อนที่จะส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญที่ประชุมทุกวันพุธ นำเรื่องนี้ไปวินิจฉัย จึงเป็นเหตุที่ช่วยไม่ได้ให้สงสัย หวังว่า กกต.มาชี้แจงประเด็นนี้

นายพิธากล่าวต่อว่า เรื่องที่เกิดขึ้นในปัจจุบันนี้ อยู่ในฉากทัศน์ที่เคยประเมินไว้ แต่ประมาทไม่ได้ เพราะสถานการณ์มันงวดเข้ามาเรื่อยๆ และสิ่งที่เราคาดไว้แต่ละอันมันก็เกิดขึ้นพร้อมๆ กัน คิดว่ามีความพยายามที่จะสกัดรัฐบาลเสียงข้างมากของประชาชนที่จะเข้ามาบริหารประเทศในหลายๆ รูปแบบ ถ้าไม่มีเรื่องไอทีวี ก็จะมีเรื่องนู้น เรื่องนี้เข้ามาเรื่อยๆ ตลอดเวลา ต้องยอมรับว่าเป็นเรื่องปกติในการเข้าสู่อำนาจของบ้านเมืองเรา เมื่อย้อนหลังไปเมื่อ 20 กว่าปี ไม่มีใครที่ไม่มีปัญหา วิธีมองของตนคือ อะไรที่ยิ่งใหญ่ อะไรที่สำคัญ มันต้องเป็นเรื่องยากเสมอ จึงมีความหวัง มีกำลังวังชาในการแก้ไขปัญหา

Advertisement

พรุ่งนี้ยังเดินหน้าเลือกนายกฯปกติ แต่มีคนตั้งคำถามว่าจะโหวตเลือกยังไง ของดออกเสียง หรือเลื่อนก่อนได้หรือไม่ นายพิธากล่าวว่า ไม่ว่าเรื่องเกี่ยวกับคดีอะไร นโยบายอะไร มีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเขาพิจารณาอยู่แล้ว ไม่ได้เป็นหน้าที่ของ ส.ว. ส.ว.เป็นนักการเมืองที่อยู่ข้างประชาชน และต้องมีหลักการในการเลือก ถ้าปี 2562 เคยบอกว่าเลือกรัฐบาลที่รวมเสียงข้างมากได้ ซึ่ง พ.ล.ประยุทธ์ รวบรวมเสียงได้ ก็โหวตตามกันหมด แล้วคราวนี้ถ้าเป็นไปตามหลักการเดิม ตนมองว่าไม่มีปัญหา

“กระบวนการทั้งหมดนั้นน่าสงสัย ซึ่งผมรู้สึกว่ายังไม่ได้รับความเป็นธรรม ยังไม่ได้ชี้แจงอะไร เป็นเรื่องที่ไม่ใช่แค่ผม แต่เป็นหลักการกระบวนการของทั้งประเทศ ที่ต่างชาติกำลังจับตาดูอยู่ พี่น้องประชาชนไม่ต้องเป็นห่วงผม แต่ขอให้เป็นห่วงบ้านเมือง เป็นห่วงการบริหารจัดการของประเทศ ซึ่งเป็นสิ่งที่น่ากังวลมากกว่า” นายพิธากล่าว

Advertisement

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง 

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image