ผู้ตรวจฯ แจงคำวินิจฉัยศาลรธน. กม.ฟ้องชู้ขัดรธน. ชี้ หลังครบ 360 วัน จะฟ้องเพศเดียวกันได้แล้ว

เลขาฯผู้ตรวจฯ แจงคำวินิจฉัยศาล รธน. ชี้ กฎหมายฟ้องชู้ขัด รธน. เหตุความไม่เท่าเทียมทางเพศ ผู้หญิงฟ้องชู้สามีที่เป็นเพศเดียวกันไม่ได้ หลังจาก ครบ 360 วันนี้จะฟ้องเพศเดียวกันได้แล้ว สอดคล้องกับ กม.สมรสเท่าเทียม

เมื่อวันที่ 18 มิถุนายน สืบเนื่องจากที่ศาลรัฐธรรมนูญ พิจารณาคำร้องของผู้ตรวจการแผ่นดิน ที่ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาวินิจฉัยประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 1523 วรรค 2 ขัดรัฐธรรมนูญหรือไม่ กรณีสามีจะเรียกค่าทดแทนจากผู้ซึ่งล่วงเกินภริยาไปในทำนองชู้สาวก็ได้ และภริยาจะเรียกค่าทดแทนจากหญิงอื่น ที่แสดงตนโดยเปิดเผยเพื่อแสดงว่า ตนมีความสัมพันธ์กับสามีในทำนองชู้สาวก็ได้

ซึ่งศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาแล้ว มีมติเป็นเอกฉันท์ว่า ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 1523 วรรค 2 ดังกล่าว ขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญ มีปัญหาเกี่ยวกับความชอบ รัฐธรรมนูญมาตรา 27 วรรคหนึ่ง วรรคสอง วรรคสาม และกำหนดบังคับให้คำวินิจฉัยมีผลเมื่อพ้น 360 วันนับตั้งแต่วันที่ศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัย

เนื่องจาก รัฐธรรมนูญมาตรา 27 วรรคหนึ่ง วรรคสอง วรรคสาม ระบุว่า บุคคลย่อมเสมอกันในกฎหมาย มีสิทธิและเสรีภาพและได้รับความคุ้มครอง ตามกฎหมายเท่าเทียมกัน ชายและหญิงมีสิทธิเท่าเทียมกัน การเลือกปฏิบัติโดยไม่เป็นธรรมต่อบุคคลจะกระทำมิได้

Advertisement

ด้าน พ.ต.ท.กีรป กฤตธีรานนท์ เลขาธิการสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน ในฐานะหน่วยงานที่ยื่นคำร้อง กล่าวชี้แจงว่า ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 1523 วรรคสองมีปัญหาในข้อกฎหมายเพราะบัญญัติไว้ว่า สามีจะเรียกค่าทดแทนจากผู้ซึ่งล่วงเกินภริยาไปในทำนองชู้สาวก็ได้ และภริยาจะเรียกค่าทดแทนจากหญิงอื่นที่แสดงตนโดยเปิดเผยเพื่อแสดงว่าตนมีความสัมพันธ์กับสามีในทำนองชู้สาวก็ได้

จากบทบัญญัติดังกล่าวเท่ากับว่า สามีจะฟ้องเรียกค่าทดแทนจากชู้เพศใดก็ได้ โดยไม่ต้องพิจารณาว่าภริยาจะสมัครใจหรือไม่ และไม่จำเป็นต้องพิจารณาว่าเป็นการแสดงความสัมพันธ์โดยเปิดเผยหรือไม่ ในขณะที่หากเป็นฝ่ายภรรยา จะเรียกร้องค่าทดแทนจากคนที่มาเป็นชู้กับสามีของตน ฟ้องได้เฉพาะผู้หญิงเท่านั้น “ผู้ชายที่มาเป็นชู้กับสามีตนภรรยาฟ้องไม่ได้” อีกทั้งถ้าชู้ของสามีเป็นหญิงยังมีเงื่อนไขว่าต้องเป็นหญิงที่แสดงความสัมพันธ์ในทางชู้สาวโดยเปิดเผย ถ้าคบกันหลบๆซ่อนๆไม่เปิดเผยจะไปเรียกค่าทดแทนไม่ได้ ซึ่งผู้ตรวจการแผ่นดินวินิจฉัยแล้วเห็นว่า บทบัญญัติดังกล่าวขัดกับรัฐธรรมนูญที่กำหนด บุคคลย่อมเสมอกันในกฎหมาย ชายและหญิงมีสิทธิเท่าเทียมกัน การเลือกปฏิบัติโดยไม่เป็นธรรมต่อบุคคลไม่ว่าด้วยเหตุความแตกต่างในเรื่องเพศจะกระทำมิได้ จึงส่งเรื่องไปยังศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย

สำหรับกระบวนการหลังจากนี้ จะเป็นหน้าที่ของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปดำเนินการแก้ไขข้อกฎหมายตามที่ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย ทั้งนี้คำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญผูกพันทุกองค์กร เมื่อครบ 360 วัน จะส่งผลให้สามารถฟ้องชู้เพศเดียวกันของสามีได้ ตามคำวินิจฉัยของศาล

Advertisement

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าสำหรับ ร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.)สมรสเท่าเทียม มาตรา 49 ที่เพิ่งผ่านการพิจารณาของวุฒิสภาวันนี้ ได้ระบุยกเลิก ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 1523 ทั้งมาตราแล้ว โดยระบุ ให้ใช้ความต่อไปนี้แทน มาตรา 1523 เมื่อศาลพิพากษาให้หย่ากันเพราะเหตุตามมาตรา 1516 (1) คู่สมรสฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งมีสิทธิได้รับค่าทดแทนจากคู่สมรสอีกฝ่ายหนึ่ง และจากผู้ซึ่งได้รับการอุปการะเลี้ยงดูหรือยกย่อง หรือผู้ซึ่งเป็นเหตุแห่งการหย่านั้น

“คู่สมรสฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งจะเรียกค่าทดแทนจากผู้ซึ่งล่วงเกินคู่สมรสอีกฝ่ายหนึ่งไปในทำนองชู้ หรือ จากผู้ซึ่งแสดงตนโดยเปิดเผยเพื่อแสดงว่าตนมีความสัมพันธ์กับคู่สมรสอีกฝ่ายหนึ่งในทำนองชู้ก็ได้”

ซึ่งเป็นการแก้ไขคำจาก ผู้ซึ่งล่วงเกินสามี ภรรยา (ชู้) เป็นผู้ซึ่งล่วงเกินคู่สมรส เพื่อให้ครอบคลุมทุกเพศตามหลักการของกฎหมายสมรสเท่าเทียม

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image