สมเด็จพระมหาวีรวงศ์ – ปลัดมท. ประกอบพิธีถวายไทยธรรมพระราชทาน วัดป่ามหาวีรวงศ์

สมเด็จพระมหาวีรวงศ์ – ปลัดมท. นำพุทธศาสนิกชน ประกอบพิธีถวายไทยธรรมพระราชทาน ผูกพัทธสีมา ฝังลูกนิมิต วัดป่ามหาวีรวงศ์

เมื่อวันที่ 19 มิถุนายน ที่มณฑลพิธีวัดป่ามหาวีรวงศ์ ตำบลชะอม อำเภอแก่งคอย จังหวัดสระบุรี เจ้าประคุณสมเด็จพระมหาวีรวงศ์ เลขานุการสมเด็จพระสังฆราช กรรมการมหาเถรสมาคม เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย(มท.) เป็นประธานฝ่ายฆราวาสในพิธีถวายไทยธรรมพระราชทาน และพิธีผูกพัทธสีมา ฝังลูกนิมิต ฉลองอุโบสถ “ถาวรานุสรณ์ 101 ปี สมเด็จพระมหาวีรวงศ์ (มานิต ถาวรมหาเถร ป.ธ.9)” วัดป่ามหาวีรวงศ์ โดยได้รับเมตตาจาก พระราชวัชราภรณ์ เจ้าคณะภาค 1-2-3 (ธ) พระราชวัชรญาณรังสี เจ้าคณะจังหวัดสระบุรี (ธ) พระครูปลัดภัทรพล ภทฺทธมฺโม เจ้าอาวาสวัดป่ามหาวีรวงศ์ ร่วมประกอบพิธี โดยมี นายพงศ์รัตน์ ภิรมย์รัตน์ อธิบดีกรมโยธาธิการและผังเมือง พล.อ.จิรวิทย์ เดชจรัสศรี เจ้ากรมเสมียนตรา สำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม นายบัญชา เชาวรินทร์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสระบุรี นายสุเมธ มีนาภา รองอธิบดีกรมโยธาธิการและผังเมือง นายดุรงค์ฤทธิ์ ศิริวัฒนพันธ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสระบุรี พล.ต.ต.ธรรมนูญ เชาวะวนิชย์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสระบุรี นางรพีวรรณ บำรุง ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดสระบุรี นายมนตรี ปรีดา นายอำเภอแก่งคอย หัวหน้าส่วนราชการ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน แขกผู้มีเกียรติ และพุทธศาสนิกชนจำนวนมาก ร่วมพิธี

โอกาสนี้ นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย ประธานฝ่ายฆราวาส จุดธูปเทียนบูชาพระรัตนตรัย แล้วถวายธูปเทียนแพเบื้องหน้าพระบรมฉายาลักษณ์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และถวายมุทิตาสักการะเจ้าประคุณสมเด็จพระมหาวีรวงศ์ ประธานฝ่ายสงฆ์ จากนั้นเชิญประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่องพระราชทานวิสุงคามสีมา ถวายแด่ประธานฝ่ายสงฆ์ โดยระบุว่า “พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมพระราชทานวิสุงคามสีมาให้แก่วัดตามเขตที่กำหนดไว้ในบัญชีนั้น และให้นายอำเภอท้องที่ปักหมายเหตุให้ถูกต้องตามที่กำหนดไว้ ประกาศ ณ วันที่ 22 สิงหาคม พ.ศ. 2566 งวดที่ 1 ประจำปี 2566 ที่ 152 วัดป่ามหาวีรวงศ์ ตำบลชะอม อำเภอแก่งคอย จังหวัดสระบุรี กำหนดเขตกว้าง 21 เมตร ยาว 31 เมตร”

Advertisement

จากนั้น เจ้าประคุณสมเด็จพระมหาวีรวงศ์ เลขานุการสมเด็จพระสังฆราช กรรมการมหาเถรสมาคม ประธานฝ่ายสงฆ์ เมตตามอบมีดตัดหวายลูกนิมิตแก่นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย หัวหน้าส่วนราชการ คณะเจ้าภาพ เพื่อร่วมตัดหวายลูกนิมิตพร้อมกัน เสร็จแล้ว ร่วมถวายเครื่องไทยธรรมพระราชทาน พระสงฆ์เจริญชัยมงคลคาถา อนุโมทนา ถวายอดิเรก แล้วเดินเข้าสู่อุโบสถ เพื่อประกอบพิธีผูกพัทธสีมา จากนั้นประธานฝ่ายสงฆ์สวดสมมติจีวราวิปปวาสสีมา และสมานสังวาสสีมา และเจริญพระพุทธมนต์ฉลองอุโบสถ เป็นอันเสร็จพิธี

