ป้านก ถอนหายใจ คาดฝ่ายปชต.เข้าไม่ถึง 1 ใน 3 ‘อานนท์’ หวัง ส.ว.ชุดใหม่ดันนิรโทษ ได้พ้นคุก

‘ป้านก’ ถึงกับถอนหายใจ คาด 1 ใน 3 ฝ่าย ปชต.ไม่น่าได้ ‘อานนท์’ ฝากส่งใจจากคุก บอก ‘หวังสนาม ส.ว.’ ถ้าชนะอาจจะได้ออก

เมื่อวันที่ 26 มิถุนายน ที่อาคาร 4 ศูนย์การประชุมอิมแพ็คฟอรั่ม เมืองทองธานี อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศการเลือกสมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) ระดับประเทศ ซึ่งมีผู้สมัครในบัญชีที่ผ่านการคัดเลือกในระดับจังหวัดรวม 3,000 คน โดยถูกตัดสิทธิ 5 คน เหลือ 2,995 คนนั้น

บรรยากาศเวลา 08.00 น. ภายในฮอลล์ 4 สถานที่เลือก ส.ว.ระดับประเทศ มีการติดตั้งจอมอนิเตอร์ขนาดใหญ่ 4×3 เมตร จำนวน 2 จอ ที่หน้าห้องพร้อมถ่ายทอดสดการเลือก โดยจัดเก้าอี้ให้ผู้สังเกตการณ์นั่งจับตาภายนอก และเปิดให้ผู้สื่อข่าวเข้าไปเก็บภาพตามช่วงเวลา โดยภายในห้องประชุมซึ่งเป็นสถานที่เลือก ส.ว.มีการแบ่งคูหาของแต่ละกลุ่มอาชีพเป็น 20 โซน มีป้ายเบอร์กลุ่มอาชีพขนาดใหญ่แขวนบริเวณบนเพดานอย่างชัดเจน

Advertisement

บรรยากาศเวลา 11.15 น. การเลือกรอบแรก “เลือกกันเองในกลุ่ม” แล้วเสร็จ จากนั้นมีการนับคะแนน โดยเปิดให้สื่อมวลชนและผู้สังเกตการณ์ที่ได้รับอนุญาตเข้ามาร่วมรับชมการเลือกของแต่ละกลุ่มอาชีพเป็นเวลา 20 นาที คาดว่าช่วงเวลา 15.00 น.เป็นต้นไปจะเข้าสู่การเลือกรอบไขว้ แบ่ง 4 สาย สายละ 5 กลุ่มอาชีพ และลดพื้นที่เป็น 5 โซน

นางนภัสสร บุญรีย์ หรือ ป้านก นักกิจกรรมการเมือง หนึ่งในผู้สมัคร ส.ว.กลุ่มสตรี ที่ตกรอบในการเลือกระดับจังหวัดกรุงเทพมหานคร ให้สัมภาษณ์ “มติชน” ว่าเดินทางมาร่วมสังเกตการณ์ตั้งแต่เวลา 08.00 น. จากวงเวียนใหญ่ มาให้กำลังใจเพื่อนๆ หลายคน ซึ่งลงในหลายกลุ่ม ทั้งแรงงาน ประชาสังคม และยังมีที่ลงกลุ่มเดียวกับตนด้วยคือกลุ่มสตรี

เมื่อถามว่า รู้สึกอย่างไรบ้างที่ผ่านเข้ามาไม่ถึงรอบไฟนัล? นางนภัสสรกล่าวว่า ถือเป็นประสบการณ์ครั้งหนึ่งในชีวิต เป็นเพราะรัฐธรรมนูญที่บิดๆ เบี้ยวๆ อย่างนี้ที่ทำให้เราต้องเข้ามาอยู่ตรงนี้

Advertisement

“อย่างป้านกเป็นนักกิจกรรม เข้ามาตรงนี้ก็ถือว่าเราได้ช่วยทำเต็มที่แล้ว ก็ขอให้กำลังใจเพื่อนๆ ต่อไป

