ถกครม.เศรษฐกิจ ‘พิชัย’ ชี้ ‘จีดีพี’ 2.5% ต่ำไป อัดฉีดอีก 3 แสนล้าน เร่งกู้ศก.

ถกครม.เศรษฐกิจ ‘พิชัย’ ชี้ ‘จีดีพี’ 2.5% ต่ำไป อัดฉีดอีก 3 แสนล้าน เร่งกู้ศก. คลังจี้รสก.เบิกงบลงทุน

เมื่อวันที่ 27 พฤษภาคม ที่ทำเนียบรัฐบาล นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรีเศรษฐกิจ นัดแรก โดยมีนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกฯและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกฯและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน นายเสริมศักดิ์ พงษ์พานิช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา น.ส.พิมพ์ภัทรา วิชัยกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ นายอรรถกร ศิริลัทยากร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ นางมนพร เจริญศรี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม นายนฤตม์ เทิดเสถียรศักดิ์ เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) นายเศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย นายพรชัย ฐีระเวช ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) นายเฉลิมพล เพ็ญสูตร ผู้อำนวยการสำนักงบประมาณ นายดนุชา พิชยนันท์เลขาธิการสภพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) เข้าร่วม

ต่อมา นายพิชัย แถลงผลการประชุมว่า คงจะเป็นที่ทราบกันดีว่าเศรษฐกิจบ้านเราผลประกอบการเป็นอย่างไร จีดีพีเท่าไหร่ ก็ผลของไตรมาสแรกนั้นตามที่ได้รายงานการประชุม ครม.ครั้งที่แล้วต่ำกว่าที่คาดจาก 2.7% คาดว่าจะเหลือ 2.5% ต้องมานั่งคุยกันว่าปัญหาคืออะไร ปัญหาเพิ่งเกิดหรือเกิดนานแล้ว และวันนี้ควรเอาปัญหาทั้งหมดมาดู จะได้เริ่มว่าอะไรบ้างที่ต้องแก้ไขเชิงโครงสร้างระยะยาว อะไรต้องแก้ไขระยะกลาง อะไรต้องแก้ไขเฉพาะหน้า เพราะรอเวลาไม่ไหว ประเทศไทยก็มีศักยภาพที่ดี มีพื้นฐานที่ดี อย่างน้อยจีดีพีก็ควรจะ 3.5% ขึ้นไป เราอยู่ต่ำกว่า 3.5% มาตลอด อันนี้เป็นสัญญาณที่หนึ่ง สัญญาณที่สองเพื่อนบ้านหรือคู่ค้าคู่แข่งนั้นจีดีพีโตกว่าเรา ส่วนใหญ่อยู่ที่ 4-6% เป็นเครื่องยืนยันว่าของเรานั้นมีปัญหา

นายพิชัยกล่าวต่อว่า เรื่องงานเฉพาะหน้าในส่วนเรื่องสภาพคล่องวันนี้ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย ก็มา ก็เห็นว่าปัญหาเศรษฐกิจมีการแก้ต้องใช้เวลา ความจำเป็นกระตุ้นเศรษฐกิจต้องมี ซึ่งทางรัฐบาลทราบอยู่แล้วจึงต้องหางบประมาณมากระตุ้น ปีนี้เรามีแผนที่จะตั้งงบประมาณเพิ่มเติม 122,000 ล้านบาท และปีหน้าตั้งไว้อีก 160,000 ล้านบาท รวมเกือบ 300,000 ล้านบาท ก็มาดูกันต่อไปว่าเราจะจัดอย่างไรให้อยู่ในวิสัยที่จะจัดได้ มีวินัยทางการเงินการคลัง ถึงจะตึงหน่อยแต่ก็ยังอยู่ในกรอบที่ทำได้

Advertisement

“นายกฯก็ได้ให้ข้อคิดเห็นและสรุปมาว่าอะไรที่ทำได้เลยก็ให้ไปทำ แต่ทุก 2 อาทิตย์ใครทำอะไรให้หยิบขึ้นมาแล้วมารายงานความคืบหน้า เพื่อให้เกิดการผลักดันขับเคลื่นเศรษฐกิจไปพร้อมกับระบบการเงินการคลังร่วมกัน ผมก็มีหน้าที่เป็นผู้ประสานงาน ชี้ให้เห็นปัญหาและผลักดันให้เกิดขึ้นตามคำสั่งของนายกฯ” นายพิชัยกล่าว

ขณะที่ นายเผ่าภูมิ กล่าวว่า เรื่องกรอบเงินเฟ้อเห็นถึงความจำเป็น เพราะเงินเฟ้อมีปัญหา 2 มิติ คือ เรื่องกรอบเงินเฟ้อที่ไม่สะท้อนสภาวะเศรษฐกิจจริง และเรื่องกรอบเงินเฟ้อที่ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งกระทรวงการคลัง และ ธปท. ไม่พยายามผลักดันเงินเฟ้อเข้าไปอยู่ในกรอบ จึงเป็นความรับผิดชอบร่วมกันต้องพิจารณา ทั้งนี้ ที่ประชุมได้สั่งการให้กระทรวงการคลังเร่งการเบิกจ่ายงบลงทุนของรัฐวิสาหกิจ

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image