ครม.มีมติให้ดิวตี้ฟรีหยุดขายสินค้าปลอดภาษีขาเข้า 1 ปี กระตุ้นการซื้อในประเทศ คาดนทท.จ่ายเพิ่มหัวละ 750บ.

ครม.ไฟเขียวให้ดิวตี้ฟรีหยุดขายสินค้าปลอดภาษี ขาเข้า 1 ปี หวังกระตุ้นการซื้อในประเทศ คาดนทท.จ่ายเพิ่มหัวละ 750บ.

เมื่อวันที่ 2 กรกฎาคม ที่มรภ.นครราชสีมา นางรัดเกล้า อินทวงศ์ สุวรรณคีรี รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงผลประชุมครม.สัญจร ว่า ครม.รับทราบแนวทางการส่งเสริมประเทศไทยให้เป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยวและการใช้ ตามที่กระทรวงการคลัง (กค.) เสนอ ดังนี้ 1.แนวทางการหยุดการดำเนินการใช้สิทธิประโยชน์ทางภาษีอากรด้านคลังสินค้าทัณฑ์บนเพื่อขายสำหรับร้านค้าปลอดอากร (ดิวตี้ฟรี)ขาเข้าของผู้ประกอบการ 2.ผลประโยชน์และผลกระทบของการหยุดการดำเนินการใช้สิทธิประโยชน์ทางภาษีอากรด้านคลังสินค้าทัณฑ์บนเพื่อขายสำหรับร้านค้าปลอดอากรขา

ทั้งนี้ปัจจุบันผู้ที่เดินทางเข้ามาในราชอาณาจักร ผ่านทางท่าอากาศยานนานาชาติ สามารถซื้อสินค้าโดยได้รับสิทธิยกเว้นอากร ตามหลักเกณฑ์ อาทิ ซื้อเพื่อใช้เองเป็นการส่วนตัวหรือใช้ในวิชาชีพ ราคารวมกันไม่เกิน 2 หมื่นบาท ,บุหรี่ปริมาณไม่เกิน 200 มวน ซิก้าร์ หรือยาเส้น ปริมาณไม่เกินอย่างละ 250 กรัม หรือหลายชนิดรวมกันปริมาณไม่เกิน 250 กรัม ส่วนสุราปริมาณไม่เกินหนึ่งลิตร ทำให้การจับจ่ายในการบริโภคและการซื้อสินค้าภายในประเทศมีน้อยลง

กระทรวงการคลัง จึงมีแนวคิดที่จะศึกษาความเหมาะสมในการยกเลิกการอนุญาตให้จัดตั้งคลังสินค้าทัณฑ์บนเพื่อขายสำหรับร้านค้าดิวตี้ฟรี ขาเข้า รวมถึงการยกเว้นอากรของที่ซื้อจากร้านดิวตี้ฟรี้ สำหรับผู้โดยสารขาเข้า เพื่อส่งเสริมการบริโภคและการใช้สินค้าภายในประเทศให้กระจายหมุนเวียนในประเทศ เกิดประสิทธิภาพและมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจ

Advertisement

โดยปัจจุบันมีนิติบุคคลที่ได้รับอนุญาตให้จัดตั้งคลังสินค้าทัณฑ์บนประเภทร้านดิวตี้ฟรี ขาเข้า 3 ราย ในท่าอากาศยานนานาชาติ 8 แห่งทั่วประเทศ ยอดจำหน่ายสินค้า รวมเป็นจำนวน 3,021.75 ล้านบาท โดยผู้ประกอบการที่ได้รับอนุญาตให้ประกอบกิจการร้านค้า ทั้ง 3 ราย ยินดีที่จะหยุดการดำเนินการใช้สิทธิประโยชน์ทางภาษีอากรด้านคลังสินค้าทัณฑ์บนเพื่อขายสำหรับร้าน ดิวตี้ฟรีขาเข้า ตามนโยบายของรัฐบาล จนกว่ารัฐบาลจะมีการยกเลิกนโยบายดังกล่าว

สำหรับผลประโยชน์และผลกระทบของการหยุดการดำเนินการใช้สิทธิประโยชน์ทางภาษีอากรด้านคลังสินค้าทัณฑ์บนเพื่อขายสำหรับร้านดิวตี้ฟรี 1 ปี จะทำให้นักท่องเที่ยวต่างชาติ เพิ่มการจับจ่ายใช้สอยในประเทศมากขึ้น คาดว่าจะส่งผลให้ค่าใช้จ่ายเฉลี่ยของนักท่องเที่ยวต่อคนต่อทริปเพิ่มขึ้นประมาณ 570 บาท ขณะที่ผู้เดินทางชาวไทย อาจจะเลือกใช้จ่ายซื้อสินค้าปลอดอากรจากประเทศต้นทางเพื่อทดแทนหรือใช้จ่ายซื้อสินค้าประเภทเดียวกันในประเทศเพิ่มมากขึ้น ส่วนผู้ประกอบการคลังสินค้าทัณฑ์บนประเภทร้านดิวตี้ฟรี้ สูญเสียรายได้อากรขาเข้าส่วนของการจำหน่ายสินค้าในร้าน แต่คาดว่าจะส่งผลให้ผู้ประกอบการร้านค้าและผู้เกี่ยวข้องในภาคการท่องเที่ยว ร้านค้าทั่วไปเสมือนได้รับเม็ดเงินหมุนเวียนใหม่เพิ่มเติมสูงสุด 3,460 ล้านบาทต่อปี สร้างโอกาสและส่งผลเชิงบวกต่อการผลิต การลงทุน และจ้างงานได้ต่อ ขณะที่รายได้ของภาครัฐ จะมีเม็ดเงินหมุนเวียนกระจายสู่ผู้ประกอบการร้านค้าในวงกว้างขยายฐานการจัดเก็บภาษีของภาครัฐ และภาษีมูลค่าเพิ่ม และคาดว่าจะส่งผลให้ผลิตภัณฑ์มวลรวม ขยายตัวได้เพิ่มขึ้นร้อยละ 0.012 ต่อปี

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image