คนที่จะเข้าไปก็ขอให้ยึดมั่นในหลักการ อย่างที่พวกเราคุยกันมา ฝ่ายประชาธิปไตย ต้องเอาเด็กๆ ออกก็ก่อน ป้าสงสาร ตอนนี้น่าจะ 53 คนที่ยังอยู่ในเรือนจำ ไม่ยอมปล่อยออกมา” นางนภัสสรกล่าว

นางนภัสสรกล่าวต่อว่า ตอนนั้นที่ น.ส.ทานตะวัน ตัวตุลานนท์ และ น.ส.อรวรรณ ภู่พงษ์ หรือ แบม อดอาหาร เหลือสู้กันอยู่ 3 คน พอมาตอนนี้พอได้รัฐบาลที่มาจากเลือกตั้ง เคยคิดว่าสถานการณ์จะดีกว่า แต่กลับไม่ใช่เช่นนั้น

“ฟังเสียงประชาชนหน่อย คุณมาจากการเลือกตั้ง มาจากประชาธิปไตย” นางนภัสสรกล่าว

เมื่อถามว่า ทำไมยังสู้ต่อเนื่องไม่หยุด จนเข้ามาสู่สนาม ส.ว.? นางนภัสสรกล่าวว่า เพราะมันไม่มีความยุติธรรม ไม่ถูกต้อง ส่วนตัวสู้มาตั้งแต่พฤษภาทมิฬ ก็โดนจับตอนนั้น สู้ตั้งแต่นั้นมาไม่เคยหยุดเลย ตอนนั้นตนอายุ 27-28 ปี มีลูกอายุ 5 ขวบแล้ว

“สู้มาตลอด มันเห็นความไม่ถูกต้อง มันอยู่ในสายเลือด พอเข้ามาตรงนี้ มันเกิดอะไรขึ้น ถ้าเราไม่ออกมาก็ไม่จบ ออกมา 1 คน 2 คน ออกมารวมกันมันก็จะเยอะขึ้น สมัยก่อนที่คนเยอะ เพราะมันไม่มีโลกโซเชียล ใครอยากรู้อยากเห็น คุณก็ต้องเดินออกมา มาตรงจุดที่เขาทำอะไรกัน แต่ทุกวันนี้ มันไม่ใช่

โลกโซเชียลมันกว้าง ใครอยากรู้ก็ดูเอา ไม่ต้องออกมา แต่เวลาทำกิจกรรมทำอะไรก็อยากให้ออกมาช่วยกันหน่อย มาเป็นกำลังใจให้กัน อย่างน้อยๆ ก็ให้กำลังใจน้องๆ ที่ติดคุกอยู่” นางนภัสสรระบุ

นางนภัสสรเผยด้วยว่า เมื่อวานนี้ตนก็ไปดู นายอานนท์ นำภา เดินทางไปขึ้นศาล

“วันนี้อานนท์ก็ขึ้นศาลอีก แต่ก็บอกเขาไว้ว่าป้านกไม่ได้ไปหาเด้อ จะมาเชียร์เพื่อนๆ ที่เมืองทองธานีก่อน” นางนภัสสรเผย

เมื่อถามต่อว่า แล้วนายอานนท์ว่าอย่างไรบ้าง? นางนภัสสรเผยว่า อานนท์ฝากให้กำลังใจทุกคนที่พยายามจะทำตรงนี้ให้ดีขึ้น แต่จะทำได้มากน้อยแค่ไหน ก็สุดแล้วแต่

“อานนท์มีความหวังกับสนามการเลือก ส.ว. พูดก็พูดนะ เขาบอกว่าฝ่ายเราถ้าชนะเขาก็อาจจะได้ออกมา ถ้าชนะการเลือกตั้งด้วย แล้วมี ส.ว. แล้วดันกฎหมายทุกอย่าง เขียนรัฐธรรมนูญใหม่ จะแก้ไขหรือะไรก็แล้วแต่ หรือว่าจะช่วยดันร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ตรงนี้อานนท์เขาก็มีความหวัง เราก็พยายามจะทำ แต่ว่ามันไปไม่ถึง เราอยากจะไปช่วยตรงนี้ แล้วก็ปิดสวิสต์ ส.ว.ไปเลย ตั้งใจมาปิดสวิตช์ ส.ว.” นางนภัสสรเผย

เมื่อถามว่า คิดว่า ส.ว.ฝ่ายประชาธิปไตยจะเข้าไปได้ถึง 1 ใน 3 หรือราว 75 คนหรือไม่?