นายสุทธิพงษ์ กล่าวว่า ตามความเชื่อของชาวพุทธจะได้รับการปลูกฝังสอนสั่งจากพ่อแม่ปู่ย่าตายายว่า หากใครได้มีโอกาสร่วมทำบุญหรือเข้าพิธี “ฝังลูกนิมิต” หรือพูดง่าย ๆ ว่าได้ร่วมสร้างโบสถ์ถวายพระพุทธศาสนาเพื่อเหล่าพระสงฆ์ได้ใช้ทำสังฆกรรมเพียงสักครั้งเดียวในชีวิต ตามกำลังศรัทธาในการร่วมทำบุญงานฝังลูกนิมิต มีน้อยทำน้อย มีมากทำมาก โดยไม่ทำให้ตนและครอบครัวต้องเดือดร้อน เพื่อเป็นการสะสมเสบียงบุญไว้ใช้ในภพหน้าตามความเชื่อของชาวพุทธเรา และจะทำให้ได้รับอานิสงส์ 6 ประการ คือ 1. จะไม่มีโรคภัยไข้เจ็บทุกชาติ ปราศจากอุปัทวันตราย สิ่งอัปมงคลทั้งหลาย 2. จะไม่เกิดในตระกูลต่ำ ไม่ยากจน จะมีแต่ความอุดมสมบูรณ์ 3. หากเกิดในโลกมนุษย์ ก็จะเกิดในตระกูลที่ดี 4. หากเกิดในเทวโลกก็จะเกิดเป็นท้าวสักกเทวราช 5. จะสมบูรณ์พร้อมด้วยทรัพย์สิน เงินทอง มีฐานะ มีคนให้เกียรติ มีผิวพรรณผ่องใส งดงาม และ 6. จะมีอายุยืนนาน ปฏิภาณ ธนสารสมบัติ สมบูรณ์พูนผล สุขภาพร่างกายแข็งแรง นอกจากนี้ หากพวกเราผู้เป็นพุทธศาสนิกชน พึงที่จะได้ทำบุญด้วยการปฏิบัติบูชา ด้วยจิตใจที่บริสุทธิ์ และมีความมุ่งมั่นตั้งใจจริง ๆ ที่จะทำ ผลบุญที่ได้ก็จะบังเกิดกับตัวเองและครอบครัวเช่นกัน

Advertisement

“สำหรับ “วัดป่ามหาวีรวงศ์” เป็นวัดราษฎร์ สังกัดคณะสงฆ์ธรรมยุติกนิกาย ตั้งอยู่เลขที่ 118 หมู่ที่ 7 บ้านโคกกระชาย ตำบลชะอม อำเภอแก่งคอย จังหวัดสระบุรี ได้รับประกาศ ให้เป็นวัดในพระพุทธศาสนา เมื่อวันที่ 18 ตุลาคม พ.ศ. 2562 ได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมา เมื่อวันที่ 22 สิงหาคม พ.ศ. 2566 และนายอำเภอได้ประกอบพิธีปักเขตสีมาอุโบสถ เมื่อวันที่ 28 ตุลาคม พ.ศ. 2566 ตามประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดย “วัดป่ามหาวีรวงศ์” แห่งนี้ สร้างขึ้นเพื่อเป็นวัดป่ากรรมฐาน เป็นอนุสรณ์เนื่องในโอกาสวันชาตกาลครบ 101 ปี ท่านเจ้าประคุณสมเด็จพระมหาวีรวงศ์ (มานิต ถาวรมหาเถร ป.ธ.9) อดีตเจ้าอาวาสวัดสัมพันธวงศ์ อดีตกรรมการมหาเถรสมาคม พระมหาเถระผู้เป็นศิษย์พระกรรมฐานสายหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต โดยมีพระเทพวชิโรดม เจ้าอาวาสวัดสัมพันธวงศ์ เป็นประธานที่ปรึกษาโครงการ พระครูสิริสารโสภณ เป็นประธานโครงการ และมอบหมายให้พระครูปลัดภัทรพล ภทฺทธมฺโม เป็นเจ้าอาวาส ด้วยเจตนาดำริของคณะศรัทธาคุณธนาภา ปัฐพาณิชย์โชติ และคุณชลทิพย์ สงวนกิจวิบูลย์ เป็นผู้ถวายที่ดินให้สร้างวัดในเบื้องต้น และ จ.ส.ต. ดร. พิชิต – คุณสุภาวิณี ทั้งพรม พร้อมครอบครัว เป็นผู้ถวายที่ดินสร้างวัดเพิ่มเติมผืนที่ 2 โดยอุโบสถ “ถาวรานุสรณ์ 101 ปี สมเด็จพระมหาวีรวงศ์” หลังนี้ เป็นอาคารคอนกรีตเสริมเหล็กถาวรหลังแรกของวัด เริ่มก่อสร้างมาตั้งแต่ พ.ศ. 2562 มีพื้นที่ขนาดกว้าง 14 เมตร ยาว 24 เมตร งบประมาณการก่อสร้าง จำนวน 5,050,000 บาท ได้รับการอุปถัมภ์ทุนทรัพย์โดย คุณธนาภา ปัฐพาณิชย์โชติ และครอบครัวปัฐพาณิชย์โชติ พร้อมพุทธศาสนิกชนทั่วประเทศ”นายสุทธิพงษ์ กล่าว

