มติเอกฉันท์! สภารับหลักการ กม.ประชามติ ก้าวไกล ส่งชื่อ ปิยบุตร คัมแบ๊ก ร่วมกมธ.

สภาเอกฉันท์ รับหลักการ ร่างกม.ประชามติ “ก้าวไกล” ส่ง “ปิยบุตร” ร่วมเป็นกมธ. ด้าน “พริษฐ์” จ่อเสนอญัตติถกคำถามประชามติ แก้รธน.

ในการประชุมสภาสมัยวิสามัญ เป็นพิเศษ เพื่อพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ว่าด้วยการออกเสียงประชามติ (ฉบับที่…) พ.ศ. … จำนวน 4 ฉบับ คือของ คณะรัฐมนตรี (ครม.) พรรคเพื่อไทย พรรคก้าวไกล และพรรคภูมิไจไทย โดยจะพิจารณารวมทั้ง 4 ฉบับ เนื่องจากมีเนื้อหาในทำนองเดียวกันนั้น

จากนั้นเวลา 10.40 น. ที่ประชุมสภาเพื่อพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ว่าด้วยการออกเสียงประชามติ (ฉบับที่) พ.ศ. … ได้เปิดโอกาสให้ ส.ส.แสดงความคิดเห็นอย่างกว้างขวาง โดย ส.ส.ฝ่ายรัฐบาลและฝ่ายค้าน อภิปรายแสดงความเห็นด้วยกับการแก้ไขขั้นตอนการทำประชามติให้มีหลักเกณฑ์ที่ผ่านการทำประชามติง่ายขึ้น ไม่ต้องยึดเสียงข้างมากเกินกึ่งหนึ่ง 2 ชั้น โดยมองว่าหลักเกณฑ์เดิมที่ใช้อยู่ เป็นไปได้ยากในทางปฏิบัติในการผ่านประชามติ เนื่องจากการออกเสียงประชามติเป็นเพียงการสอบถามความเห็นประชาชนในประเด็นใดประเด็นหนึ่ง บางประเด็นอาจไม่ได้อยู่ในความสนใจของประชาชนโดยทั่วไป จึงไม่ออกมาใช้สิทธิ จึงไม่ควรนำจำนวนผู้มีสิทธิออกเสียงมามีผลต่อการออกเสียง รวมถึงเสนอให้เพิ่มรูปแบบการทำประชามติในแบบอื่นๆ เช่น ไปรษณีย์ อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ เพิ่มเติมนอกเหนือจากช่องทางการใช้บัตรลงคะแนน โดยให้คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เป็นผู้ออกแบบระบบ เพื่อป้องกันการทุจริต

ขณะที่ ส.ส.บางส่วนเห็นด้วย ให้สามารถทำประชามติได้ในวันเดียวกับการเลือกตั้ง ส.ส. หรือวันเลือกตั้งท้องถิ่น เพื่อประหยัดงบประมาณ และสนับสนุนการแก้ไขดังกล่าว ที่มีผู้เสนอต่อสภา รวม 4 ฉบับ พร้อมกับเสนอแนะความเห็นที่สำคัญ คือ การแก้ไขกฎหมายเพื่อนำไปสู่การปลดล็อกเงื่อนไขที่ทำให้ไม่สามารถแก้ไขรัฐธรรมนูญ หรือการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ได้โดยง่าย นอกจากนั้นยังอภิปรายถึงการตั้งคำถามประชามติที่รัฐบาลกำหนดโดยมีเงื่อนไข ไม่ให้แก้ไขหมวด 1 และหมวด 2 ว่าเป็นประเด็นที่ควรทบทวน เพื่อให้เกิดคำถามประชามติที่เข้าใจง่ายและประชาชนไม่สับสน โดยควรเป็นคำถามเพียงชั้นเดียว ไม่มีลักษณะเป็นคำถามพ่วง เป็นต้น

