เปิดลำดับขั้นตอน ‘โหวตนายกฯ’ 376 เสียง ชี้ชะตา ‘พิธา’ 13 ก.ค.

เปิดลำดับขั้นตอน ‘โหวตนายกฯ’ 376 เสียง ชี้ชะตา ‘พิธา’ 13 ก.ค.

13 กรกฎาคม รัฐสภาเปิดประชุม วาระเลือกนายกรัฐมนตรีคนที่ 30 ของประเทศไทย โดยมี นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานรัฐสภา และ นายพรเพชร วิชิตชลชัย รองประธานรัฐสภา ทำหน้าที่

ที่ 8 พรรค 312 เสียงทั้ง ก้าวไกล เพื่อไทย ประชาชาติ ไทยสร้างไทย เพื่อไทรวมพลัง เสรีรวมไทย เป็นธรรม และพลังสังคมใหม่ เซ็นเอ็มโอยู เสนอชื่อ “พิธา ลิ้มเจริญรัตน์” หัวหน้าพรรคก้าวไกลและแคนดิเดตนายกฯ นั่งนายกรัฐมนตรี

โดย มีลำดับขั้นตอนการโหวต ดังนี้

1.เสนอชื่อ

ส.ส.เสนอชื่อบุคคลเป็นนายกฯ จากบัญชีรายชื่อแคนดิเดตของพรรคที่มีจำนวน ส.ส. 25 คนขึ้นไป

ซึ่งพรรคการเมืองที่มีเสียงถึง 25 พรรค มีสิทธิเสนอชื่อได้ ได้แก่ 1.พรรคก้าวไกล ได้แก่ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์, 2.พรรคเพื่อไทย น.ส.แพทองธาร ชินวัตร, นายเศรษฐา ทวีสิน และนายชัยเกษม นิติสิริ, 3.พรรคภูมิใจไทย นายอนุทิน ชาญวีรกูล, 4.พรรคพลังประชารัฐ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ, 5.พรรครวมไทยสร้างชาติ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา และนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค และ 6.พรรคประชาธิปัตย์

2.มีผู้รับรอง

ต้องมี ส.ส.รับรองไม่น้อยกว่า 1 ใน 10 ของจำนวน ส.ส.ทั้งหมดเท่าที่มีอยู่

3.อภิปราย-โชว์วิชั่น

ประธานรัฐสภาเปิดให้สมาชิกซักถามแคนดิเดตนายกฯ พร้อมให้แสดงวิสัยทัศน์ต่อที่ประชุม ซึ่งจะเป็นครั้งแรกที่มีการแสดงวิสัยทัศน์ของแคนดิเดตนายกฯ ซึ่งปี 2562 แคนดิเดตนายกฯ ไม่อยู่ในรัฐสภา

4.ขานชื่อลงมติ

การเลือกนายกฯให้ดำเนินการในที่ประชุมรัฐภา (ส.ส. 500 คน, ส.ว. 250 คน) กระทำโดยเปิดเผย ออกเสียงชื่อที่เห็นชอบ

โดยการโหวตเลือกนายกฯ ต้องได้เสียงเห็นชอบมากกว่ากึ่งหนึ่ง หรือ 376 เสียงของสมาชิกรัฐสภาขึ้นไป ถึงจะได้เป็นนายกฯ

เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่