เศรษฐา ปรับยุทธศาสตร์การทำงาน หลังลงพื้นที่ยังมีข้อร้องเรียน รับผลโพลเป็นฟีดแบ๊กให้รบ.

‘เศรษฐา’ เผย ปรับยุทธศาสตร์การทำงาน หลังลงพื้นที่ยังมีข้อร้องเรียน รับผลโพลเป็นฟีดแบ๊กให้ต้องปรับตัว สุดท้ายผลงานจะเป็นที่ยอมรับ หวังเงินดิจิทัลผ่านวาระ 3 กระตุ้นเศรษฐกิจไตรมาส 4 ลั่นรัฐบาลยังเป็นปึกแผ่น

เมื่อเวลา 11.15 น. วันที่ 30 มิถุนายน ที่โรงเรียนรัตนบุรี ตำบลรัตนบุรี อำเภอรัตนบุรี จังหวัดสุรินทร์ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงการลงพื้นที่ในหลายจังหวัด แต่ผลโพลสำรวจยังออกมาพบว่านายกรัฐมนตรียังได้รับความนิยมเป็นรองจาก นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคก้าวไกล และพรรคก้าวไกล ตรงนี้จะมีการปรับยุทธศาสตร์อย่างไรหรือไม่ ว่า ตนคิดว่ายุทธศาสตร์เรามีการปรับตลอดเวลา จะมีโพลหรือไม่มีโพลก็ตาม เพราะการลงพื้นที่แต่ละครั้งก็ถือว่าไม่สมบูรณ์แบบจริงๆ ยังมีข้อร้องเรียน ข้อเรียกร้อง ระยะเวลา และความลึกของการลงพื้นที่ รวมถึงระยะเวลาที่ให้กับพ่อแม่พี่น้อง มีหลายๆ ปัญหาที่ยังไม่ถูกนำมาพูดถึง แต่ทุกครั้งเวลาลงพื้นที่เวลากลับไปจะมีการพูดคุยกันว่าจะทำอย่างไรให้ทุกอย่างดีขึ้น ไม่ใช่แค่ลงพื้นที่อย่างเดียว นโยบายต่างๆ หรือการที่จะมีการปรับโครงสร้าง และการดูแลประชาชนในหลายๆ ด้าน เราคงมีการปรับตัว โพลก็เป็นส่วนหนึ่งที่ให้ฟีดแบ๊กกับเรา

ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีที่นายกรัฐมนตรีได้คะแนน จากความมุ่งมั่น โดยส่วนตัวคิดว่าตัวเองยังขาดอะไรอีกหรือไม่ นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า มันก็มีหลายจุด และต้องยอมรับว่าเรายังไม่ได้ทำอะไรที่อยากทำ และนโยบายหลักก็ยังไม่ได้คลอดออกไป งบประมาณเพิ่งใช้ได้ไม่ถึง 2 เดือนนี้เอง แต่ก็ไม่ได้อยากอ้างงบประมาณตลอดเวลา ทั้งนี้ มองในเรื่องความมุ่งมั่นก็ต้องขอบคุณ แต่ท้ายสุดแล้วคือผลงานมากกว่าที่เราต้องยอมรับ ซึ่งต้องใช้เวลาพอสมควรเหมือนกัน แต่ทุกๆ คำถามทุกๆ โพลที่ออกมาเราก็น้อมรับ ส่วนการจะไปถามครอบคลุมทุกภาคส่วนหรือเปล่าสื่อมวลชนต้องไปดู ว่าเข้ามาสำรวจในจังหวัดสุรินทร์ หรือในพื้นที่รอบๆ ครบหรือเปล่า หรือถามแต่จังหวัดใหญ่ๆ

เมื่อถามว่า นักลงทุนต่างประเทศที่จะเข้ามาลงทุนในไทย ซึ่งนายกรัฐมนตรีตั้งเป้าในไตรมาส 4 อยากมา และบวกกับเงินดิจิทัลวอลเล็ต เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ ตรวจสอบแล้วนักลงทุนจะเข้ามาเยอะแค่ไหน นายเศรษฐากล่าวว่า จริงๆ แล้วตั้งแต่ก่อนไตรมาส 4 ก็เข้ามาเยอะขึ้นกว่าปีที่แล้ว แต่พอดีตัวเลขเยอะเหลือเกินตนจำไม่ได้ แต่ละช่วงไตรมาสเพิ่มขึ้นมาตลอดเวลา ฉะนั้นเป็นส่วนหนึ่งที่จะเป็นระยะยาว เม็ดเงินที่ลงมาก็เป็นส่วนหนึ่ง แต่เม็ดเงินบางส่วนที่ลงมาก็เป็นเพียงเม็ดเงินเบื้องต้น เช่น ถ้ามาสร้างโรงงานเม็ดเงินที่มาก็เป็นการซื้อที่ แต่เมื่อสร้างโรงงานมีการจ้างงาน มีการซื้อสินค้าแล้ว เชื่อว่าประโยชน์ก็จะมีมากขึ้นเรื่อยๆ

Advertisement

เมื่อถามว่าการลงทุนถือเป็นการขับเคลื่อนที่ดี แต่การลงพื้นที่นายกรัฐมนตรีประกาศว่าในไตรมาส 4 เงินดิจิทัลได้แน่ ขณะที่สภายังแขวนเรื่องนี้ไว้ในวาระ 2 ชั้นกรรมาธิการ จะสะดุดอะไรหรือไม่ นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ตนเชื่อว่าเป็นนโยบายหลัก ที่ประชาชนให้ความสนใจ และ ส.ส.ซึ่งเป็นตัวแทนประชาชนต้องซักถามให้ละเอียด หากจะใช้คำว่าแขวนอยู่ก็ตามที รัฐบาลก็ต้องนำไปพิจารณาว่าเราทำอะไรที่ไม่สมบูรณ์หรือเปล่า และต้องกลับไปตอบคำถามเขาให้ได้ เมื่อถามว่ารัฐบาลเตรียมแผนไว้แล้วใช่หรือไม่หากในวาระ 3 เกิดสะดุด สมาชิกส่งตีความให้เกิดความชัดเจน นายเศรษฐากล่าวว่า “ความตั้งใจเราอยากให้ผ่านวาระ 3 ครับ”

เมื่อถามว่า วันนี้รัฐบาลยังเป็นปึกแผ่นใช่หรือไม่ นายเศรษฐากล่าวว่า เมื่อวันที่ 29 มิถุนายน การลงพื้นที่ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.มหาดไทย ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทยก็มา นายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.การพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ในฐานะหัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมว.เกษตรและสหกรณ์ ในฐานะเลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ ก็มา ตนก็ไม่เห็นจะมีปัญหาอะไร และเมื่อกี้ก็เห็น ส.ส.จากพรรคภูมิใจไทยก็มานั่งอยู่ด้วย ก็ไม่เห็นว่ามีปัญหาเลย และการลงพื้นที่ตนก็ไม่ได้เลือกแจกงบไปที่จังหวัด อำเภอ หรือเขตที่มี ส.ส.พรรคเพื่อไทย ตนคำนึงถึงพี่น้องประชาชนเป็นหลักมากกว่า และเชื่อว่าทีมงานจากสำนักนายกรัฐมนตรีที่ยืนอยู่ตรงนี้ คำนึงถึงปัญหาพี่น้องประชาชน สิ่งสำคัญที่สุดคือเสียงของพี่น้องประชาชน

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image