Advertisement

ทั้งนี้ ในการอภิปรายสรุป นายจาตุรนต์ ฉายแสง ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย อภิปรายว่า การแก้ไขเกี่ยวกับการใช้เสียงผ่านประชามติ ควรใช้หลักเกณฑ์เดียวกันกับเห็นชอบรัฐธรรมนูญ 2560 ดังนั้นพรรคเพื่อไทยเสนอตรงไปตรงมา ในกรณีเสียงข้างมาก 2 ชั้นเป็นกติกาที่ผู้ไม่เห็นด้วยรวมกับผู้ไม่มาออกเสียงลงคะแนนเป็นเสียงข้างมากและชนะผู้ที่ลงคะแนนเห็นชอบ ทั้งนี้สอดคล้องกับฉบับของรัฐบาล และไม่ต่างจากพรรคก้าวไกล นอกจากนั้นยังแก้ไขเกี่ยวกับการรณรงค์เรื่องที่ออกเสียงให้ฝ่ายที่เห็นด้วยและไม่เห็นด้วยทำได้ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการบิดเบือนที่นำไปสู่การลงประชามติในเรื่องใดๆ เพราะเข้าใจผิด

“เป็นความสำคัญทางยุทธศาสตร์ ต่อการแก้มาตรา 256 ของรัฐธรรมนูญ 2560 เพื่อให้เกิดสภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.) และไม่ให้ พ.ร.บ.ประชามติขัดขวางการแก้ไข ดังนั้นด้วยหลักเกณฑ์ที่ตรงไปตรงมาคือ รัฐธรรมนูญฉบับแม่ทำประชามติด้วยหลักเกณฑ์อย่างไร ประชามติที่เกิดขึ้นโดยกฎหมายประชามติ ต้องเป็นไปหลักเกณฑ์เดียวกัน การแก้ไข พ.ร.บ.ประชามติ ทำให้การแก้รัฐธรรมนูญไม่ถูกยับยั้งหรือขัดขวาง แต่หากไม่แก้ไขให้ถูกต้อง การทำประชามติที่เกิดขึ้น อาจทำให้ไม่สามารถแก้ไขรัฐธรรมนูญได้อีกยาวนาน เพราะจะสรุปว่าประชาชนทั่วประเทศไม่เห็นด้วย” นายจาตุรนต์กล่าว

ขณะที่ นายพริษฐ์ วัชรสินธุ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล อภิปรายสรุปว่า ในการอภิปรายของ ส.ส. พบว่ามีการตั้งคำถามถึงการออกแบบคำถามประชามติ ซึ่งไม่เกี่ยวและอยู่ในเนื้อหาของร่างแก้ไข พ.ร.บ.ประชามติ ดังนั้นพรรคก้าวไกลจะรวบรวม ส.ส. เสนอญัตติเพื่อถกเถียงถึงข้อเสนอคำถามประชามติ ให้เป็นเวทีที่นำไปสู่การตั้งคำถามที่เหมาะสม หลังจากที่ พ.ร.บ.ประชามติฉบับแก้ไขแล้วเสร็จ

Advertisement

หลังจากที่ที่ประชุมอภิปรายแล้วเสร็จ ซึ่งใช้เวลาเกือบ 5 ชั่วโมง ได้ลงมติรับหลักการวาระแรก ด้วยเสียงเห็นชอบเอกฉันท์ 451 เสียง งดออกเสียง 1 คน จากนั้นได้เสนอตั้งคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญ 31 คน แปรญัตติ 15 วัน โดยใช้ร่างของ ครม.เป็นหลัก ทั้งนี้ใ นการเสนอชื่อบุคคลเป็น กมธ.วิสามัญนั้น พบว่า พรรคก้าวไกลเสนอได้ 7 คน​โดยหนึ่งในนั้นมีชื่อ นายปิยบุตร แสงกนกกุล แกนนำคณะก้าวหน้า ขณะที่สัดส่วนของ ครม. ได้ส่ง นายชัยเกษม นิติศิริ แคนดิเดตนายกฯของพรรคเพื่อไทย

ด้าน นางมนพร เจริญศรี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม ตัวแทน ครม. กล่าวขอบคุณสภาที่รับหลักการ และเชื่อว่าจะสร้างระบอบประชาธิปไตยไทยมั่นคงและเข้มแข็ง

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image