นางนภัสสรถอนหายใจ ก่อนกล่าวว่า คิดว่าน่าจะเข้าไปไม่ถึง 1 ใน 3 แต่ละคนตอนนี้เท่าที่มองๆ ดู เหมือนกลุ่มมีอำนาจจะเข้ามาครอบงำแล้ว

“พอมาดูในระดับประเทศเราเห็นแล้วว่ามันไม่ใช่ คุณไม่ให้ทำความรู้จัก ไม่อะไรเลย แล้วอีกอย่างกลุ่มก้อนที่เข้าไปได้ก็มีแต่ฝ่ายอนุรักษนิยม ที่เข้ามาเยอะ นี่คือเรื่องจริง ประชาชนส่วนหนึ่งที่ได้เข้ามาก็เหมือนกับป้านก คือเรียนมาน้อย ส่วนหนึ่งคนอาจจะจบ ป.ตรี แต่ป้านกจบ ป. 4 ทำอาชีพฝังเพชรพลอยเข้าตัวเรือน แบบที่ใส่มาในวันนี้ เมื่อก่อนมีแหวน 20- 30 วง เดี๋ยวนี้แจกลูกหลานหมดแล้ว ขายกินด้วย ขายออกไปม็อบด้วย

เมื่อก่อนตอนที่ นายกฯทักษิณ ชินวัตร ยังอยู่ยอมรับเลยว่าเศรษฐกิจดี ป้านกซื้อทองได้เป็นสิบๆ บาทเลยนะ มีเงินเก็บในบัญชี 200,000-300,000 บาท คิดว่าเดี๋ยวเราจะกลับไปอยู่บ้านนอก ที่ไหนได้พอมีรัฐประหาร ปี 2549 เราก็ไม่ได้กลับไป

ตอนนั้นรัฐประหารปี 2549 ก็ออกมาช่วยเขา เพราะเขาไม่ได้รับความเป็นธรรม ตอนนั้นก็มีแต่พรรคของเขา (ไทยรักไทย) ที่เป็นฝ่ายประชาธิปไตย ว่าทำไมถึงต้องโดนกระทำ เมื่อก่อนเป็นนายกฯที่ดีมาก ดีจริงๆ จากที่เราเคยเจอมา เราก็คิดอย่างนี้เลยออกมาช่วยเขา ทั้งเรื่องเศรษฐกิจ อะไรทุกอย่าง นโยบายจับต้องได้ ชาวบ้านก็รักมาก ป้านกก็รัก รักเหมือนพ่อคนที่สองเลยนะ ยอมตายถวายชีวิตเลย

แต่พอมีการเลือกตั้งที่ผ่านมา นโยบายอะไรที่เขาพูด แค่หาเสียง หาคะแนน คุณก็ลี้ภัย เด็กๆ ก็ลี้ภัย ไปต่างประเทศเป็นร้อยๆ คน บ้านเมืองเราเป็นแบบนี้ ไม่ว่ารัฐธรรมนูญหรืออะไรก็แล้วแต่ มันบิดๆ เบี้ยวๆ

ก็เลยอยากบอกว่า ทุกคนมีความคิด มีความจริงใจที่จะมาแก้ ความรู้เราไม่มี แต่เราก็มีความจริงใจที่อยากทำตรงนี้ คนบางคนเขาเรียนสูงก็จริง แต่เขารู้เหตุ รู้อะไร รู้ปัญหาที่จะแก้ไหม อย่างเราอยู่ในภาคสนาม เรารู้สิ ว่าเด็กต้องการอะไร เราต้องการอะไร” นางนภัสสรเผย

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image