นายสุทธิพงษ์ กล่าวว่า นับเป็นโอกาสอันเป็นมงคลยิ่งที่ได้ร่วมในพิธีอันเป็นสรรพสิริมงคลยิ่งร่วมกับพี่น้องพุทธศาสนิกชนชาวจังหวัดสระบุรีและพี่น้องญาติธรรมจากทั่วประเทศ ทั้งนี้ กระทรวงมหาดไทยมุ่งมั่นในการร่วมสนองงานคณะสงฆ์ ด้วยการขับเคลื่อนเจตนารมณ์การ “Change for Good” ร่วมกับภาคีเครือข่าย โดยมีพระสงฆ์ซึ่งเป็นผู้นำด้านศาสนาเป็นหลักชัย อันสอดคล้องตามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือการขับเคลื่อนโครงการวัด ประชา รัฐ สร้างสุข โดยได้รับเมตตาจากเจ้าประคุณสมเด็จพระมหาวีรวงศ์ กรรมการมหาเถรสมาคม ประธานคณะกรรมการฝ่ายสาธารณูปการของมหาเถรสมาคม หนุนนำทำให้เกิดการส่งเสริมทำนุบำรุงพระพุทธศาสนาให้เป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจของคนไทย โดยพัฒนาวัดและชุมชนให้สะอาด ร่มรื่น เรียบร้อย สวยงาม เป็นสถานที่สัปปายะ เหมาะสมกับการเรียนรู้และการพัฒนาจิตใจของประชาชน ภายใต้การบูรณาการความร่วมมือในรูปแบบของพลัง “บวร” คือ บ้าน วัด ราชการ โดยมี ผู้ว่าราชการจังหวัด และพี่น้องประชาชนในพื้นที่ เป็นเป้าหมายที่สำคัญ สอดคล้องกับปณิธานมหาดไทย “บำบัดทุกข์ บำรุงสุข” ส่งเสริมให้เกิดสิ่งที่ดีต่อบ้านเมือง เกิดความมั่นคงทางอาหาร ยา และเครื่องนุ่งห่ม และมุ่งพัฒนาชาติด้วยหลักธรรมทางศาสนา อันจะทำให้คนมีจิตใจที่ดีงาม มีจิตใจเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ มีความรักความสามัคคี ทำประโยชน์ต่อส่วนรวม อันเป็นการสนองพระราชปณิธานของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ดังพระราชดำรัสที่พระราชทานแก่ข้าราชบริพารในพระองค์ เมื่อวันที่ 30 มิถุนายน 2563 ความว่า “ประเทศชาติมั่นคง ประชาชนมีความสุข แก้ไขในสิ่งผิด สืบสานในพระราชปณิธาน ภายใต้ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง” ที่เป็นการขยายความพระปฐมบรมราชโองการ เมื่อวันที่ 4 พฤษภาคม 2562 ความว่า “เราจะสืบสาน รักษา และต่อยอด และครองแผ่นดินโดยธรรม เพื่อประโยชน์สุขแห่งอาณาราษฎรตลอดไป”

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image